Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 4

เรื่องย่อ

เรื่องราวในเอเสเคียลบทที่ 1-4 พาเราสู่ภาพวิสัยทัศน์อันน่าตื่นตาของพระเจ้าและคำเรียกร้องให้ชาวอิสราเอลเตรียมตัวรับการลงโทษจากความผิดบาปอย่างรุนแรง พระวิสัยทัศน์ของรถไฟฟ้าของพระเจ้าที่มีพันธมิตรและสี่สิ่งมีชีวิตที่ประทับอยู่บนบรรยากาศสุดลึกซึ้ง สะท้อนถึงอำนาจอันสูงส่งและความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า พร้อมกับคำสั่งให้เอเสเคียลทำสัญลักษณ์เป็นเครื่องเตือนใจในช่วงเวลาแห่งความวิบัติ ความกราดเกรี้ยวและความหวังแผ่ซ่านในช่วงเวลาที่พระเจ้ากำลังลงโทษชาวอิสราเอล ด้วยความชัดเจนและแรงกล้า เรื่องราวเหล่านี้สอนให้เราคิดถึงความสำคัญของความทรงจำและการเตรียมพร้อมรับมือกับการตัดสินของพระเจ้าในอนาคต.

 

เอเสเคียลเป็นผู้เผยพระวจนะและปุโรหิตที่ถูกเนรเทศไปยังบาบิโลนก่อนการล่มสลายของเยรูซาเล็ม เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดมากในการเผยพระวจนะของเขา โดยใช้คำอุปมาอุปไมยอย่างถี่ถ้วนเพื่ออธิบายถึงนิมิตต่างๆ ที่เขามี อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หลงไปกับรายละเอียดปลีกย่อย โดยเน้นที่ประเด็นสำคัญอยู่เสมอ นั่นคือ พระเจ้าทรงต้องการให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งสะท้อนออกมาในวลีที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ว่า “แล้วพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์”

นิมิตแรกของเอเสเคียลรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มีสี่ปีกและสี่หน้า ซึ่งเขาเรียกในภายหลังว่าเครูบ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการประทับอยู่ของพระเจ้าและสถานที่ที่พระเจ้าทรงถือว่าศักดิ์สิทธิ์ เอเสเคียลเห็นพระเจ้าประทับบนบัลลังก์ ล้อมรอบไปด้วยรุ้ง ไฟ แสง โลหะ และอัญมณี พระวิญญาณทรงเข้าสวมทับเอเสเคียลและทรงยกเขาขึ้นยืน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการอ่านของเขา นอกจากนี้ พระวิญญาณยังทรงทำการเคลื่อนย้ายเอเสเคียลไปยังสถานที่ต่างๆ อีกด้วย

พระเจ้าทรงแต่งตั้งเอเสเคียลให้พูดกับชนชาติอิสราเอลที่ดื้อรั้น โดยทรงทราบว่าพวกเขาอาจไม่เชื่อฟัง แต่พวกเขาจะรู้ว่าเขาเป็นผู้เผยพระวจนะที่แท้จริง พระเจ้าทรงให้เอเสเคียลกินม้วนหนังสือ ซึ่งเป็นการแสดงละครเชิงพยากรณ์ที่ให้เขาพูดกับผู้ถูกเนรเทศจากยูดาห์ หลังจากนั้น พระเจ้าทรงวางคำแนะนำของพระองค์ในรูปแบบของกฎหมายกรณี โดยเน้นว่าบาปทุกอย่างนำไปสู่ความตาย เอเสเคียลถูกจำกัดและทำให้เป็นใบ้ และทรงได้รับคำสั่งให้สร้างแบบจำลองการล้อมกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อแสดงถึงความทุกข์ทรมานที่ผู้ถูกเนรเทศกำลังประสบอยู่ นี่คือภาพของพระคริสต์ ผู้ทรงตั้งพระทัยที่จะทรงประสบความยากลำบากของมนุษย์และทรงแบกภาระของเรา

 

ข้อคิด: เอเสเคียล 1-4

พระเจ้าทรงสร้างเอเสเคียลให้มีความดื้อรั้นและไม่รู้สึก เพื่อให้เขาสามารถส่งสารของพระเจ้าไปยังผู้คนที่ดื้อรั้นและไม่รู้สึกเช่นเดียวกัน ลักษณะเฉพาะของเอเสเคียลได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เขากลัวหรือลังเลในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า การกระทำนี้เน้นถึงความตั้งใจและความเมตตาของพระเจ้าในการสร้างเราแต่ละคน และแสดงให้เห็นว่าแผนการของพระองค์ดีและพระทัยของพระองค์เต็มไปด้วยความยินดีเสมอ

 

คำถาม

1.   เอเสเคียลเห็นนิมิตอันน่าเกรงขามของพระเจ้า ในชีวิตของเรา เราจะเปิดใจรับประสบการณ์ที่ทำให้เราตระหนักถึงความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าได้อย่างไร และประสบการณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้อย่างไร?

2.   พระเจ้าทรงมอบหมายให้เอเสเคียลเป็นผู้พยากรณ์แก่ชนชาติอิสราเอลที่ดื้อดึง ในชีวิตของเรา เราจะตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเจ้าได้อย่างไร แม้ว่าเราจะต้องเผชิญกับความท้าทาย ความไม่แน่นอน หรือการต่อต้านจากผู้อื่น?

 

 

จากเอเสเคียล บทที่ 1 เราจะเห็นภาพของพระเจ้าที่มาหาเอเสเคียลผู้เป็นผู้เผยพระวจนะ ภาพนี้มีความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามอย่างมาก เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนและเปี่ยมด้วยพลัง ซึ่งสามารถนำมาเป็นข้อคิดสำคัญได้ดังนี้ครับ

1. พระเจ้าทรงอยู่เหนือทุกสิ่งและทรงมีฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่

ภาพของพระสิริของพระเจ้าที่เอเสเคียลเห็นนั้นยิ่งใหญ่จนยากจะบรรยาย มีสี่สิ่งมีชีวิตที่มีปีกและเต็มไปด้วยดวงตา ซึ่งแสดงถึงการที่พระเจ้าทรงอยู่ทุกหนทุกแห่งและทรงรอบรู้ทุกสิ่ง พวกเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงและเป็นระเบียบภายใต้น้ำพระทัยของพระเจ้า ทำให้เราเห็นว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงอยู่เฉย แต่ทรงเคลื่อนไหวและทรงปกครองทุกอย่างในโลกนี้ การที่เราได้เข้าใจในความยิ่งใหญ่ของพระองค์จะช่วยให้เราเกิดความยำเกรงและมอบความไว้วางใจในพระองค์ได้อย่างเต็มที่

2. การทรงเรียกและภารกิจที่ยิ่งใหญ่

เอเสเคียลถูกเรียกให้เป็นผู้เผยพระวจนะในช่วงเวลาที่ยากลำบากของอิสราเอล ผู้คนกำลังตกเป็นเชลยและสิ้นหวัง การที่พระเจ้าทรงปรากฏตัวด้วยความยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็เพื่อยืนยันว่าถึงแม้ผู้คนของพระองค์จะอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่พระเจ้ายังคงอยู่กับพวกเขาและมีแผนการสำหรับพวกเขาเสมอ สิ่งนี้บอกเราว่าการที่เราจะได้ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้นั้น ไม่ว่าจะเป็นในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม เราจำเป็นต้องรับรู้ถึงการทรงสถิตอยู่ของพระองค์ก่อน

3. การทรงเปิดเผยที่เหนือความเข้าใจของมนุษย์

ภาพนิมิตของเอเสเคียลนั้นลึกล้ำเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ มีกงล้อซ้อนกงล้อและเต็มไปด้วยดวงตา เป็นการบ่งบอกว่าสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยนั้นอาจไม่ได้เป็นไปตามหลักเหตุผลหรือความคิดของมนุษย์เสมอไป บางครั้งเราต้องใช้ความเชื่อและยอมรับว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะเข้าใจได้ การที่เราได้เปิดใจเรียนรู้ถึงเรื่องราวในบทนี้จะช่วยให้เราตระหนักได้ว่าสติปัญญาของมนุษย์นั้นมีจำกัด และเราควรจะถ่อมใจลงต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง

เอเสเคียล บทที่ 1 เป็นเหมือนการเริ่มต้นที่ทรงพลัง เพื่อจะบอกให้เรารู้ว่าพระเจ้าที่เรากำลังจะเรียนรู้จากถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะคนนี้เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเพียงใด และการที่เราได้ยำเกรงพระองค์จะนำเราไปสู่การเชื่อฟังและการเข้าใจพระองค์มากขึ้นครับ