เรื่องย่อ
ในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายและความท้าทายครั้งใหญ่ กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์เผชิญหน้ากับกองทัพอัสซีเรียอันเกรียงไกรที่นำโดยกษัตริย์เซนนาเคริบ เมื่อเยรูซาเล็มถูกล้อม เฮเซคียาห์ทรงนำประชากรแสวงหาพระเจ้าด้วยการอธิษฐานและการกลับใจ ในขณะเดียวกัน พระเจ้าทรงส่งผู้เผยพระวจนะอิสยาห์มาให้กำลังใจและทำนายถึงการปกป้องอย่างอัศจรรย์ ในค่ำคืนหนึ่ง ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้สังหารทหารอัสซีเรียจำนวนมหาศาล ทำให้เซนนาเคริบต้องล่าถอยกลับไปยังดินแดนของตนเอง เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้าในการปกป้องผู้ที่วางใจในพระองค์ และเป็นเครื่องเตือนใจถึงฤทธิ์อำนาจแห่งการอธิษฐานและการเชื่อฟัง
วันนี้ เราได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับช่วงท้ายรัชกาลของกษัตริย์เฮเซคียาห์ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในบทก่อนหน้าจะเน้นถึงความภักดีของพระองค์ก็ตาม บทที่ 32 เปิดด้วยการโจมตีจากชาติอัสซีเรีย เฮเซคียาห์ยังคงเป็นผู้นำที่ฉลาดและซื่อสัตย์ โดยทำหน้าที่รับใช้พระเจ้าและประชากรยูดาห์ ในขณะที่พวกอัสซีเรียและกษัตริย์เซนนาเคริบวางแผนที่จะโจมตีเยรูซาเล็ม เฮเซคียาห์ได้เตรียมพร้อมอย่างมีกลยุทธ์โดยการสกัดกั้นแหล่งน้ำ เสริมสร้างกำแพงของเมือง เสริมสร้างป้อมปราการ จัดหาอาวุธ และสร้างความเข้มแข็งให้กองทัพของตน เขาสร้างแรงบันดาลใจให้กองทัพของตนโดยเน้นย้ำว่าพระเจ้าทรงอยู่กับพวกเขา ซึ่งเป็นแหล่งความหวังของพวกเขา
กำลังใจที่แท้จริงไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความสามารถของเราเอง แต่มุ่งเน้นไปที่พระเจ้า พระคัมภีร์สอนให้เราเชื่อในพระเจ้าและยอมรับการทรงงานของพระองค์ในตัวเรา ซึ่งแตกต่างจากข้อความของโลกที่เน้นการเชื่อมั่นในตนเอง ความมุ่งเน้นนี้อาจไม่น่าสนใจเท่ากับการส่งเสริมตนเอง แต่รับประกันว่าเราจะไม่พลาดสาระสำคัญ หลังจากที่เฮเซคียาห์ให้กำลังใจผู้นำแล้ว ผู้นำอัสซีเรียก็พยายามข่มขู่ยูดาห์ แต่เฮเซคียาห์ได้วิงวอนต่อพระยาห์เวห์ อัสซีเรียคิดว่าพวกเขากำลังทำสงครามทางกายภาพ แต่เฮเซคียาห์เข้าใจว่านี่คือสงครามฝ่ายวิญญาณ พระเจ้าทรงตอบโดยการส่งทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์มาต่อสู้เพื่อยูดาห์
หลังจากการแทรกแซงจากสวรรค์ 2 พงศาวดาร 32:23 ระบุว่าผู้คนนำของขวัญมาถวายแด่พระยาห์เวห์ในเยรูซาเล็ม และของกำนัลอันมีค่าแด่เฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์ ทำให้เขาได้รับเกียรติจากประชาชาติทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ความเย่อหยิ่งของเฮเซคียาห์กลับนำไปสู่การล่มสลายของเขา ซึ่งเห็นได้ชัดจากความมั่งคั่งที่เขาโอ้อวด ความมั่งคั่งที่ได้รับจากการที่พระเจ้าทรงชนะสงครามที่เฮเซคียาห์ไม่ได้ต่อสู้ด้วยซ้ำ ความเย่อหยิ่งสามารถนำไปสู่การล่มสลายของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ หากพวกเขาลืมแหล่งกำเนิดของอำนาจของตน บทที่ 33 เล่าเรื่องราวของมนัสเสห์ ราชโอรสของเฮเซคียาห์ ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้าย ผู้ทรงกลับการกระทำที่ดีของพระบิดาของพระองค์ และกระทำการที่น่าเกลียดชัง เช่น ถวายราชโอรสของพระองค์เป็นเครื่องบูชา แสวงหาความช่วยเหลือจากคนทรงและหมอดู และตั้งรูปเคารพไว้ในพระวิหาร
ข้อคิด: 2 พงศาวดาร 32-33
ใน 2 พงศาวดาร 33:10-11 พระเจ้าทรงพยายามที่จะเข้าถึงมนัสเสห์และประชากรของพระองค์ แต่เมื่อพวกเขาไม่ฟังในตอนแรก พระองค์ทรงใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อให้เขาหันมาสนใจ โดยที่ความปรารถนาของพระองค์คือการอวยพรเขา ในที่สุด มนัสเสห์ก็กลับใจและหันมาหาพระเจ้า โดยแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวที่ตรงกันข้ามกับเฮเซคียาห์ผู้เป็นพ่อของเขา ผู้เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งแต่หลงทาง ในขณะที่มนัสเสห์เริ่มต้นอย่างชั่วร้ายแต่กลับใจได้ จุดเปลี่ยนในเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองเกี่ยวพันกับทิศทางที่สายตาของพวกเขาเล็งไปที่ เฮเซคียาห์หันสายตาของตนเองมาข้างใน กลายเป็นคนหยิ่งผยองและหลงทางจากพระเจ้า ในขณะที่มนัสเสห์เงยหน้าขึ้นและถ่อมตน พระเจ้าทรงไถ่เรื่องราวของเขา ซึ่งเน้นว่าพระองค์ทรงอยู่ในการทำงานของการเปลี่ยนแปลงจิตใจและปรับมุมมอง พระองค์ทรงเป็นแหล่งความสุขที่แท้จริง
คำถาม
1. 2 พงศาวดาร 32 เล่าถึงวิธีที่เฮเซคียาห์ปกป้องเยรูซาเล็มจากการรุกรานของอัสซีเรียผ่านการเตรียมการเชิงกลยุทธ์และความเชื่อมั่นในพระเจ้า เราจะสอนตนเองเกี่ยวกับความสำคัญของความรับผิดชอบในการวางแผนและการเตรียมพร้อม รวมถึงการพึ่งพาพระเจ้าในช่วงเวลาที่ท้าทายได้อย่างไร
2. 2 พงศาวดาร 33 สรุปว่ามนัสเสห์ ผู้ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้าย สำนึกผิดและกลับใจในที่สุด เราสามารถสร้างพื้นที่แห่งการให้อภัย การไถ่ และการเติบโตทางจิตวิญญาณได้อย่างไร เพื่อให้สมาชิกที่อาจหลงทางสามารถกลับใจได้อย่างปลอดภัย ค้นพบพระคุณ และกลับมาสู่แนวทางที่ถูกต้องอีกครั้ง?
หนังสือ 2 พงศาวดาร 32 ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งหลายประการ โดยเน้นไปที่เหตุการณ์สำคัญในรัชสมัยของ กษัตริย์เฮเซคียาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผชิญหน้ากับกษัตริย์เซนนาเคริบแห่งอัสซีเรีย และความเจ็บป่วยของพระองค์ นี่คือประเด็นหลักที่เราสามารถเรียนรู้ได้:
1. การเตรียมพร้อมและพึ่งพาพระเจ้าในยามวิกฤต
เมื่อเซนนาเคริบยกทัพมา เฮเซคียาห์ไม่ได้นิ่งเฉย พระองค์ทรงดำเนินมาตรการป้องกันอย่างรอบคอบ เช่น เสริมกำลังกำแพงเมือง เตรียมอาวุธ และกระตุ้นขวัญกำลังใจของประชาชน แต่เหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงชี้ให้ประชาชนพึ่งพาพระเจ้า โดยตรัสว่า "อย่ากลัวเลยและอย่าท้อแท้เลยเพราะกษัตริย์แห่งอัสซีเรีย...เพราะมีผู้ที่ใหญ่กว่าอยู่กับเรา" (2 พงศาวดาร 32:7)
- ความสำคัญของการวางแผนและลงมือทำ: แม้จะพึ่งพาพระเจ้า แต่เราก็ต้องทำส่วนของเราในการเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหา
- การหนุนใจซึ่งกันและกัน: ผู้นำมีบทบาทสำคัญในการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของตน
- พระเจ้าทรงเป็นแหล่งกำลังที่แท้จริง: ไม่ว่าศัตรูจะยิ่งใหญ่เพียงใด กำลังของพระเจ้าก็ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ
2. พลังของการอธิษฐานเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่เหนือกว่า
เมื่อเซนนาเคริบท้าทายพระเจ้าและยูดาห์อย่างเปิดเผย เฮเซคียาห์และผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้ อธิษฐานวิงวอนต่อพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงตอบสนองด้วยการส่งทูตสวรรค์มาทำลายกองทัพอัสซีเรียในคืนเดียว
- พระเจ้าทรงต่อสู้แทนผู้ที่พึ่งพาพระองค์: เมื่อมนุษย์ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์อย่างเหลือเชื่อ
- การอธิษฐานเป็นอาวุธที่ทรงพลัง: ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนสิ้นหวัง การอธิษฐานด้วยความเชื่อสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างสิ้นเชิง
- พระเจ้าทรงปกป้องเกียรติของพระองค์: เมื่อศัตรูเย้ยหยันพระนามของพระเจ้า พระองค์ทรงสำแดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้
3. ผลของความหยิ่งผยองและการพึ่งพากำลังของตนเอง
แม้จะได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่จากพระเจ้าและทรงได้รับการรักษาจากความเจ็บป่วย (ซึ่งถูกกล่าวถึงสั้นๆ ในบทนี้ แต่ขยายความใน 2 พงศ์กษัตริย์ 20) เฮเซคียาห์ก็ทรงมีใจ หยิ่งผยอง เพราะความมั่งคั่งและชื่อเสียงที่ได้รับมา สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าทรงทดลองพระองค์
- ความสำเร็จมักมาพร้อมกับการทดสอบ: เมื่อเราได้รับพระพรและความสำเร็จ เราต้องระวังไม่ให้ใจเราหยิ่งผยองและลืมพระคุณของพระเจ้า
- พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีการทดลองเพื่อทดสอบใจเรา: การทดลองเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นสภาพที่แท้จริงของจิตใจเรา
- ความอ่อนแอของมนุษย์: แม้แต่ผู้เชื่อที่เข้มแข็งอย่างเฮเซคียาห์ก็ยังสามารถพลาดพลั้งด้วยความหยิ่งได้
4. การถ่อมใจและการกลับใจนำมาซึ่งพระพร
เมื่อเฮเซคียาห์ถูกเตือนเรื่องความหยิ่งผยอง พระองค์ก็ทรงถ่อมใจลง และกลับใจ นี่เป็นเหตุผลที่ภัยพิบัติไม่เกิดขึ้นในสมัยของพระองค์ แต่ในสมัยของบุตรชาย
- พระเจ้าทรงเมตตาผู้ที่ถ่อมใจ: การกลับใจและยอมรับผิดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับพระเจ้า
- การถ่อมใจนำมาซึ่งสันติสุข: เมื่อเรายอมรับความผิดของเราและหันกลับหาพระเจ้า พระองค์จะประทานสันติสุขและความชอบธรรมให้
- ผลของการกระทำส่งผลข้ามรุ่น: แม้เฮเซคียาห์จะรอดพ้นจากภัยพิบัติในชั่วชีวิตของพระองค์ แต่การกระทำของพระองค์ก็ยังส่งผลต่ออนาคตของราชวงศ์
2 พงศาวดาร 32 เป็นเรื่องราวที่สอนเราถึงการพึ่งพาพระเจ้าอย่างสิ้นเชิงในยามวิกฤต การวางใจในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ และความสำคัญของการถ่อมใจเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการที่ใจเราหยิ่งผยอง สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนที่ล้ำค่าสำหรับทุกคนในทุกยุคสมัย