เรื่องย่อ
บทสุดท้ายของพระธรรมผู้วินิจฉัยเผยให้เห็นถึงความเสื่อมทรามทางศีลธรรมและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอิสราเอล เมื่อไม่มีกษัตริย์ปกครอง ทุกคนต่างทำตามสิ่งที่ตนเองเห็นว่าถูกต้อง เรื่องราวอันน่าสลดใจของการข่มขืนและฆาตกรรมภรรยาของคนเลวี นำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างเผ่าเบนยามินและเผ่าอื่นๆ ของอิสราเอล สงครามครั้งนี้เกือบจะทำให้เผ่าเบนยามินสูญสิ้นไป และเพื่อรักษาเผ่านี้ไว้ ชาวอิสราเอลได้กระทำการที่น่าสยดสยองอื่นๆ อีกหลายอย่าง เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลที่ตามมาของการขาดความเป็นผู้นำที่ชอบธรรม การละทิ้งพระเจ้า และการปล่อยให้ความชั่วร้ายแพร่กระจายไปทั่วสังคม พระธรรมผู้วินิจฉัยจบลงด้วยข้อความที่ว่า "ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ทุกคนทำตามสิ่งที่ตนเองเห็นว่าถูกต้อง" ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีผู้นำที่ชอบธรรมและกฎหมายของพระเจ้าเพื่อนำทางชนชาติ
อิสราเอลในขณะนี้เผชิญกับความไร้ระเบียบและการขาดความยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง เมื่อชาวเลวีมีภรรยาน้อยซึ่งถูกมองว่าเป็นเพียงคนรับใช้ ชาวเลวีพยายามนำเธอกลับมา หลังจากที่ไปเยี่ยมพ่อของเธอ ขณะที่เดินทางกลับ พวกเขาหยุดที่เมืองกิเบอาห์ของเบนจามิน และถูกกลุ่มชายชราขอให้พักที่บ้าน เมื่อไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ชาวเลวีจึงส่งภรรยาน้อยของเขาให้กับชายกลุ่มนั้น ซึ่งนำไปสู่การข่มขืนและการฆ่าเธอ ชายเลวีแทนที่จะรู้สึกเสียใจกับการกระทำกลับนำร่างของเธอมาชำแหละและส่งไปทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
ในขณะที่เขาส่งศพของภรรยาน้อย ให้ชาวอิสราเอลมารวมตัวกันเพื่อตอบโต้การกระทำของเบนจามิน ชายต่างๆ จากเผ่าต่างๆ ได้ยกกำลังรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ลงโทษผู้ที่ทำผิด หลังจากพยายามควบคุมสถานการณ์โดยขอให้คนในเมืองกิเบอาห์ส่งตัวผู้กระทำผิด แต่ได้รับการปฏิเสธ ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น อิสราเอลต่อสู้กับเบนจามินเป็นเวลาสามวัน โดยทุกครั้งจะขอคำแนะนำจากพระเจ้า การเรียกร้องความเชื่อฟังไปโดยไร้ผลในวันที่หนึ่งและสองก่อนที่จะได้รับสัญญาว่าจะชนะในวันสุดท้าย
หลังการเอาชนะชาวเบนจามิน อิสราเอลได้ทำลายเมืองกิเบอาห์โดยไม่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้า ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่าจะทำให้เผ่าเบนจามินสูญหายไป อิสราเอลจึงวางแผนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยาเบศ-กิลอาดและนำหญิงพรหมจารีกลับมาให้เหล่าชาวเบนจามินที่ยังรอดชีวิต แต่ยังประสบปัญหาการขาดผู้หญิง พวกเขาจึงเกิดแผนที่จะให้ชาวเบนจามินลักพาตัวผู้หญิงในงานเทศกาล การกระทำนี้แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาความคิดของมนุษย์แทนการปรึกษาพระเจ้า ทำให้เกิดความยุ่งเหยิงจากบาปและขาดความเข้าใจในทางที่ถูกต้อง
ข้อคิด: ผู้วินิฉัย 19-21
การอ่านวันนี้ไม่มีความสุขมากนัก เนื่องจากมีการขาดการเกรงกลัวและยกย่องพระเจ้า บรรทัดสุดท้ายเตือนเราว่า “ทุกคนทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของตนเอง” และหนังสือเล่มนี้จบลงด้วยความชั่วร้ายที่เพิ่มมากขึ้น ที่ซึ่งพระเจ้าไม่ได้รับการเกรงกลัวและยกย่อง ที่ซึ่งผู้คนทำตามที่ตนพอใจและทำตามความปรารถนาของตนเอง อาจมีทางแก้ไขชั่วคราวหรือการเติมเต็มความปรารถนา แต่ก็ไม่มีความปีติที่ลึกซึ้ง ยั่งยืน เพราะสิ่งนี้ไม่ได้พบในการทำตามความปรารถนาในใจของเราทุกอย่าง แต่พบได้ในพระองค์ พระองค์คือที่ที่ความปีติอยู่!
คำถาม
1. ผลกระทบของการขาดจริยธรรมและการตัดสินใจในชุมชน: เรื่องราวในบทที่ 19 แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการปฏิเสธจริยธรรมและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม ในชีวิตปัจจุบัน เราจะสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมจริยธรรมและความดีในชุมชนของเราได้อย่างไร และเราจะทำอย่างไรเมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในสังคม?
2. การฟื้นฟูความสัมพันธ์และการอภัย: ในบทที่ 21 แสดงให้เห็นถึงกระบวนการคืนดีหรือการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของชนเผ่าอิสราเอลหลังเหตุการณ์น่าสลดใจ เราจะสามารถส่งเสริมการคืนดีและการอภัยในความสัมพันธ์ของเราเองได้อย่างไร โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดความขัดแย้งหรือการทำผิดกันในคริสตจักรของเรา?
เรื่องราวของเผ่าเบนยามินในหนังสือผู้วินิจฉัยเป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งและความรุนแรงในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบทที่ 19-21 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:
- จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง:
- เหตุการณ์เริ่มต้นจากการกระทำที่โหดร้ายในเมืองกิเบอาห์ ซึ่งเป็นเมืองของเผ่าเบนยามิน เมื่อหญิงเลวีถูกรุมโทรมและเสียชีวิต
- เมื่อเผ่าอิสราเอลเผ่าอื่นๆ เรียกร้องให้เผ่าเบนยามินส่งตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่เผ่าเบนยามินปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ
- สงครามและการล่มสลาย:
- การปฏิเสธของเผ่าเบนยามินนำไปสู่สงครามระหว่างเผ่าอิสราเอลอื่นๆ กับเผ่าเบนยามิน
- ในสงครามครั้งนี้ เผ่าเบนยามินเกือบถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น
- เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยุคผู้วินิจฉัย
- การฟื้นฟูเผ่าเบนยามิน:
- หลังจากสงคราม เผ่าอิสราเอลเผ่าอื่นๆ รู้สึกเสียใจที่เผ่าเบนยามินเกือบถูกทำลายล้าง
- พวกเขาจึงหาทางฟื้นฟูเผ่าเบนยามิน โดยการจัดหาภรรยาให้กับผู้ชายที่รอดชีวิตของเผ่าเบนยามิน
- การฟื้นฟูนี้เกิดขึ้นผ่านเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวจากยาเบชกิเลอาด และหญิงสาวที่เต้นรำในเทศกาลที่ชิโลห์
- ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
- เรื่องราวของเผ่าเบนยามินในหนังสือผู้วินิจฉัยแสดงให้เห็นถึงความวุ่นวายและความขัดแย้งในยุคผู้วินิจฉัย
- นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความสามัคคีและความยุติธรรมในหมู่เผ่าอิสราเอล
ข้อคิดสอนใจ:
- ผลกระทบของความขัดแย้ง:
- เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งสามารถนำไปสู่ความรุนแรงและการทำลายล้างได้
- การไม่ยอมประนีประนอมและการขาดความสามัคคีสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าเศร้าได้
- ความสำคัญของความยุติธรรม:
- การเรียกร้องความยุติธรรมจากเผ่าเบนยามินแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการลงโทษผู้กระทำผิด
- อย่างไรก็ตาม การตอบสนองที่รุนแรงเกินไปก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้เช่นกัน
- ความสำคัญของการคืนดี:
- การที่เผ่าอิสราเอลเผ่าอื่นๆ พยายามฟื้นฟูเผ่าเบนยามินแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการคืนดีและการให้อภัย
- แม้ว่าจะเกิดความขัดแย้งและความรุนแรง แต่การพยายามสร้างความสมานฉันท์ก็เป็นสิ่งสำคัญ
- การระวังต่อการกระทำที่โหดร้าย:
- เรื่องราวนี้เตือนให้ระวังต่อการกระทำที่โหดร้าย และการปกป้องผู้ที่อ่อนแอในสังคม.
โดยสรุปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเผ่าเบนยามินในหนังสือผู้วินิจฉัยเป็นบทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับ
ผลกระทบของความขัดแย้งและความสำคัญของการคืนดีกัน