เรื่องย่อ
เฉลยธรรมบัญญัติบทที่ 28-29 เป็นบทสรุปที่ทรงพลังเกี่ยวกับผลของการเชื่อฟังและการไม่เชื่อฟังพระเจ้า บทที่ 28 อธิบายพรอันมากมายที่จะเกิดขึ้นหากชาวอิสราเอลเชื่อฟังพระบัญญัติ ตั้งแต่ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ จนถึงชัยชนะเหนือศัตรู ในทางตรงกันข้าม บทที่ 29 บรรยายถึงคำสาปแช่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหากพวกเขาละเลยพระบัญญัติ ตั้งแต่ความอดอยาก ความยากจน การถูกกดขี่ จนถึงการล่มสลายของชาติ ทั้งสองบทนี้จึงเป็นคำเตือนที่สำคัญ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเลือกเชื่อฟังพระเจ้า และผลที่ตามมาทั้งในแง่บวกและลบ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อพันธสัญญาและผลที่ตามมาอย่างชัดเจน
ขณะที่โมเสสทบทวนพรและคำสาปแช่งของพันธสัญญา เขาเตือนชาวอิสราเอลว่าพรจากพระเจ้าจะรออยู่สำหรับผู้ที่เชื่อฟังพระองค์ โดยพระเจ้าทรงสัญญาว่าจะประทานชัยชนะในการต่อสู้ และจะให้สิ่งที่พระองค์ทรงให้ได้แก่พวกเขา ได้แก่ ชีวิต การเจริญเติบโต และฝน ซึ่งจะทำให้ประชาชาติอื่นๆ รู้สึกเกรงกลัวอิสราเอลเมื่อเห็นความเจริญของพวกเขา อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาไม่ติดตามพระเจ้า คำสาปจะมาเยือน ซึ่งตรงกันข้ามกับพรอย่างสิ้นเชิง ทำให้พวกเขาพ่ายแพ้
โมเสสอธิบายว่าคำสาปนั้นมักมีคำพูดที่รุนแรง แต่ไม่ควรถูกแยกออกจากบริบทที่ใหญ่กว่า พระเจ้าทรงมีความซื่อสัตย์แม้ว่าพวกเขาจะมีความขาดศรัทธา และจะไม่ละทิ้งพวกเขาเมื่อพวกเขาลงไปในทางที่ผิด พระเจ้าช่วยให้พวกเขาหันกลับมาหาเมื่อทำผิดให้ต้องได้รับผลจากการกระทำ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้ายังคงรักและปกป้องพวกเขาจากอันตรายที่ร้ายแรง
โมเสสเรียกร้องให้ชาวอิสราเอลรักษาพันธสัญญาด้วยความจริงใจ โดยพระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับทุกคน ตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปจนถึงเด็ก รวมถึงชาวต่างชาติและผู้เดินทางที่อยู่ท่ามกลางพวกเขา เขาเตือนพวกเขาไม่ให้คิดว่าตนเป็นข้อยกเว้น และกระตุ้นให้พวกเขาวางใจในพระเจ้าซึ่งได้มีการเปิดเผยต่อพวกเขา โมเสสรู้ว่าชาวอิสราเอลมีแนวโน้มจะกบฏ แต่ถึงอย่างนั้นพระเจ้าก็ยังเลือกพวกเขาเป็นประชาชนของพระองค์ ซึ่งสะท้อนถึงความรักและความเมตตาที่พระองค์มีต่อพวกเขา
ข้อคิด: เฉลยธรรมบัญญัติ 28-29
พระเจ้าทรงเปิดเผยสิ่งต่างๆ แก่ประชากรของพระองค์แต่ยังปกปิดบางสิ่งไว้ “สิ่งที่เป็นความลับนั้นเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา แต่สิ่งที่เปิดเผยนั้นเป็นของเราและของลูกหลานของเราตลอดไป เพื่อเราจะได้ปฏิบัติตามพระวจนะทั้งสิ้นของธรรมบัญญัตินี้” (29:29) สิ่งที่พระองค์บอกเราเป็นเพื่อการเชื่อฟังและความชื่นชมยินดีของเรา แต่สิ่งที่พระองค์ซ่อนไว้จากเรานั้นก็ดีเช่นกัน เป็นเรื่องดีที่เราไม่รู้ทุกอย่าง เป็นเรื่องดีที่เราต้องเดินตามพระองค์โดยไว้วางใจในความดีของพระองค์ ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้สิ่งใด พระองค์กำลังทรงทำเพื่อประโยชน์ของเรา และสิ่งหนึ่งที่เรารู้ก็คือ พระองค์อยู่ที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!
คำถาม
1. ผลพวงจากการปฏิบัติตามและการไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติ: ในเฉลยธรรมบัญญัติ 28 มีการพูดถึงพระพรที่มาจากการปฏิบัติตามพระบัญญัติและอุปสรรคที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตาม เราจะสามารถนำบทเรียนเกี่ยวกับผลพวงนี้มาใช้ในการตัดสินใจในชีวิตประจำวันได้อย่างไร? เมื่อเราต้องเผชิญกับทางเลือก เราสามารถวางแผนและตัดสินใจอย่างมีสติและระมัดระวังได้อย่างไร?
2. การทำสัญญาและความรับผิดชอบในความสัมพันธ์: ในเฉลยธรรมบัญญัติ 29 มีการย้ำถึงความสำคัญของการทำสัญญากับพระเจ้าและการตอบสนองต่อความรับผิดชอบทางจิตวิญญาณ ในชีวิตประจำวัน เราจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับพระเจ้าหรือกับผู้อื่นได้อย่างไร? การทำสัญญากับทั้งสองฝ่ายหมายถึงอะไรและจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติตามได้อย่างไร?
ข้อความจากเฉลยธรรมบัญญัติ 29:29 เป็นหลักการสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ โดยแบ่งแยกสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยและสิ่งที่พระองค์ทรงเก็บไว้เป็นความลับ ดังนี้:
ความหมายของข้อความ:
- "สิ่งที่เป็นความลับนั้นเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา":
- ส่วนนี้หมายถึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวกับพระเจ้าและแผนการของพระองค์ที่เราไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์
- พระเจ้าทรงมีสิทธิ์ที่จะเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นความลับ และเราต้องยอมรับว่ามีขอบเขตจำกัดของความรู้และความเข้าใจของเรา
- สิ่งเหล่านี้อาจรวมถึงแผนการนิรันดร์ของพระเจ้า วิธีการที่พระองค์ทรงทำงานในโลก หรือเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์บางอย่าง
- "แต่สิ่งที่เปิดเผยนั้นเป็นของเราและของลูกหลานของเราตลอดไป":
- ส่วนนี้หมายถึงพระเจ้าทรงเปิดเผยสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์
- สิ่งเหล่านี้รวมถึงพระบัญญัติ กฎหมาย และคำสอนที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์
- พระเจ้าทรงประทานสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เราได้รู้จักพระองค์และดำเนินชีวิตตามทางของพระองค์
- "เพื่อเราจะได้ปฏิบัติตามพระวจนะทั้งสิ้นของธรรมบัญญัตินี้":
- ส่วนนี้เน้นถึงจุดประสงค์ของการเปิดเผยของพระเจ้า นั่นคือเพื่อให้เราได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์
- พระเจ้าทรงประทานความรู้แก่เราเพื่อให้เราได้ดำเนินชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระองค์
ความสำคัญสำหรับเรา:
- ความถ่อมใจ:
- ข้อความนี้เตือนให้เรามีความถ่อมใจต่อพระเจ้า และยอมรับว่าเราไม่สามารถเข้าใจทุกสิ่งได้
- เราต้องวางใจในพระเจ้า แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจแผนการของพระองค์อย่างสมบูรณ์
- ความรับผิดชอบ:
- เรามีหน้าที่ที่จะศึกษาและปฏิบัติตามสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยแก่เรา
- เราต้องไม่เพิกเฉยต่อพระวจนะของพระเจ้า แต่ต้องพยายามที่จะเข้าใจและปฏิบัติตาม
- ความวางใจ:
- เราสามารถวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์ทรงเปิดเผยสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์
- เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ให้มุ่งเน้นไปที่การเชื่อฟังสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผย
ข้อความนี้สอนให้เรารู้ว่ามีบางสิ่งที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ แต่พระเจ้าก็เปิดเผยสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตตามพระองค์แล้ว แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ ดังนั้นเราจึงควรสนใจในสิ่งที่พระองค์เปิดเผย และปฏิบัติตามนั้นด้วยความเชื่อและความถ่อมใจ