เรื่องย่อ
ในอิสยาห์ 40-43 ข้อความแห่งความปลอบประโลมและการไถ่จึงดังก้องกังวานสำหรับอิสราเอลที่ถูกเนรเทศ พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองในฐานะผู้สร้าง ผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงเหนือกว่าชาติทั้งหลาย และพระองค์ทรงสัญญาว่าจะทรงนำประชากรของพระองค์กลับบ้านอย่างอ่อนโยนเหมือนผู้เลี้ยงแกะที่ดูแลฝูงแกะของพระองค์ อิสยาห์ประกาศว่าบาบิโลนจะล้มลง และหนทางจะเตรียมไว้สำหรับการกลับมาของผู้ที่ถูกเนรเทศ แม้ในความอ่อนแอของพวกเขา พระเจ้าจะทรงเสริมกำลังพวกเขา ทรงทำให้ทะเลทรายเบ่งบาน และทรงสำแดงพระเกียรติสิริของพระองค์แก่โลก อิสราเอลได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้รับใช้ที่ทรงเลือกของพระเจ้า ได้รับการทรงเรียกให้เป็นพยานถึงอำนาจสูงสุดของพระองค์ และพระองค์ทรงไถ่พวกเขา ไม่ใช่เพื่อความชอบธรรมของพวกเขาเอง แต่เพื่อพระนามของพระองค์เอง ซึ่งเป็นสัญญาณแห่งพระคุณของพระองค์ที่ไม่มีใครเทียบได้ และแผนการที่จะนำความรอดมาสู่ทุกประชาชาติ
อิสยาห์ไม่ได้ทำนายถึงการล่มสลายของเยรูซาเลมต่อบาบิโลนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความหวังในอนาคตสำหรับคนรุ่นหลังด้วย นั่นคือการฟื้นฟูหลังจากการถูกเนรเทศ อิสราเอลถูกนำกลับมา และพระเจ้าทรงปลอบโยนพวกเขา แม้ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างจะผ่านพ้นไป แต่พระวจนะของพระองค์จะดำรงอยู่ อิสราเอลกลับดิ้นรนที่จะไว้วางใจและสรรเสริญพระเจ้า พวกเขาหันไปหารูปเคารพและบาป ราวกับว่าพระเจ้าไม่สามารถเห็นการกระทำของพวกเขาได้ อิสยาห์เตือนพวกเขาว่าพระเจ้าทรงช่วยพวกเขาให้รอดผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และพวกเขากำลังพลาดประเด็นนี้ บางครั้งพระเจ้าทรงใช้ศัตรูเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระองค์
อิสยาห์กระตุ้นให้อิสราเอลวางใจในพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงสามารถทำได้มากกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ ในอิสยาห์ 40:31 ท่านกล่าวว่าพระเจ้าจะทรงเสริมกำลังของพวกเขาใหม่เมื่อพวกเขารอคอยพระองค์ คำว่า "รอคอย" หมายถึงการผูกพันกัน เข้าร่วม พบปะ คาดหวัง วางใจ และอดทนอย่างมั่นใจ การรอคอยพระเจ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่การใช้เวลา แต่เป็นการแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์และการรู้จักพระองค์ เมื่อเราอยู่ในพื้นที่นั้น พระองค์จะทรงเสริมกำลังเรา
พระเจ้าสถิตกับพวกเขา และตรัสถึงสามครั้งว่าอย่ากลัว การทรงเรียกให้ไม่ต้องกลัวปรากฏขึ้น 366 ครั้งในพระคัมภีร์ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะจัดเตรียมและปกป้องประชากรของพระองค์ ผู้ที่ไม่เชื่อพระองค์ตกเป็นเหยื่อของการบูชารูปเคารพ บทที่ 42 ให้คำพยากรณ์ถึงพระคริสต์ พระเจ้าจะทรงเมตตาต่ออิสราเอลที่บาดเจ็บ และทรงจัดเตรียมผู้รับใช้ที่แท้จริงเพื่อทำให้พันธกิจของพระองค์สำเร็จ ในบทที่ 43 พระเจ้าตรัสอีกครั้งว่า “อย่ากลัวเลย” เพราะพวกเขาเป็นของพระองค์ และพระองค์จะทรงทำสิ่งอัศจรรย์เพื่อพวกเขา พระองค์ทรงเรียกพวกเขาให้ลืมสิ่งต่างๆ ในอดีต และทรงสร้างทางเพื่อลบล้างบาปของพวกเขา
ข้อคิด: อิสยาห์ 40-43
พระเจ้าทรงเรียกอิสราเอลว่า "ผู้รับใช้" ของพระองค์ ยาโคบว่า "ผู้ที่ทรงเลือก" และอับราฮัมว่า "สหาย" ของพระองค์ (41:8) อิสราเอลทำบาปและกบฏ แต่พวกเขาก็ยังคงรับใช้พระประสงค์ของพระองค์ ยาโคบใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ได้พร เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า แต่เขาก็เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือก อับราฮัมมีความสงสัยและโกหกเพื่อรักษาชีวิตของตนเอง และเขาพยายามที่จะทำให้พระสัญญาของพระเจ้าสำเร็จแทนที่จะรอคอยเวลาของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็ยังคงเรียกเขาว่า "สหาย" ไม่มีใครสมบูรณ์แบบที่พระเจ้าจะทรงใช้ได้ เราทุกคนล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ของพระองค์ ซึ่งแตกหักตั้งแต่เริ่มต้น แต่พระองค์ทรงเขียนเราเข้าไปในเรื่องราวของพระองค์ และพระองค์ทรงลบล้างความผิดบาปของเราเพื่อเห็นแก่พระองค์เอง ไม่ใช่แค่ของเรา แต่เป็นของพระองค์เอง ช่างเป็นพระเจ้าและพระบิดาที่น่าทึ่งอะไรเช่นนี้! พระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!
คำถาม
1. อิสยาห์ 40-43 เน้นย้ำถึงการที่พระเจ้าทรงปลอบโยนและทรงสถิตด้วยตลอดเวลา แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด คุณจะสร้างบรรยากาศแห่งความปลอบโยนและการหนุนใจซึ่งกันและกันในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนได้อย่างไร และคุณจะสอนลูก ๆ ของคุณให้ตระหนักถึงการประทับอยู่และการดูแลของพระเจ้าในความท้าทายได้อย่างไร
2. อิสยาห์ 43 ยืนยันว่าพระเจ้าทรงเรียกเราแต่ละคนโดยพระนามและทรงสร้างเราเพื่อจุดประสงค์นั้น คุณจะสนับสนุนให้สมาชิกแต่ละคนค้นพบและติดตามของประทานและความสามารถเฉพาะตัวได้อย่างไร เพื่อให้แต่ละคนรู้สึกมีคุณค่าและมีส่วนร่วมในคริสตจักร?
อิสยาห์บทที่ 43 เป็นบทที่ให้กำลังใจอย่างมาก เต็มไปด้วยข้อคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เราเผชิญความยากลำบาก นี่คือข้อคิดสำคัญที่เราสามารถเรียนรู้จากบทนี้:
1. คุณค่าและการทรงเลือกของเราในสายพระเนตรของพระเจ้า
อิสยาห์ 43:1 กล่าวว่า "อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า เจ้าเป็นของเรา" ข้อนี้ย้ำเตือนเราถึง คุณค่า ที่ไม่สามารถประเมินได้ของเราในสายพระเนตรของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างเรา ทรงเลือกเรา และทรงเรียกชื่อเราแต่ละคน ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว พระองค์ไม่ได้มองเราเป็นแค่คนกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นบุคคลที่พระองค์รู้จักและรักเป็นการส่วนตัว เราเป็นของพระองค์และมีคุณค่าสำหรับพระองค์อย่างมาก ไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรในตัวเองก็ตาม
2. การทรงสถิตอยู่ด้วยท่ามกลางความยากลำบาก
อิสยาห์ 43:2 กล่าวว่า "เมื่อเจ้าต้องลุยน้ำลึกไป เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อเจ้าต้องข้ามแม่น้ำ เจ้าก็จะไม่จมลงไป เมื่อเจ้าต้องเดินลุยไฟ เจ้าก็จะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงก็จะไม่เผาผลาญเจ้า" นี่คือคำสัญญาที่ทรงพลังว่าพระเจ้าจะอยู่กับเราเสมอ ไม่ว่าเราจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงใด ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เจอปัญหา แต่หมายความว่าพระองค์จะทรง สถิตอยู่ด้วย และจะนำเราผ่านพ้นไปได้ เหมือนการลุยน้ำลึกหรือเดินลุยไฟ เราจะไม่จมหรือถูกเผาผลาญไปโดยสิ้นเชิง เพราะพระองค์อยู่ข้างเรา
3. พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ไถ่และพระผู้ช่วยให้รอด
พระเจ้าทรงประกาศซ้ำๆ ในบทนี้ว่าพระองค์เป็น พระผู้ไถ่ และ พระผู้ช่วยให้รอด (อิสยาห์ 43:3, 11) พระองค์ทรงมีฤทธิ์อำนาจที่จะปลดปล่อยเราจากพันธนาการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นความบาป ความกลัว หรือสถานการณ์ที่ดูเหมือนไร้ทางออก พระองค์ทรงพิสูจน์แล้วในอดีตว่าพระองค์ทรงสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพื่อช่วยกู้ประชากรของพระองค์ และพระองค์ก็ยังทรงทำสิ่งนั้นได้ในปัจจุบัน
4. พระเจ้ากำลังทำสิ่งใหม่เสมอ
อิสยาห์ 43:18-19 กล่าวว่า "อย่าจดจำสิ่งที่ล่วงเลยมาแล้วนั้น อย่าพิเคราะห์เรื่องในอดีต นี่แน่ะ เรากำลังทำสิ่งใหม่ๆ บัดนี้ มันงอกขึ้นมา เจ้าไม่เห็นหรือ? และเราจะทำทางในถิ่นทุรกันดาร และแม่น้ำในที่แห้งแล้ง" นี่เป็นคำเชิญชวนให้เรา อย่าจมอยู่กับอดีต ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความผิดพลาด หรือความเจ็บปวด เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งการริเริ่มใหม่ พระองค์ทรงสามารถสร้างทางในที่กันดาร และให้มีแม่น้ำในที่แห้งแล้งได้เสมอ พระองค์กำลังทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตของเราเสมอ หากเราเปิดตาและใจมองเห็น
5. พระเจ้าทรงลบล้างความบาปของเรา
แม้ว่าอิสราเอลจะมีความบาปและไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าในอดีต แต่อิสยาห์ 43:25 ก็กล่าวว่า "เรานี่แหละคือผู้ลบล้างการละเมิดของเจ้าเพราะเห็นแก่เราเอง และเราจะไม่จดจำบาปของเจ้าอีกเลย" ข้อนี้เน้นย้ำถึง พระเมตตาและพระคุณ อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระองค์ทรงอภัยบาปของเรา ไม่ใช่เพราะเราคู่ควร แต่เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่เที่ยงธรรมและเปี่ยมด้วยความรัก พระองค์ทรงเลือกที่จะไม่จดจำความบาปของเราอีกต่อไปเมื่อเรากลับใจ
อิสยาห์บทที่ 43 เป็นพระคำแห่งความหวังและการยืนยันถึง ความรักที่มั่นคง ของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ ไม่ว่าเราจะผ่านอะไรมา หรือกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใด เราสามารถวางใจได้ว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเรา ทรงห่วงใยเรา ทรงเห็นคุณค่าในตัวเรา และทรงมีแผนการที่ดีที่จะนำเราไปสู่สิ่งใหม่ๆ เสมอ