เรื่องย่อ
เลวีนิติ 16 บรรยายถึงวันชดใช้บาปของอิสราเอล ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี โดยมีการถวายแพะรับบาปเพื่อชดใช้บาปของประชาชนและปุโรหิต เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการชดใช้บาปและการกลับใจ ในขณะที่บทที่ 17-18 กล่าวถึงกฎหมายเกี่ยวกับการถวายบูชา การห้ามการบูชาเทพเจ้าอื่น และการกำหนดขอบเขตทางศีลธรรมอย่างชัดเจน เช่น การห้ามการร่วมประเวณี การห้ามการมีเพศสัมพันธ์กับญาติสนิท และการห้ามการบูชาเทพเจ้าอื่นๆ กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงกฎหมาย แต่เป็นการแสดงถึงความรัก ความบริสุทธิ์ และความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และเป็นการปกป้องประชาชนของพระองค์จากการทำลายตัวเอง
วันแห่งการชดใช้บาป (Yom Kippur) เป็นวันสำคัญสำหรับการชดใช้บาปและการชำระล้างความไม่บริสุทธิ์ ซึ่งประชาชนได้รับการเรียกให้ถือศีลอดและพักผ่อน ในวันนี้ มหาปุโรหิตเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเพียงครั้งเดียวเพื่อถวายเครื่องบูชาของปีที่ปกปิดบาปของตนและของผู้คน โดยอาโรนต้องสร้างควันธูปเพื่อบดบังจากพระสิริของพระเจ้าเพื่อไม่ให้ต้องตาย นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าบาปของประชาชนมีผลกระทบต่อพลับพลา และจำเป็นต้องทำการถวายเครื่องบูชาอย่างเหมาะสม
ในพิธีนี้จะมีแพะสองตัว หนึ่งตัวจะถูกถวายแด่พระเจ้า ในขณะที่อีกตัวจะถูกส่งไปยังอาซาเซล ซึ่งเป็นการขับไล่บาปออกจากค่าย ชาวอิสราเอลจะสารภาพบาปของตน โดยแพะตัวที่ไปยังอาซาเซลเปรียบเสมือนพระคริสต์ที่แบกรับบาปของพวกเขา และแพะตัวที่ถวายแด่พระเจ้ารับบทบาทเป็นเครื่องบูชาที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งช่วยชดเชยบาป ดังนั้นการถวายเครื่องบูชาในวันนั้นจึงเป็นการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการชดใช้บาปในชีวิตประจำวัน
พระเจ้าได้ทรงบัญญัติถึงความบริสุทธิ์และความสะอาดไม่เพียงแต่ในแง่สุขอนามัย แต่ยังรวมถึงการกระทำที่มีจริยธรรม พระองค์ทรงกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อควบคุมพฤติกรรมทางเพศและการแต่งงาน พระองค์ให้ความสำคัญกับความศักดิ์สิทธิ์และการมีระเบียบในสังคม โดยห้ามการกระทำที่ละเมิดคำสั่งของพระองค์ เช่น การสังเวยบุตรต่อเทพเจ้าโมเลค การล่วงประเวณี และการมีคู่สมรสหลายคน ซึ่งการกระทำเหล่านี้ถือเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าและกฎระเบียบที่พระองค์ได้วางไว้ ดังนั้น เป้าหมายคือการให้ประชาชนของพระเจ้าดำรงชีวิตในความบริสุทธิ์และมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์และต่อกันเอง
ข้อคิด: เลวีนิติ 16-18
วันแห่งการไถ่บาปชี้ให้เห็นถึงพระคริสต์ใน ฮีบรู 9:11-14 ซึ่งกล่าวว่าเมื่อพระคริสต์ทรงเป็นมหาปุโรหิต พระองค์ได้เสด็จเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ถาวร โดยไม่ใช้โลหิตของแพะหรือโค แต่ใช้โลหิตของพระองค์เอง เพื่อนำการไถ่บาปที่ยั่งยืนให้กับเรา หากโลหิตของสัตว์สามารถทำให้คนที่มีมลทินบริสุทธิ์ได้ชั่วคราว โลหิตของพระคริสต์ซึ่งทรงถวายพระองค์อย่างบริสุทธิ์ จะชำระมโนธรรมของเราให้บริสุทธิ์จากความผิดบาปเพื่อที่เราจะได้รับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ได้ พระเยซูทรงจ่ายราคาเพื่อการไถ่บาปของเราอย่างถาวร ไม่ใช่แค่ปีเดียว แต่ตลอดไป นั่นทำให้พระองค์เป็นแหล่งความปีติยินดี
คำถาม
1. เลวีนิติบทที่ 16 มีการกล่าวถึงวันแห่งการชดเชยบาป (Yom Kippur) และการสืบทอดบาปไปยังแพะที่ถูกส่งออกไปในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งสื่อถึงการล้างบาปและการเริ่มต้นใหม่ ในชีวิตปัจจุบัน เราจะสามารถเรียนรู้จากแนวคิดนี้เพื่อสร้างโอกาสในการเริ่มต้นใหม่หรือการกลับใจในกรณีที่เราทำผิดพลาดได้อย่างไร? ความสำคัญของการให้อภัยตนเองและคนรอบข้างมีผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างไร?
2. เลวีนิติบทที่ 18 กล่าวถึงกฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งส่งเสริมความบริสุทธิ์และความเคารพต่อกัน ในยุคที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและค่านิยมในปัจจุบัน เราจะสามารถนำหลักการของการเคารพต่อการดำเนินชีวิตของตนเองและผู้อื่นเข้ามาใช้ได้อย่างไร? เราจะสามารถสร้างสังคมที่เคารพและเข้าใจซึ่งกันและกันได้อย่างไร?
วันแห่งการชดใช้บาป หรือ วันยมคิปปูร์ (Yom Kippur) เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุดในศาสนายิว มีที่มาจากคัมภีร์โทราห์ ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว โดยมีการกล่าวถึงวันดังกล่าวในบทเลวีนิติ
ที่มา
ในสมัยโบราณ เมื่อพระวิหารยังคงตั้งอยู่ มหาปุโรหิตจะประกอบพิธีกรรมในวันยมคิปปูร์เพื่อลบล้างบาปให้กับชาวอิสราเอล โดยจะมีการนำแพะสองตัว ตัวหนึ่งจะถูกฆ่าเพื่อเป็นเครื่องบูชายัญ ส่วนอีกตัวหนึ่งจะถูกปล่อยไปในทะเลทราย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการนำบาปของชาวอิสราเอลไป
วันที่จัด
วันยมคิปปูร์จะถูกกำหนดขึ้นในวันที่สิบของเดือนทิชรี ซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ดของปฏิทินฮีบรู โดยปกติแล้วจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมของปฏิทินเกรกอเรียน
ความสำคัญ
วันยมคิปปูร์มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวยิว เนื่องจากเป็นวันที่พวกเขาจะสำนึกผิดในบาปที่ได้กระทำไป และขอการอภัยโทษจากพระเจ้า โดยจะมีการถือศีลอดเป็นเวลา 25 ชั่วโมง และไปร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่โบสถ์ยิวตลอดทั้งวัน
ความสำคัญของวันยมคิปปูร์สามารถสรุปได้ดังนี้:
- เป็นวันแห่งการสำนึกผิด: ชาวยิวจะใช้เวลาในวันนี้เพื่อทบทวนการกระทำของตนเองในช่วงปีที่ผ่านมา และสำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป
- เป็นวันแห่งการขอการอภัยโทษ: ชาวยิวจะขอการอภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับความผิดบาปที่ได้กระทำไป
- เป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่: วันยมคิปปูร์เป็นโอกาสสำหรับชาวยิวที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ วันยมคิปปูร์ยังเป็นวันที่ชาวยิวจะให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยจะมีการขอโทษต่อผู้ที่ตนเองได้กระทำผิดต่อพวกเขา และร่วมกันสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน
ในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่มีพระวิหารแล้ว แต่ชาวยิวก็ยังคงรักษาประเพณีวันยมคิปปูร์ไว้อย่างเคร่งครัด โดยสิ่งที่ปฏิบัติในวันดังกล่าวมีดังนี้:
- ถือศีลอด: เป็นเวลา 25 ชั่วโมง โดยจะงดอาหารและน้ำดื่ม
- ไปโบสถ์: เพื่อร่วมพิธีกรรมทางศาสนา และฟังการเทศนา
- สวมเสื้อผ้าสีขาว: เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์
- สารภาพบาป: ต่อพระเจ้า และขอการอภัยโทษ
- ขอโทษผู้อื่น: ที่ตนเองได้กระทำผิดต่อพวกเขา
- ทำทาน: เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้
สิ่งที่วันยมคิปปูร์สอนคริสเตียน
แม้ว่าวันยมคิปปูร์จะเป็นวันสำคัญของชาวยิว แต่ก็มีสิ่งที่คริสเตียนสามารถเรียนรู้ได้จากวันดังกล่าว:
- ความสำคัญของการสำนึกผิด: คริสเตียนควรสำนึกผิดในบาปที่ตนเองได้กระทำไป และขอการอภัยโทษจากพระเจ้า
- ความสำคัญของการให้อภัย: คริสเตียนควรให้อภัยผู้อื่นที่ได้กระทำผิดต่อตนเอง
- ความสำคัญของการเริ่มต้นใหม่: คริสเตียนสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ โดยการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น
- ความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม: คริสเตียนควรให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยการรักและช่วยเหลือผู้อื่น
วันยมคิปปูร์จึงเป็นวันสำคัญที่แสดงถึงความเชื่อในพระเจ้า ความสำนึกผิด และความปรารถนาที่จะเป็นคนดีขึ้นของชาวยิว และยังมีบทเรียนที่มีคุณค่าสำหรับคริสเตียนในการดำเนินชีวิตอีกด้วย