เรื่องย่อ
คำพยากรณ์ของนาฮูมเป็นการประกาศถึงการพิพากษาที่จะมาถึงนีนะเวห์ เมืองหลวงอันชั่วร้ายของอัสซีเรีย นาฮูมวาดภาพพระเจ้าผู้ทรงพระพิโรธ ผู้ทรงแก้แค้นศัตรูของพระองค์ แต่ก็ทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งสำหรับผู้ที่วางใจในพระองค์ นีนะเวห์ที่เคยเกรียงไกรและโหดร้ายจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง เพราะความรุนแรงและการกดขี่ที่เมืองนี้ได้กระทำ การล่มสลายของนีนะเวห์เป็นเครื่องเตือนใจถึงความยุติธรรมของพระเจ้าที่มาถึงทุกคนที่กระทำความชั่ว และเป็นความหวังสำหรับผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหงว่าพระเจ้าจะทรงปลดปล่อยพวกเขาจากอำนาจของศัตรู
คำพยากรณ์ของนาฮูมเจาะจงไปยังนีนะเวห์ เมืองหลวงของจักรวรรดิอัสซีเรีย ซึ่งเป็นพลังที่น่าเกรงขามในสมัยนั้น อัสซีเรียได้มีส่วนร่วมในความรุนแรงมามากมาย รวมถึงการโจมตีก่อนหน้านี้ที่อิสราเอลเหนือและการคุกคามกรุงเยรูซาเลม นีนะเวห์ยังเป็นที่ที่โยนาห์เคยเทศนาถึงการกลับใจ หนึ่งศตวรรษต่อมา เมืองนี้ได้กลับไปสู่ความชั่วร้าย นาฮูมไม่ได้อ้างถึงนีนะเวห์บ่อยครั้ง แต่ใช้ภาษาทั่วไปในการกล่าวถึงความชั่วร้ายและอำนาจที่ผิดกฎหมาย ในคำทำนายของเขา นาฮูมกล่าวว่าพระเจ้าทรงลงโทษความชั่วร้ายเสมอมา และไม่มีอาณาจักรชั่วร้ายใดที่จะดำรงอยู่ได้นานกว่าพระเจ้า
การพิพากษาของพระเจ้าต่ออัสซีเรียมีรากฐานมาจากการปฏิบัติต่อประชากรของพระองค์ นาฮูมเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงลักษณะของพระเจ้า ซึ่งคล้ายกับอพยพ 34:6–7 ที่ซึ่งพระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองต่อโมเสสในฐานะผู้ทรงเมตตา กรุณา กริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ แต่ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงโทษความชั่วช้า นาฮูม 1:2–3 เน้นย้ำถึงพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน แก้แค้น และกริ้วช้า แต่มั่นใจว่าจะไม่ปล่อยคนผิดให้พ้นโทษ การสลับลำดับของลักษณะเหล่านี้จากข้อความในอพยพ เน้นย้ำถึงมุมมองที่แตกต่างกันของพระเจ้าขึ้นอยู่กับว่าใครรู้จักพระองค์และความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระองค์
ตลอดทั้งเล่ม นาฮูมเน้นย้ำว่าพระเจ้าทรงเฝ้าดูทั้งคนชั่วและผู้ที่เหลืออยู่ของอิสราเอล นาฮูมให้กำลังใจชาวอิสราเอลที่พวกเขามีการปลดปล่อยและกลับมาเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ อีกครั้ง หลังจากที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงโดยอัสซีเรีย ผู้นำอัสซีเรียล้มเหลวในการรับใช้ประชาชนของตนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายและการพลัดถิ่น ในขณะที่ชาติอื่นๆ ชื่นชมยินดีกับการล่มสลายของอัสซีเรีย
ข้อคิด: นาฮูม 1-3
นาฮูมเป็นหนังสือที่เตือนใจอย่างหนักแน่นว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ปกป้องประชากรของพระองค์และทรงจัดการกับความอยุติธรรมทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่อยุติธรรมหรือถูกกดขี่ จงได้รับการหนุนใจให้รู้ว่าพระเจ้าทรงสังเกตเห็นและจะทรงจัดการกับเรื่องนั้นอย่างแน่นอน แม้ว่าความละเอียดอาจล่าช้าและดูเหมือนว่าไม่มีใครใส่ใจ แต่ไม่มีอะไรหลบซ่อนจากพระเจ้าและพระองค์จะทรงสร้างสิ่งที่ถูกทำลายและแก้ไขสิ่งที่ผิด แม้เมื่อผู้นำล้มเหลว การวางใจในพระเจ้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะพระองค์เท่านั้นที่ทรงปกครองด้วยความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ และพระองค์คือแหล่งความหวังและความชื่นชมยินดีสูงสุดของเราเสมอ
คำถาม
1. นาฮูมบรรยายถึงความยุติธรรมของพระเจ้าที่มีต่อเมืองนีนะเวห์ที่ชั่วร้าย แม้ว่าเราไม่น่าจะเผชิญกับวิกฤตที่เท่าเทียมกัน แต่บทบาทของความยุติธรรม ความรับผิดชอบ และผลที่ตามมานั้นมีบทบาทอย่างไรในปฏิสัมพันธ์และค่านิยมในครอบครัวของเรา? เราจะสอนผู้อื่นเกี่ยวกับความสำคัญของการกระทำที่ชอบธรรมและผลของการเลือกที่ผิดได้อย่างไร
2. นาฮูมเน้นถึงความหายนะและความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับนีนะเวห์ เราจะสร้างใจเมตตา เห็นอกเห็นใจ และส่งเสริมสันติสุขในโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความอยุติธรรมได้อย่างไร เราจะสอนผู้อื่นให้มีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้อย่างไร
พระธรรมนาฮูมเป็นบทกวีเชิงพยากรณ์ที่ประกาศคำพิพากษาของพระเจ้าที่มีต่อเมืองนีนะเวห์ เมืองหลวงของจักรวรรดิอัสซีเรีย แม้ว่าเนื้อหาจะดูรุนแรงและเต็มไปด้วยการทำลายล้าง แต่เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ้งแล้ว เราจะพบข้อคิดที่ทรงคุณค่ามากมาย
1. ความยุติธรรมและอำนาจของพระเจ้า
พระธรรมนาฮูมเริ่มต้นด้วยการสำแดงให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่ทรงเป็นผู้มีอำนาจและทรงความยุติธรรมอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้หวงแหนและทรงลงโทษศัตรูของพระองค์ (นาฮูม 1:2-3) ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็ทรงเป็นผู้ที่ปกป้องคุ้มครองผู้ที่วางใจในพระองค์ด้วย (นาฮูม 1:7) นี่เป็นข้อคิดที่เตือนใจเราว่าพระเจ้าไม่ใช่เพียงผู้เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตาเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นผู้ที่เที่ยงธรรมและจะไม่ปล่อยให้ความชั่วร้ายลอยนวล
2. ความหวังสำหรับผู้ทุกข์ยาก
สำหรับประชากรอิสราเอลที่ถูกกดขี่โดยจักรวรรดิอัสซีเรีย คำพยากรณ์ของนาฮูมจึงเป็นเสมือนแสงแห่งความหวัง พวกเขาได้รับคำสัญญาว่าการกดขี่ข่มเหงจะสิ้นสุดลงและจะได้รับอิสรภาพ (นาฮูม 1:12-13, 15) ข้อคิดนี้สอนเราว่า ในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับความยากลำบากและความอยุติธรรม เราสามารถมีความหวังในพระเจ้าได้ เพราะพระองค์ทรงเห็นทุกข์ที่เราเผชิญและจะทรงนำการช่วยกู้มาให้ในเวลาที่เหมาะสม
3. ผลที่ตามมาจากการกระทำที่ชั่วร้าย
บทที่ 2 และ 3 ของพระธรรมนาฮูมได้บรรยายภาพการล่มสลายของเมืองนีนะเวห์อย่างละเอียด เมืองที่เคยโอหังและทรงอำนาจจะถูกทำลายล้างอย่างย่อยยับเพราะความโหดร้าย การหลอกลวง และการกดขี่ข่มเหงที่กระทำต่อผู้อื่น (นาฮูม 3:1, 4) สิ่งนี้เป็นข้อคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงหลักการที่ว่า การกระทำที่ชั่วร้ายย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายเสมอ ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งเพียงใดในโลกนี้ แต่เมื่อเราใช้ชีวิตด้วยความโหดร้ายและความไม่ยุติธรรม ท้ายที่สุดแล้วเราก็จะต้องเผชิญกับการพินาศ
4. ความถ่อมใจต่อพระพักตร์พระเจ้า
ชะตากรรมของเมืองนีนะเวห์เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ว่า ไม่มีมนุษย์หรืออาณาจักรใดที่สามารถต้านทานอำนาจของพระเจ้าได้ ความเย่อหยิ่งและการพึ่งพาความแข็งแกร่งของตนเองจะนำไปสู่ความหายนะเสมอ (นาฮูม 3:19) เราจึงควรดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจและตระหนักว่าอำนาจสูงสุดเป็นของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
พระธรรมนาฮูมไม่ใช่เพียงเรื่องราวเกี่ยวกับอวสานของเมืองนีนะเวห์เท่านั้น แต่ยังเป็นหนังสือที่ตอกย้ำถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่ทรงเปี่ยมด้วยความยุติธรรมและอำนาจ คำพยากรณ์นี้นำมาซึ่งความหวังสำหรับผู้ที่ทุกข์ยาก และเป็นคำเตือนถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายของการใช้ชีวิตด้วยความชั่วร้ายและความเย่อหยิ่ง