Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โยบ 35

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โยบ 36

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โยบ 37

เรื่องย่อ

เอลิฮูชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ไม่สามารถเข้าใจพระเจ้าได้หมด และไม่ควรกล่าวโทษพระองค์ เขาเน้นถึงความสำคัญของการยำเกรงพระเจ้าและการถ่อมตน โดยกล่าวว่าพระเจ้ามีอำนาจเหนือทุกสิ่งและเหตุผลของพระองค์เอง

เขาบอกว่ามนุษย์ไม่ควรรอคอยที่จะเข้าใจการกระทำของพระเจ้า และต้องยอมรับความลึกลับและอำนาจของพระองค์ รวมถึงการยอมรับการลงโทษและกลับใจจากบาป

โยบตอบโต้โดยยืนยันความบริสุทธิ์ของตน และขอให้พระเจ้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์นี้ เขารู้สึกสิ้นหวังและถูกทอดทิ้ง พร้อมตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของพระเจ้า

พระเจ้าตอบโยบโดยแสดงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระองค์อธิบายถึงความรู้และความเข้าใจที่จำกัดของมนุษย์ เมื่อเปรียบเทียบกับพระองค์ สุดท้ายโยบตระหนักถึงความจำกัดของมนุษย์และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า 

 

 เอลีฮูเริ่มด้วยความถ่อมตัว แต่เมื่อพูดไปเรื่อยๆ เขากลับมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และตำหนิโยบอย่างรุนแรง เขายืนยันว่าพูดในนามของพระเจ้าและอ้างว่าตนมีความรู้มาก แม้ว่าหลายสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับพระเจ้าเป็นเรื่องจริง เช่น บาปหรือความชอบธรรมของเราไม่มีผลต่อพระองค์ แต่เขาทำผิดที่คิดว่าโยบพยายามใช้ความชอบธรรมของตนเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยน

เอลีฮูบอกว่าคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าจะโกรธ แต่เขาเองก็โกรธที่เห็นโยบเช่นกัน การโกรธที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวทำให้เราไม่สามารถให้อภัยได้ และอาจทำให้เราแข็งกร้าวต่อผู้อื่นและพระเจ้า

เขายังพูดเกี่ยวกับการที่พระเจ้าช่วยผู้ทุกข์ยากด้วยความทุกข์ยาก ว่าความทุกข์ทำให้ผู้คนกลับมาหาพระเจ้า และพระเจ้าใช้ความทุกข์เพื่อชำระโยบ ด้วยเหตุผลนี้ ช่วงเวลาที่ยากลำบากสามารถช่วยให้เราเห็นความสำคัญของความสัมพันธ์กับพระเจ้า

เอลีฮูสรุปโดยสรรเสริญพระเจ้า แต่ก็ยังมีความตั้งใจที่จะโจมตีโยบ เขายกคำพูดที่ว่า "พระองค์ไม่ทรงถือเอาว่าใครฉลาดในความคิดของตนเอง" หมายความว่าพระเจ้าจะเข้าหาผู้ที่ถ่อมตัว อาจเป็นไปได้ว่าโยบเงียบเพราะความถ่อมตัว หรือเพราะเขารู้สึกพ่ายแพ้เกินกว่าจะตอบโต้ได้

 

ข้อคิด: โยบ 35-37

ไม่ว่าจะเพื่อการแก้ไข แผ่นดินของพระองค์ หรือเพื่อความรัก พระองค์ทรงทำให้เกิดขึ้น” นี่คือการดูแลของพระเจ้า ซึ่งรวมถึงการปกป้องและการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต พระเจ้ามีจุดประสงค์ของพระองค์แม้เราจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เราสามารถเชื่อได้ว่าพระองค์กำลังทำงานอยู่

พระองค์ใส่ใจทุกรายละเอียดและตั้งใจทำตามแผนการของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขจิตใจผู้หลงผิด การอวยพรประชากรของพระองค์ หรือการแสดงความรักอย่างล้ำลึก เราสามารถพักผ่อนได้เมื่อรู้ว่าพระองค์ทำทุกสิ่งเพื่อพระสิริและความชื่นชมยินดีของเรา โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าพระองค์อยู่ที่ซึ่งความชื่นชมยินดี!

 

คำถาม

  • ความอดทนและความเมตตาของพระเจ้า: บทนี้เน้นถึงความเมตตาและความอดทนของพระเจ้า ซึ่งแสดงออกมาในหลายรูปแบบ คำถามคือ: เราจะแสดงความอดทนและเมตตาต่อผู้อื่นได้อย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลำบาก? การให้อภัยมีความสำคัญอย่างไรในชีวิตของเรา? เราเรียนรู้จากความเมตตาของพระเจ้าได้อย่างไร?
  • การนำทางของพระเจ้าในชีวิตมนุษย์: เอลิฮูชี้ให้เห็นถึงการชี้นำของพระเจ้าแม้ในความยากลำบาก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดคำถาม: เราจะรับรู้ถึงการนำทางของพระเจ้าในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? เราควรตอบสนองต่อการชี้นำของพระเจ้าอย่างไร? เราเรียนรู้ที่จะวางใจในแผนการของพระเจ้าได้อย่างไรเมื่อเผชิญกับความไม่แน่นอน?

 

 

 

ความโกรธในมุมมองของคริสเตียน: อารมณ์ที่ควบคุมได้

ความโกรธเป็นอารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนเคยประสบ ไม่เว้นแม้แต่คริสเตียน พระคัมภีร์ก็กล่าวถึงความโกรธ แต่ก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดเสมอไป แต่ความโกรธจะกลายเป็นปัญหาเมื่อเราปล่อยให้มันควบคุมเรา

พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธอย่างไร?

  • ความโกรธไม่ใช่บาปเสมอไป: มีความโกรธที่ถูกต้อง เช่น การโกรธต่อความไม่ยุติธรรม หรือการโกรธที่บาป
  • ความโกรธอันตรายเมื่อไม่ควบคุม: เมื่อความโกรธครอบงำ เราอาจทำร้ายผู้อื่นหรือทำลายความสัมพันธ์
  • พระเจ้าทรงสอนให้เราควบคุมความโกรธ: พระคัมภีร์ให้คำแนะนำมากมายเกี่ยวกับวิธีจัดการกับความโกรธ

ทำไมความโกรธจึงเป็นอันตราย?

  • ทำลายความสัมพันธ์: ความโกรธสามารถทำลายมิตรภาพ ครอบครัว และความสัมพันธ์อื่นๆ
  • ส่งผลเสียต่อสุขภาพ: ความโกรธเรื้อรังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
  • ขัดต่อพระลักษณะของพระเจ้า: พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุข การโกรธเคืองแสดงให้เห็นว่าเรายังไม่เหมือนพระองค์

คริสเตียนควรจัดการกับความโกรธอย่างไร?

  • ตระหนักถึงความโกรธ: สังเกตเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกโกรธ และพยายามหาสาเหตุ
  • อธิษฐาน: ขอให้พระเจ้าทรงช่วยให้เราควบคุมอารมณ์
  • พูดคุยกับผู้อื่น: บอกเล่าความรู้สึกของเราให้เพื่อนหรือผู้นำคริสตจักรฟัง
  • ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ: การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะช่วยให้จิตใจสงบ
  • เรียนรู้ที่จะให้อภัย: การให้อภัยจะช่วยให้เราปลดปล่อยตัวเองจากความโกรธ

พระเจ้าทรงเข้าใจความอ่อนแอของมนุษย์ และพระองค์ทรงพร้อมที่จะช่วยเราเสมอ ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราสามารถเอาชนะความโกรธและดำเนินชีวิตที่สงบสุขได้