คริสตจักรศิลา อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี

อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปีตามลำดับเล่มที่เรียบเรียงไว้


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 18

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 19

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 20

เรื่องย่อ

การโต้เถียงระหว่างโยบกับเพื่อนทั้งสามยังคงดำเนินต่อไป โยบยืนกรานถึงความบริสุทธิ์ของตน และแสดงความเจ็บปวดและความท้อแท้ เขาเปรียบเทียบความทุกข์ยากกับสิ่งที่ไม่อาจทนได้ ขณะที่เพื่อน ๆ ยังคงยืนยันว่าความทุกข์มาจากบาป และพยายามชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของโยบ

โยบปฏิเสธข้อกล่าวหาและถามถึงความยุติธรรมของพระเจ้า เขาอธิบายว่าความทุกข์ของเขาเกินกว่าที่จะรับได้ และขอให้พระเจ้าทรงยุติความทรมาน เขาเริ่มวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า แต่ยังคงรู้สึกสับสนและหมดหวัง โยบรู้สึกว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้งเขา และความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจเพิ่มขึ้น

แม้เขาจะรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ไม่ใกล้เคียงกับความหมาย แต่เขายังยึดมั่นในความหวังว่าพระเจ้าจะทรงแสดงความยุติธรรมและความเมตตาในที่สุด ช่วงนี้เน้นถึงความเจ็บปวดและความสับสนที่โยบเผชิญ ขณะที่เขาต่อสู้กับความทุกข์ยากและตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของพระเจ้า

 


หลังจากสูญเสียทุกสิ่ง โยบต้องฟังคำแนะนำที่ไม่ดีจากเพื่อนสามคนของเขา ต่อมาเขาปกป้องตัวเองจากคำพูดของเอลีฟาซ โดยไม่ได้สาปแช่งพระเจ้า แม้ว่าเขาจะรู้สึกมืดแปดด้านและเจ็บปวด เขาเข้าใจว่าความทุกข์นี้ไม่มาจากบาปของเขา

เวลาที่เรามีปัญหาความสัมพันธ์ คำถามที่นักบำบัดแนะนำให้ถามคือ “บาปของฉันอยู่ที่ไหนในสถานการณ์นี้?” และ “ฉันจะรับผิดชอบอะไรได้บ้าง?” แต่บางครั้งปัญหาไม่ได้เกิดจากเราจริง ๆ อย่างเช่น ผู้ที่ถูกข่มขืนหรือทำร้าย ไม่ควรคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง บิลดัดก็ให้คำแนะนำไม่ดีเช่นเดียวกัน โดยบอกโยบให้กลับใจ ขณะที่จริง ๆ แล้วโยบเป็นคนไม่มีความผิด

เพื่อน ๆ ของโยบดำเนินการโจมตีเขาในขณะที่เขากำลังเศร้าโศก โดยเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยเขา โยบตอบบิลดัดด้วยความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า เขาอ้างว่าตนจะยื่นขอความเมตตาจากผู้กล่าวหา ซึ่งอาจหมายถึงพระเจ้าหรือซาตาน

การพูดถึงความเมตตาและพระคุณเป็นสิ่งสำคัญ โดยความเมตตาคือการไม่ถูกลงโทษในสิ่งที่เราเหมาะสมจะได้รับ ขณะที่พระคุณคือการได้รับสิ่งดี ๆ ที่เราไม่ควรได้ ทุกคนรวมทั้งโยบเป็นมนุษย์ที่บาป แต่โยบยังเชื่อว่าพระเจ้ายังคงมีเมตตาเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาสมควรถูกลงโทษก็ตาม

 

ข้อคิด: โยบ 6-9

ในเรื่องราวของโยบ เราเห็นพลังของพระเจ้าอย่างชัดเจน โยบพูดถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์หลายประการ เช่น พระองค์ทรงควบคุมดวงอาทิตย์ ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และมีพระทัยที่ฉลาดและทรงพลัง

แม้พระเจ้าจะยิ่งใหญ่ แต่พระองค์ก็ยังทรงใกล้ชิดกับมนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อ โยบได้ถามว่า “มนุษย์คืออะไร ที่พระองค์ทำให้เขายิ่งใหญ่และเอาใจใส่เขาเช่นนี้” พระเจ้าทรงสร้างและควบคุมทุกสิ่ง แต่พระทัยของพระองค์ไม่อยู่ที่ภูเขาหรือดาว แต่ประทับอยู่ที่มนุษย์ ซึ่งเป็นของขวัญที่น่าทึ่งมาก! พระองค์อยู่กับที่ที่มีความปีติยินดี!

 

 คำถาม

  • ความเหมาะสมของคำปลอบโยน: เพื่อนของโยบพยายามปลอบโยนเขาด้วยการกล่าวโทษเขาว่าทำบาป แต่คำพูดของพวกเขาทำให้โยบเจ็บปวดมากกว่าเดิม นี่นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับวิธีการปลอบโยนผู้ที่กำลังทุกข์ทรมานอย่างเหมาะสม อะไรคือวิธีการที่สร้างสรรค์และให้กำลังใจ? การเน้นโทษบาปเป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือไม่? หรือควรเน้นการสนับสนุนและความเข้าใจมากกว่า?
  • ความแตกต่างระหว่างความยุติธรรมและความเมตตา: โยบเรียกร้องความยุติธรรมจากพระเจ้า แต่คำตอบที่เขาได้รับดูเหมือนจะขาดความเมตตา นี่ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างความยุติธรรมและความเมตตา ในสถานการณ์ต่างๆ ควรเน้นด้านใดมากกว่ากัน? ความยุติธรรมที่เข้มงวดเสมอไปจะเหมาะสมหรือไม่? หรือควรให้ความสำคัญกับความเมตตาและการให้อภัย?

 

ความบาป หมายถึงการไม่บรรลุถึงความครบถ้วนแห่งกฎหมายอันชอบธรรมที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับมนุษย์ (กฎทางศีลธรรม) หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระเจ้า เป็นการกระทำที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระองค์ และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเสียหาย

ความบาปเกิดจากอะไร?

  • การไม่เชื่อฟัง: การไม่ยอมทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า
  • ความปรารถนาของตนเอง: การให้ความสำคัญกับความต้องการของตนเองมากกว่าพระเจ้า
  • การหลงผิด: การเชื่อในสิ่งที่ผิดหรือการปฏิบัติตามสิ่งที่ผิด

ผลของบาป

  • การแยกจากพระเจ้า: บาปทำให้มนุษย์ถูกแยกออกจากพระเจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์
  • ความตายทางวิญญาณ: บาปนำมาซึ่งความตายทางวิญญาณ ซึ่งหมายถึงการขาดความสัมพันธ์กับพระเจ้า
  • ความทุกข์ทรมาน: บาปเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานทั้งทางกายและใจ

ตัวอย่างของบาป

  • บาปดั้งเดิม: บาปที่มนุษย์ทุกคนได้รับสืบทอดมาจากอาดัมและเอวา
  • บาปส่วนตัว: บาปที่แต่ละคนกระทำด้วยตนเอง เช่น การโกหก การขโมย การฆ่า
  • บาปที่เป็นความผิดของสังคม: บาปที่เกิดจากการกระทำของกลุ่มคน เช่น ความอยุติธรรม ความรุนแรง

เราจะหลุดพ้นจากความบาปได้อย่างไร?

  • การกลับใจ: การตระหนักถึงความบาปของตนเอง และหันกลับมาหาพระเจ้า
  • ความเชื่อในพระเยซูคริสต์: การเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเสียสละเพื่อชดใช้บาปของมนุษย์
  • การรับพระวิญญาณบริสุทธิ์: การได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่

ความบาปเป็นสภาพที่มนุษย์ทุกคนเผชิญ แต่พระเยซูคริสต์ได้ทรงเสนอทางออกให้เราผ่านการเสียสละของพระองค์ การเข้าใจถึงความบาปจะช่วยให้เราตระหนักถึงความจำเป็นในการกลับใจและรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต

โดยรวมแล้ว พระคุณเป็นการแสดงถึงความงดงามและความรักของพระเจ้า ที่ยินดีที่จะให้มากกว่าที่เราสมควรได้รับ.