เรื่องย่อ
อิสยาห์ 64-66 พรรณนาถึงการอธิษฐานด้วยความสิ้นหวังของผู้ที่เหลืออยู่ในอิสราเอล โดยยอมรับความบาปของพวกเขาและขอพระเมตตาจากพระเจ้า ผู้เผยพระวจนะคร่ำครวญว่าพวกเขาได้กลายเป็นเหมือนสิ่งที่ไม่สะอาดและกล่าวว่าความชอบธรรมของพวกเขาคือ "เหมือนผ้าขี้ริ้ว" พวกเขาอ้อนวอนให้พระเจ้าทรงระลึกว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดาและผู้ปั้นของพวกเขา แม้ว่าพระเจ้าจะทรงพิโรธต่อการกบฏของอิสราเอล พระองค์ก็ทรงสัญญาว่าจะทรงสร้างสวรรค์ใหม่และโลกใหม่ ที่ซึ่งความสุขและความชอบธรรมจะครองราชย์ชั่วนิรันดร์ เยรูซาเลมใหม่จะเป็นแหล่งแห่งแสงสว่างและความอิ่มเอมใจสำหรับประชาชาติทั้งหลาย ในขณะที่ผู้ที่เลือกความชั่วร้ายจะต้องเผชิญกับความพินาศ พระเจ้าทรงทรงสร้างกลุ่มคนใหม่ที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์มากกว่าชาติกำเนิดของพวกเขาและทรงส่งผู้รอดชีวิตไปยังประชาชาติทั้งปวงเพื่อประกาศพระสิริของพระองค์ให้กับทุกคน พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงพักอยู่กับผู้ที่ถ่อมใจและสั่นกลัวพระวจนะของพระองค์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพันธสัญญาของพระองค์นั้นสำหรับผู้ที่ตอบสนองด้วยความเชื่อฟังและความเคารพ
บริบทและความเข้าใจเชิงวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญในการตีความอิสยาห์ 64:6 ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งระบุว่า "เราทุกคนเป็นเหมือนสิ่งที่ไม่สะอาด และการกระทำที่ชอบธรรมทั้งหมดของเราก็เหมือนกับผ้าขี้ริ้ว" ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าจะทรงเบือนพระพักตร์หนีจากพระคัมภีร์ การเป็นอาสาสมัคร หรือการถวายสิบลดของคุณ แต่พระองค์ทรงพอพระทัยในการกระทำดีของคุณ ซึ่งพระองค์ทรงทำผ่านทางคุณเอง แล้วข้อนี้หมายความว่าอย่างไร? พระเจ้าทรงกำลังเปรียบเทียบการนมัสการจอมปลอมของอิสราเอลกับการกระทำที่ไม่บริสุทธิ์และการนมัสการที่ทำให้เป็นมลทิน พวกเขายื่นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า แต่ก็ถวายบูชารูปเคารพด้วย พวกเขาอดอาหารเพื่ออวดอ้าง พวกเขากระทำการที่เรียกว่าชอบธรรมด้วยแรงจูงใจที่ไม่ชอบธรรม ดังนั้นจึงเป็นความจริงสำหรับพวกเขาที่การกระทำที่ชอบธรรมของพวกเขาเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วที่สกปรก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับพระเจ้า
ข้อความในอิสยาห์ 64:7 ที่ว่า "เจ้าทรงซ่อนพระพักตร์จากเรา" ทำให้เกิดคำถามว่าพระเจ้าทรงถอนตัวเมื่อลูกๆ ของพระองค์ทำบาปหรือไม่ แม้ว่าพระเจ้าจะไม่มีพระพักตร์ทางกายภาพ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นวิญญาณ (ยอห์น 4:24) แนวคิดเรื่อง "การซ่อนพระพักตร์" หมายถึงระยะห่างที่เราสัมผัสได้จากพระองค์เมื่อเราทำบาป สิ่งนี้คล้ายกับการที่ผู้คนสร้างระยะห่างเมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือขุ่นเคืองใจ พระเจ้าผู้ซึ่งเป็นผู้เปี่ยมด้วยความรักอย่างหาที่สุดมิได้ ผู้ทรงชำระค่าบาปของเราแล้ว ไม่ได้ทรงผูกใจเจ็บ การสำนึกผิดและการหันจากบาปของเราเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่เพื่อได้รับความไว้วางใจจากพระเจ้า แต่เพื่อดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ของเรากับพระองค์ในเวลาจริง การที่พระเจ้าทรงถอนตัวเป็นตัวกระตุ้นให้สำนึกผิด นำเราไปสู่การฟื้นฟูและความสนิทสนม หากพระเจ้าทรงถอนการสถิตของพระองค์ เราก็จะไม่มีความหวังในการกลับใจ เพราะความเมตตาของพระองค์ต่างหากที่นำเราไปสู่การกลับใจตั้งแต่แรก (โรม 2:4)
อิสยาห์บทที่ 65 เน้นถึงการพิพากษาและความรอดของพระเจ้า การลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักพระองค์ และพระพรสำหรับผู้ที่รู้จักพระองค์ อาณาจักรสวรรค์ไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่กลัวนรก แต่สำหรับคนที่รักพระเจ้า นอกจากแผ่นดินโลกใหม่แล้ว พระเจ้าจะทรงสร้างฟ้าสวรรค์ใหม่ด้วย เนื่องจากสวรรค์ปัจจุบันก็เปรอะเปื้อนด้วยบาป พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่จะฟื้นฟูการทรงสร้างทั้งหมด รวมถึงสวรรค์และโลกด้วย สถานที่ที่เราจะอาศัยอยู่หลังจากนั้นจะคล้ายกับโลกมาก โดยเฉพาะเยรูซาเล็ม แม้ว่านักวิชาการจะมีความเห็นแตกต่างกันว่าส่วนนี้หมายถึงอาณาจักรนิรันดร์หรือช่วงเวลาที่เรียกว่า "การครอบครองพันปี" สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนและเมื่อไหร่ เราจะได้อยู่กับพระเจ้าตลอดไป
ข้อคิด: อิสยาห์ 64-66
บทที่ 66 ปิดท้ายหนังสือด้วยการเรียกร้องให้กลับใจใหม่ และย้ำเตือนถึงการพิพากษาและการช่วยให้รอดของพระเจ้า แต่พระองค์ทรงทำยิ่งกว่านั้นในการอวยพรคนต่างชาติ พระองค์จะทรงส่งคนไปยังทั่วโลกเพื่อเข้าถึงพวกเขา และพระองค์จะทรงแต่งตั้งบางคนให้เป็นปุโรหิตและคนเลวีด้วยซ้ำ! พวกเขาจะไม่ใช่คนนอกหรือคนต่างด้าว—พวกเขาจะปรนนิบัติพระองค์ในบทบาทที่พิเศษที่สุด พระเจ้าทรงมุ่งมั่นที่จะรักศัตรูของพระองค์ พระองค์ทรงอยู่ในพันธกิจที่จะนำผู้คนจากทุกชาติเข้ามาในครอบครัวของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!
คำถาม
1. อิสยาห์ 64:8 เน้นย้ำถึงพระเจ้าในฐานะช่างปั้นและเราเป็นดินเหนียวของพระองค์ ครอบครัวสามารถส่งเสริมความยืดหยุ่น ความถ่อมใจ และความเปิดใจต่อการเรียนรู้และเติบโตด้วยกันได้อย่างไร โดยตระหนักว่าเราทุกคนกำลังอยู่ในขั้นตอนต่างๆ ของการสร้างสรรค์?
2. อิสยาห์ 66:13 กล่าวถึงความสบายที่มารดาให้ได้ ในฐานะสมาชิกในครอบครัว เราจะสร้างบรรยากาศแห่งความสบาย การปลอบโยน และการสนับสนุนได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ท้าทาย เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวรู้สึกเป็นที่รักและห่วงใย?
อิสยาห์บทที่ 66 เป็นบทสุดท้ายของหนังสืออิสยาห์ ซึ่งรวบรวมหลากหลายเรื่องที่สำคัญที่ปรากฏในบทก่อนหน้า ตั้งแต่การพิพากษาไปจนถึงพระพร การฟื้นฟู และการสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ บทนี้แสดงให้เห็นถึงพระลักษณะอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและแผนการของพระองค์สำหรับอนาคต เราสามารถดึงข้อคิดที่สำคัญได้ดังนี้:
1. ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและความไม่เพียงพอของพิธีกรรมที่ไร้ใจ
อิสยาห์ 66:1-4 เน้นย้ำว่าพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ไม่ทรงสถิตอยู่ในวิหารที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ เพราะ "สวรรค์เป็นบัลลังก์ของเรา และแผ่นดินโลกเป็นแท่นรองเท้าของเรา" พระองค์ทรงมองหาผู้ที่มีใจถ่อม สารภาพผิด และยำเกรงพระคำของพระองค์ ในทางตรงกันข้าม พระองค์ทรงปฏิเสธผู้ที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาเพียงภายนอกแต่มีใจชั่วร้ายและเลือกทางของตนเอง
ข้อคิด: สิ่งนี้สอนเราว่าพระเจ้าไม่ได้สนใจแค่การกระทำภายนอกหรือพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่พระองค์ทรงมองดูที่ ใจ ของเรา พระองค์ทรงปรารถนาความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้ที่ถ่อมใจ เชื่อฟัง และยำเกรงพระองค์ การนมัสการที่แท้จริงคือการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์ด้วยใจที่บริสุทธิ์
2. พระพรและการฟื้นฟูสำหรับผู้เชื่อที่ซื่อสัตย์
อิสยาห์ 66:5-14 พรรณนาถึงความสุขและพระพรที่จะมาถึงผู้ที่ยำเกรงพระคำของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงนำการฟื้นฟูที่รวดเร็วและยิ่งใหญ่มาสู่เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์ การที่ศิโยนจะคลอดบุตรอย่างรวดเร็วเป็นสัญลักษณ์ของการขยายตัวอย่างรวดเร็วและการเพิ่มจำนวนประชากรของพระเจ้า นอกจากนี้ พระองค์จะทรงปลอบโยนประชากรของพระองค์เหมือนมารดาปลอบโยนบุตร และประทานสันติสุขและความรุ่งเรืองมากมาย
ข้อคิด: แม้ในท่ามกลางความยากลำบาก พระเจ้าทรงมีแผนการที่จะประทาน พระพร การฟื้นฟู และสันติสุข ให้กับผู้ที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระบิดาและพระมารดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก ทรงปรารถนาที่จะปลอบโยนและเลี้ยงดูบุตรของพระองค์ การเชื่อฟังและการยำเกรงพระเจ้าจะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์และสันติสุขที่แท้จริง
3. การพิพากษาและการลงโทษสำหรับผู้ต่อต้านพระเจ้า
อิสยาห์ 66:15-17 บรรยายภาพการเสด็จมาของพระเจ้าด้วยไฟและรถรบ เพื่อระบายพระพิโรธลงเหนือศัตรูของพระองค์ ผู้ที่ทำบาปและล่วงละเมิดจะถูกทำลาย
ข้อคิด: ข้อนี้เตือนใจเราว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษา ที่เที่ยงธรรม พระองค์จะไม่ทรงนิ่งเฉยต่อความชั่วร้ายและการไม่เชื่อฟัง การพิพากษาของพระองค์เป็นสิ่งที่แน่นอนสำหรับผู้ที่ปฏิเสธพระองค์และเลือกที่จะดำเนินชีวิตในบาป นี่เป็นคำเตือนให้เราตระหนักถึงความจำเป็นในการกลับใจและหันมาหาพระเจ้า
4. การรวบรวมประชาชาติและการสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่
อิสยาห์ 66:18-24 เผยให้เห็นถึงแผนการของพระเจ้าที่จะ รวบรวมผู้คนจากทุกประชาชาติ เข้ามานมัสการพระองค์ พระองค์จะทรงส่งผู้รอดชีวิตไปยังชนชาติต่างๆ เพื่อประกาศพระสิริของพระองค์ และจะมีการถวายเครื่องบูชาจากคนต่างชาติแด่พระเจ้าในเยรูซาเล็ม นอกจากนี้ พระองค์จะทรงสร้าง "ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่" ซึ่งจะดำรงอยู่ตลอดไป และทุกคนจะออกมานมัสการพระองค์เสมอไป
ข้อคิด: นี่คือภาพของ อนาคตอันรุ่งโรจน์ ในแผนการของพระเจ้า พระองค์ทรงมีพระประสงค์ที่จะนำผู้คนจากทุกชนชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระองค์ การสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ไร้บาปและความทุกข์ทรมาน และเป็นที่ซึ่งทุกคนจะนมัสการพระเจ้าตลอดนิรันดร์
อิสยาห์ 66 เป็นบทสรุปที่ทรงพลังของหนังสืออิสยาห์ ซึ่งเน้นย้ำถึง พระลักษณะอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ที่ทรงเป็นทั้งผู้พิพากษาและผู้ไถ่ ผู้ทรงปรารถนาการนมัสการจากใจจริง และผู้ทรงมีแผนการอันสมบูรณ์แบบสำหรับมนุษยชาติในอนาคต