Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อิสยาห์ 5

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อิสยาห์ 6

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อิสยาห์ 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อิสยาห์ 8

เรื่องย่อ

อิสยาห์ 5-8 เล่าเรื่องบทกลอนเปรียบเปรยของอิสยาห์ที่เปรียบอิสราเอลเป็นไร่ผลไม้ที่พระเจ้าวางแผนปลูกไว้ แต่กลับเต็มไปด้วยความเสื่อมโทรมและความหยิ่งทะนง ชาวเมืองถูกตำหนิว่าดูดซับความผิดบาปและหลงใหลในความสุขชั่วคราว ทำให้พระเจ้าต้องลงโทษด้วยความทุกข์และความวุ่นวาย ทั้งความรุกเร้าของชนชาติพันธมิตร การข่มเหง และการล่มสลายของบ้านเมือง แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีความหวังในคำพยากรณ์ของอิสยาห์ ว่าจะมีการฟื้นฟูเมื่อผู้คนกลับใจและยอมรับพระเจ้า เรื่องราวนี้เตือนใจถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์และความอ่อนน้อมต่อพระเจ้าเพื่อป้องกันความหายนะ และนำพาไปสู่การฟื้นฟูที่แท้จริงในอนาคต

 

อิสยาห์เขียนถึงประชากรของพระเจ้าในรูปแบบบทกวีรัก เปรียบพระเจ้าเป็นผู้ดูแลสวนองุ่น และชาวอิสราเอลเป็นองุ่นป่า ซึ่งในภาษาฮีบรูมีความหมายถึง "สิ่งที่ส่งกลิ่นเหม็น" พระเจ้าทรงเน้นถึงความผิด 6 ประการ และประกาศวิบัติแก่ผู้กระทำผิดเหล่านั้นด้วยการลงโทษที่สอดคล้องกับความชั่วร้ายของพวกเขา วิบัติประการแรกประณามคนโลภที่ผลักไสคนยากจนออกจากแผ่นดิน วิบัติประการที่สองกล่าวถึงผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างหรูหราและมึนเมาซึ่งนำพาพวกเขาออกจากการให้เกียรติพระเจ้า วิบัติประการที่สามคือแก่ผู้ที่เยาะเย้ยพระเจ้าและสงสัยว่าการพิพากษาของพระองค์กำลังมาถึง วิบัติประการที่สี่คือแก่คนโง่ที่หยิ่งยโสซึ่งไม่มีวิจารณญาณหรือความซื่อสัตย์สุจริตที่บิดเบือนความจริง วิบัติประการที่ห้าคือสำหรับคนหยิ่ง และวิบัติประการที่หกเน้นย้ำถึงคนขี้เมาที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ โดยเสริมว่าพวกเขาปล้นความยุติธรรมจากผู้คน

บทที่ 6 เป็นนิมิตเกี่ยวกับห้องบัลลังก์ของพระเจ้า ซึ่งทำให้อิสยาห์ตระหนักว่าเขาก็เป็นคนบาปที่ต้องการพระเมตตาของพระเจ้าเช่นกัน เขาเห็นชายขอบด้านนอกของพระสิริของพระเจ้า และได้เห็นเสราฟิมหกปีกปิดตาขณะร้องว่า "บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์" เสราฟิมองค์หนึ่งนำถ่านร้อนมาแตะริมฝีปากของเขา เผาผลาญความไม่บริสุทธิ์ออกไป เมื่อเผชิญหน้ากับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า อิสยาห์จึงมองเห็นตัวเองอย่างถูกต้อง จากนั้นพระเจ้าทรงมอบหมายงานให้เขา: ตำหนิผู้คนที่จะไม่ฟัง ซึ่งจะเพิ่มการพิพากษาให้พวกเขามากยิ่งขึ้น แม้จะมีการพิพากษาและการทำลายล้างทั้งหมด พระเจ้าจะทรงรักษาส่วนที่เหลือของประชากรของพระองค์ไว้

เมื่อยูดาห์ใต้ประสบปัญหาทางทหาร กษัตริย์อาหัสทรงถูกล่อลวงให้ทำพันธสัญญากับต่างชาติเพื่อขอความคุ้มครอง แต่อิสยาห์กล่าวว่าให้วางใจในพระเจ้าเพื่อการช่วยกู้ พระเจ้าตรัสกับอาหัสให้ขอหมายสำคัญจากพระองค์ แต่อาหัสทรงปฏิเสธ ดังนั้นพระเจ้าจึงประทานหมายสำคัญให้ถึงอย่างไรก็ตาม ซึ่งเป็นการประกาศการประสูติของพระเยซู ก่อนที่เด็กชายจะโตพอที่จะแยกแยะความถูกผิดได้ สองชาติที่อาหัสกลัวจะร้างเปล่า พระเจ้าสามารถตรัสความจริงในปัจจุบันและความจริงนิรันดร์ได้พร้อมกัน และท่ามกลางความหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ พระเจ้าตรัสว่าอิสยาห์ไม่ควรกลัวสิ่งที่คนอื่นกลัว

 

ข้อคิด: อิสยาห์ 5-8

ในนิมิตห้องบัลลังก์ของอิสยาห์ พระเยซูปรากฏในสองลักษณะ: ประการแรก การที่บัลลังก์ของพระเจ้าอยู่ในพระวิหาร แทนที่จะอยู่ในพระราชวัง สะท้อนถึงการทับซ้อนกันของความเป็นกษัตริย์และความเป็นปุโรหิต ซึ่งชี้ไปยังบทบาทของพระเยซูทั้งในฐานะกษัตริย์และมหาปุโรหิต ประการที่สอง เสราฟิมนำถ่านเพลิงจากแท่นบูชามาแตะริมฝีปากของอิสยาห์เพื่อชำระเขาให้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแท่นบูชาเครื่องบูชาและการพลีพระชนม์ของพระเยซูเพื่อชำระล้างบาปของเรา ถ่านเพลิงที่ลุกไหม้และการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เป็นเหตุแห่งความชื่นชมยินดีของเรา

 

คำถาม

1.   อิสยาห์ 5 เตือนถึง "วิบัติ" ที่จะเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้นที่แสวงหาเพียงความสุขสำราญส่วนตน ละเลยความยุติธรรม และเรียกความชั่วว่าดี เราจะหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในความสบายใจส่วนตนและละเลยความต้องการของผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าในสังคมของเราได้อย่างไร?

2.   ในอิสยาห์ 6-8 อิสยาห์เผชิญกับความท้าทายในการเป็นผู้พยากรณ์ของพระเจ้าในช่วงเวลาที่มีความไม่เชื่อและความกลัวโดยทั่วไป เราจะตอบสนองต่อการเรียกร้องของพระเจ้าในชีวิตของเรา แม้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนหรือยากลำบากได้อย่างไร?

 

 

 

อิสยาห์ บทที่ 8 เป็นบทที่เต็มไปด้วยคำเตือน คำพยากรณ์ และหลักการสำคัญหลายประการที่ยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน นี่คือข้อคิดหลักๆ ที่สามารถถอดออกมาได้:

1. การไว้วางใจในพระเจ้า vs. การพึ่งพากำลังของมนุษย์

ในบทนี้ อิสยาห์เตือนประชาชนไม่ให้พึ่งพามนุษย์หรือพันธมิตรทางการเมือง แต่ให้ ไว้วางใจในพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว (อิสยาห์ 8:12-13) แม้ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากศัตรูที่แข็งแกร่ง (อัสซีเรียและซีเรีย) พระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งที่มั่นคงและเป็นป้อมปราการ การหันไปพึ่งพาแหล่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้าจะนำมาซึ่งความหวาดกลัวและความพ่ายแพ้

2. การไม่เชื่อฟังนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เจ็บปวด

บทที่ 8 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการที่ประชาชนไม่เชื่อฟังพระเจ้าและหันไปพึ่งพาชาติอื่น จะนำมาซึ่ง ผลลัพธ์ที่เลวร้าย (อิสยาห์ 8:7-8) แม่น้ำที่เอ่อล้นเปรียบเสมือนกองทัพศัตรูที่เข้าท่วมแผ่นดิน ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการที่พวกเขาปฏิเสธ "น้ำจากชิโลอาห์ที่ไหลเอื่อยๆ" (อิสยาห์ 8:6) ซึ่งหมายถึงการทรงสถิตและพรของพระเจ้าที่มาอย่างเงียบๆ

3. คำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์)

ในบทนี้มีข้อความสำคัญที่ชี้ไปถึงการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอิสยาห์ 8:14 ที่กล่าวถึง "ศิลากระทบและศิลาที่ทำให้สะดุด" ซึ่งต่อมาในพันธสัญญาใหม่ได้ถูกอ้างถึงว่าเป็นพระเยซูคริสต์ (โรม 9:33, 1 เปโตร 2:8) แม้ว่าพระองค์จะเป็นความหวังและความรอดสำหรับบางคน แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อ พระองค์จะเป็นเหตุให้สะดุดล้ม

4. ความสำคัญของการยึดมั่นในพระวจนะของพระเจ้า

อิสยาห์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ แสวงหาคำแนะนำจากพระวจนะของพระเจ้า แทนที่จะหันไปหาการทรงวิญญาณหรือหมอดู (อิสยาห์ 8:19-20) เขาเตือนว่าถ้าผู้คนไม่พูดตามพระวจนะของพระเจ้า ก็จะไม่มีรุ่งอรุณสำหรับพวกเขา การยึดมั่นในความจริงของพระเจ้าเป็นหนทางเดียวที่จะพบความสว่างและหลีกเลี่ยงความมืดมิดทางวิญญาณ

5. การทรงสถิตของพระเจ้าท่ามกลางความมืดมิด

แม้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและเต็มไปด้วยความมืดมิด อิสยาห์ 8:10 ก็ยังกล่าวถึงหลักการสำคัญว่า "วางแผนกันไปเถิด แล้วแผนของเจ้าจะไม่เป็นผล" เพราะอะไร? เพราะว่า "พระเจ้าทรงสถิตกับเรา" (อิมมานูเอล) นี่คือข้อความที่ให้ความหวังว่า ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงใดหรือสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน หากพระเจ้าทรงอยู่กับเรา ไม่มีอะไรจะทำอันตรายเราได้

อิสยาห์ บทที่ 8 สอนให้เรา ไว้วางใจในพระเจ้าอย่างแท้จริง พึ่งพาพระองค์ในทุกสถานการณ์ ยึดมั่นในพระวจนะของพระองค์ และเข้าใจว่าการไม่เชื่อฟังย่อมมีผลตามมา แต่เหนือสิ่งอื่นใด บทนี้ยังย้ำเตือนเราถึงการทรงสถิตของพระเจ้าผู้ทรงเป็นอิมมานูเอล ผู้ทรงอยู่กับเราเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์จะมืดมิดเพียงใดก็ตาม