Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ปฐมกาล 3

เรื่องย่อ

พระเจ้าทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งทั้งปวงในหกวัน เริ่มจากความว่างเปล่าสู่สวนเอเดนอันงดงาม ทรงสร้างมนุษย์อาดัมจากดินและเอวาจากซี่โครงของอาดัม มอบให้พวกเขาเป็นผู้ดูแลสวนและทรงห้ามไม่ให้กินผลจากต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว อย่างไรก็ตาม งูซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นตัวแทนของความชั่วร้าย ได้ล่อลวงเอวาให้กินผลไม้ต้องห้าม และเอวาก็ชักชวนอาดัมกินด้วย การกระทำนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้มีความบาป ถูกขับไล่ออกจากสวนเอเดน และต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก ความเจ็บปวด และความตาย เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของบาป ความทุกข์ทรมาน และความตายในโลก และความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

 

สวัสดีครับพี่น้องไทยมิชชั่น ยินดีตอนรับสู่การการพระคัมภีร์ในหนึ่งปีที่ไม่ธรรมดา ทุกวันเราจะได้รับความรู้ผ่านเรื่องย่อ และการอธิบายที่เป็นประโยชน์สำหรับการเติบโตฝ่ายวิญญาณ พร้อมทั้งคำแนะนำในการเปลื่ยนแปลงชีวิตอย่างพระคริสต์ครับ ในวันนี้พระธรรมปฐมกาลเล่าเรื่องราวการสร้างโลกและมนุษย์ จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือประวัติศาสตร์อย่างละเอียด แต่เพื่อแสดงให้เห็นถึงพระเจ้าและแผนการของพระองค์ แม้ว่าผู้ศรัทธาจะเชื่อว่าพระคัมภีร์เป็นความจริงทั้งหมด แต่การตีความบางส่วนอาจไม่ใช่แบบตรงตัวเสมอไป

มีหลายวิธีในการตีความเรื่องการสร้างโลกใน 6 วัน บางคนเชื่อว่า "วัน" ในพระคัมภีร์หมายถึงช่วงเวลาอันยาวนาน (ทฤษฎีวัน-ยุค) บางคนเชื่อว่าเป็นวันละ 24 ชั่วโมงตามตัวอักษร (ทฤษฎีการสร้างโลกแบบอายุน้อย) แต่ไม่ว่าจะตีความอย่างไร สิ่งที่แน่นอนคือพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้าง และการสร้างนั้นเกิดจากเจตนาของพระองค์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การเปิดรับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกับการศึกษาพระคัมภีร์จึงสำคัญ เพราะพระธรรมปฐมกาลเน้นถึงพระเจ้ามากกว่ารายละเอียดทางวิทยาศาสตร์

ข้อความ "ให้เราสร้างมนุษย์ตามรูปลักษณ์ของเรา" (ปฐมกาล 1:26) บ่งบอกถึงตรีเอกภาพของพระเจ้า คือพระบิดา พระบุตร (พระเยซู) และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามพระองค์ร่วมกันในการสร้าง พระเยซูไม่ได้ปรากฏตัวเฉพาะในพันธสัญญาใหม่ แต่ทรงมีบทบาทสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นโลก

คำว่า "LORD" (ตัวพิมพ์ใหญ่) ในปฐมกาล 2:4 คือการแปลคำภาษาฮีบรู "Adonai" ซึ่งเป็นพระนามเฉพาะของพระเจ้า (YHWH/Yahweh/Jehovah) การเปิดเผยพระนามนี้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของพระเจ้าที่จะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับมนุษย์

การตกของมนุษย์เพราะบาปของอาดัมและเอวา ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้พระเจ้าประหลาดใจ พระองค์ทรงรู้ล่วงหน้าและมีแผนการอยู่แล้ว คำว่า "เมื่อใด" ในปฐมกาล 2:17 แสดงถึงความแน่นอนของผลที่ตามมาจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า บาปนำมาซึ่งความเสื่อมโทรม และผลกระทบนั้นยังคงเห็นได้ชัดในโลกปัจจุบัน ความไม่เชื่อฟังของเอวาส่งผลให้เกิดความพยายามในการควบคุม ในขณะที่คำสาปของอาดัมทำให้เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นในความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงในปัจจุบัน

 

ข้อคิด: ปฐมกาล 1-3


พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างและผู้ทรงอำนาจสูงสุด แต่พระองค์ก็ทรงเมตตา แม้ว่าพระองค์ทรงประกาศว่าอาดัมและเอวาจะต้องตายหากกินผลไม้ต้องห้าม แต่พระองค์ไม่ได้ลงโทษพวกเขาทันที แทนที่จะลงโทษ พระองค์กลับแสดงความรักและความเมตตา พระองค์ไม่ได้ผิดคำสัญญา แต่กลับทรงแสดงให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

เมื่ออาดัมและเอวาซ่อนตัวและโกหกพระองค์ พระองค์ก็ยังทรงแสวงหาพวกเขาด้วยความรัก แม้พวกเขาจะทำบาปอย่างหนัก พระเจ้าก็ยังคงทรงแสดงความเมตตาและการลงโทษอย่างเหมาะสม ความเมตตาของพระองค์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อมนุษย์เป็นของประทานอันล้ำค่า เพราะพระเจ้าทรงอยู่ ณ ที่ซึ่งมีแต่ความรักและความชื่นชมยินดี

 

คำถาม

  • การเชื่อฟังและการไม่เชื่อฟัง: การไม่เชื่อฟังของมนุษย์นำไปสู่ความบาป เราสามารถเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังพระเจ้าและคำแนะนำที่ดีจากผู้อื่นได้อย่างไร? อย่างไรจึงจะรู้ว่าอะไรควรเชื่อฟัง และอะไรไม่ควรเชื่อฟัง? เราควรตั้งคำถามกับสิ่งใดบ้าง?
  •       การรับผิดชอบต่อการกระทำ: การไม่เชื่อฟังของมนุษย์เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์เอง เราสามารถเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของเราได้อย่างไร? เราควรขอโทษและแก้ไขความผิดพลาดของเราอย่างไร?

 

 


Adonai (
אֲדֹנָי) เป็นคำภาษาฮีบรูโบราณ แปลว่า "เจ้านาย" หรือ "พระเจ้า" เป็นคำที่ใช้เรียกพระเจ้าในพระคัมภีร์ฮีบรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการออกเสียงชื่อพระเจ้า YHWH (ยะห์เวห์) โดยตรง ซึ่งถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก

ในสมัยโบราณ ชาวยิวถือว่าการออกเสียงชื่อ YHWH โดยตรงเป็นการล่วงเกิน จึงใช้คำว่า Adonai แทน เมื่ออ่านพระคัมภีร์ คำว่า Adonai จะถูกอ่านออกเสียงแทน YHWH และในภายหลัง ก็มีการใช้คำว่า Jehovah หรือ Yahweh เพื่อแทนชื่อนี้ แต่คำว่า Adonai นั้นมีความหมายและการใช้งานที่แตกต่างจาก YHWH เล็กน้อย Adonai เน้นถึงความเป็นเจ้านาย ผู้ทรงอำนาจ และผู้ปกครอง มากกว่าการเน้นถึงความเป็นอยู่ หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว