Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 19

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 20

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 21

เรื่องย่อ

พระธรรมสุภาษิตบทที่ 19-21 สะท้อนความสำคัญของความเชื่อมั่นในพระเจ้าและการดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน โดยเน้นว่าการมีใจอ่อนน้อมและความมุ่งมั่นในการทำดีจะนำไปสู่ความสุขที่แท้จริง ในทางตรงกันข้าม ความโลภ ความเจ้าปัญญา และการหลงลืมคุณธรรมจะนำความทุกข์และความเสื่อมเสียเข้ามาในชีวิต บทเรียนนี้ชี้ให้เห็นว่าความสุขและความสำเร็จไม่ได้มาจากสมบัติหรือแผนการของมนุษย์เอง แต่ขึ้นอยู่กับการยึดมั่นในความจริงและความดี คำสอนเหล่านี้จึงเป็นแนวทางให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่า เพื่อความสงบสุขและความรุ่งเรืองในชีวิตในระยะยาว

 

ในบทที่ 19 และ 20 ของสุภาษิต ซาโลมอนเน้นให้เรารู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีต้องอาศัยความรู้และปัญญา การรักใครสักคนและความสัมพันธ์กับพระเจ้าจะไม่ใช้แค่ความรู้สึกเท่านั้น แต่ต้องมีความเข้าใจและการใส่ใจจริงจัง พระเจ้าไม่ชอบคนที่รีบร้อนหรือทำสิ่งใดโดยไม่รู้ความจริง พระองค์เป็นพระบิดาและพระองค์อยากให้เรามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและซื่อสัตย์ ซึ่งจะนำความสุขและความสงบสุขมาให้ในชีวิต

นอกจากนี้ สุภาษิตเน้นให้เรารู้ว่าความรู้และปัญญานั้นหายากและมีค่า เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตเรามาก การพูดอย่างมีปัญญาและถ่อมตนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้คำพูดของเรามีพลังและสร้างความดีในสังคม โดยเฉพาะเมื่อเรารู้จักรักษาคำพูดและแสดงความถ่อมตน เราจะได้รับเกียรติและนับถือจากผู้อื่น พระเจ้ายังให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ที่ต้องหลีกเลี่ยงความทะเลาะและความกังวลใจ เพราะความสุขในความสัมพันธ์นั้นเกิดจากความเข้าใจและความอ่อนโยน

สุดท้าย สุภาษิตเตือนให้เรารู้ว่าความกลัวและความขาดแคลนจะทำให้เรามองข้ามความงามและความอิสระจากพระเจ้า การวางใจในพระองค์และการไม่กลัวสิ่งใดๆ จะช่วยให้เรามีความสุขและความสงบในใจ ชีวิตจะเป็นสุขกว่าหากเราเปิดใจและเชื่อมั่นในพระเจ้า ซึ่งจะนำพาเราไปสู่ความปลอดภัยและความหวังที่มั่นคงในอนาคตเสมอ

 

ข้อคิด: สุภาษิต 19-21

ในสุภาษิต 19:17 กล่าวว่า คนที่เมตตาช่วยเหลือคนยากไร้จะได้รับรางวัลจากพระเจ้าเหมือนกับพระองค์ยืมเงินจากเขา พระเยซูสอนเราไม่ให้ให้ยืมแต่ให้ด้วยใจเมตตา ซึ่งไม่ใช่การห้ามกู้ยืมหรือให้ยืมเงิน แต่เน้นความใจดีและความพร้อมที่จะช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน พระเจ้าทรงสนใจทั้งคนรวยและคนจน พระองค์ให้ความรักและความเมตตาแก่ทุกคนและพร้อมที่จะตอบแทนในแบบที่มีค่าที่สุด คือสิ่งที่นิรันดร์ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่ใส่ใจและเต็มไปด้วยความเมตตาอย่างไม่มีสิ้นสุด และพระองค์ทรงอยู่ที่ที่เต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีเสมอ

 

คำถาม

1.   สุภาษิตมักจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนและความขยันหมั่นเพียร แต่ก็ยอมรับถึงอำนาจอธิปไตยของพระเจ้าในการกำหนดผลลัพธ์ ในชีวิตสมัยใหม่ที่บุคคลมักจะให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมายและความสำเร็จส่วนบุคคล เราจะรักษาสมดุลระหว่างความพยายามของเราและความไว้วางใจในแผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราได้อย่างไร?

2.   สุภาษิตให้คุณค่าอย่างมากต่อสติปัญญาและความเข้าใจในการจัดการความขัดแย้งและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดี ในโลกที่การสื่อสารมักจะถูกไกล่เกลี่ยโดยหน้าจอและโซเชียลมีเดีย เราจะเพาะปลูกสติปัญญาและความเห็นอกเห็นใจที่จำเป็นในการนำทางความขัดแย้ง, เข้าใจมุมมองที่แตกต่าง และสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้อย่างไร?

 

 

สุภาษิต บทที่ 19 ในพระคัมภีร์ให้ข้อคิดและหลักปฏิบัติที่สำคัญหลายประการเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญาและความชอบธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ สติปัญญา, ความยากจน, ความร่ำรวย, ความสัมพันธ์, และความยุติธรรม

ต่อไปนี้คือข้อคิดสำคัญที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้:

1. สติปัญญาและการหลีกเลี่ยงความโง่เขลา

สุภาษิตบทนี้เน้นย้ำถึงคุณค่าของ สติปัญญา และผลเสียของ ความโง่เขลา คนที่มีสติปัญญาจะระมัดระวังในการใช้คำพูดและการกระทำ หลีกเลี่ยงปัญหาและความอับอาย ในขณะที่คนโง่เขลามักจะทำสิ่งที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง นำพาตนเองไปสู่ความเดือดร้อน

  • ข้อคิด: จงแสวงหาสติปัญญาและเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และคำพูดของตนเอง การมีสติปัญญาช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์

2. ความยากจนและความร่ำรวย: มุมมองที่แตกต่าง

สุภาษิตบทนี้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างคนยากจนและคนร่ำรวย โดยชี้ให้เห็นว่าแม้คนยากจนอาจถูกดูหมิ่น แต่ก็ยังมีผู้ที่ช่วยเหลือพวกเขา ในขณะที่คนร่ำรวยอาจมีเพื่อนมากมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีความสุขเสมอไป นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการที่คนยากจนที่ซื่อสัตย์ดีกว่าคนร่ำรวยที่คดโกง

  • ข้อคิด: อย่าตัดสินคุณค่าของบุคคลจากฐานะทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือ ความซื่อสัตย์สุจริต และ คุณธรรม การช่วยเหลือผู้ยากไร้เป็นสิ่งที่ดีและควรได้รับการส่งเสริม

3. ความสัมพันธ์และการเลือกคบเพื่อน

บทนี้เตือนให้เราเลือกคบเพื่อนอย่างระมัดระวัง คนที่พูดเท็จหรือทำสิ่งที่เลวร้ายมักจะไม่ได้รับการสนับสนุนในระยะยาว และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ ความรักและความเมตตา ในความสัมพันธ์

  • ข้อคิด: จงระมัดระวังในการเลือกคบเพื่อน เพื่อนที่ดีจะนำพาเราไปในทางที่ดี แต่เพื่อนที่ไม่ดีอาจชักจูงเราให้ทำผิดพลาดได้ นอกจากนี้ การแสดงความรักและความเมตตาต่อผู้อื่นจะนำมาซึ่งความสุขและความสัมพันธ์ที่ดี

4. ความยุติธรรมและการพิจารณาคดี

สุภาษิตบทนี้กล่าวถึงความสำคัญของความยุติธรรมในการพิจารณาคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

  • ข้อคิด: ในฐานะผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจหรือแม้แต่ในการใช้ชีวิตประจำวัน จงยึดมั่นใน ความยุติธรรม และ ความเที่ยงธรรม การตัดสินใจโดยปราศจากอคติจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5. การอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน

บทนี้ยังกล่าวถึงการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขหรือตักเตือนบุตรหลานเมื่อทำผิดพลาด เพื่อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณธรรม

  • ข้อคิด: การอบรมสั่งสอนบุตรหลานด้วยความรักและความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ การแก้ไขข้อผิดพลาดตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้พวกเขามีทิศทางที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต

สุภาษิต บทที่ 19 เน้นย้ำถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสติปัญญา ความซื่อสัตย์สุจริต การมีความสัมพันธ์ที่ดี และการยึดมั่นในความยุติธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและความเจริญรุ่งเรือง