Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 10

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 11

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 12

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 13

เรื่องย่อ

เยเรมีย์เปรียบเทียบพระเจ้าเที่ยงแท้กับพระเท็จเทียม เน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในการสร้างโลก ในขณะที่รูปเคารพเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นและไร้ประโยชน์ เขาเตือนถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงยูดาห์ และใช้ภาพต่างๆ เช่น เข็มขัดที่เน่าเปื่อยและขวดที่แตกเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหายนะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อันเนื่องมาจากการไม่เชื่อฟังของพวกเขา เยเรมีย์คร่ำครวญถึงความดื้อรั้นของประชากรที่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต และเตือนว่าความภาคภูมิใจและความเย่อหยิ่งของพวกเขาจะนำไปสู่การล่มสลายอย่างใหญ่หลวง บทเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางใจในพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว และเตือนถึงผลร้ายของการหันหลังให้กับพระองค์เพื่อไปพึ่งพาสิ่งอื่นใด

 

เยเรมีย์ประณามรูปเคารพของยูดาห์ เผยให้เห็นว่ารูปเคารพเหล่านั้นเป็นเพียงต้นไม้ที่พระเจ้าสร้างขึ้น โค่นล้มโดยมนุษย์ที่พระเจ้าสร้างขึ้น และเคลือบด้วยทองคำที่พระเจ้าสร้างขึ้น รูปเคารพเหล่านี้ไม่สามารถได้ยิน พูด หรือเคลื่อนไหว และปราศจากพลังอำนาจโดยสิ้นเชิง เยเรมีย์เน้นย้ำว่าความดึงดูดของรูปเคารพคือความปรารถนาที่จะอัญเชิญพลัง แม้ว่าผู้คนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังแสวงหาวิญญาณชั่วร้าย พวกเขามองว่ารูปเคารพเหล่านี้เป็นแหล่งพลังงาน ทำพิธีกรรม และประกอบพิธีกรรมด้วยความหวังว่าจะได้รับความปลอดภัย พลังอำนาจ และความสุข เยเรมีย์เตือนว่าเมื่อความปรารถนาเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอันดับแรก จะทำให้เราหันเหจากพระยาห์เวห์ นำไปสู่เส้นทางเดียวกับความหายนะของยูดาห์

เยเรมีย์แสดงความกังวลของเยรูซาเล็มในเยเรมีย์ 10:19-21 โดยระบุว่าผู้นำได้ละทิ้งพระเจ้าและทำตามความปรารถนาของตนเอง ส่งผลให้ผู้คนกระจัดกระจายไป ต่อมา เยเรมีย์อธิษฐานในนามของเยรูซาเล็มในข้อ 25 โดยขอให้พระเจ้าทรงนำการพิพากษามาสู่ประชาชาติที่ไม่เชื่อพระเจ้าแทนที่จะเป็นยูดาห์ การกระทำนี้เกิดขึ้นแม้ว่าพระเจ้าจะทรงห้ามเยเรมีย์ไม่ให้อธิษฐานเผื่อยูดาห์ ซึ่งอาจเป็นการแสวงหาช่องโหว่ของเยเรมีย์ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงชี้แจงในบทที่ 11 ว่าเยเรมีย์ไม่ควรอธิษฐานเผื่อหรือในนามของยูดาห์

เยเรมีย์เผชิญกับความทุกข์ทรมานอันเนื่องมาจากคำพยากรณ์ของเขา ผู้คนในบ้านเกิดของเขาปฏิเสธข้อความของเขาและขู่เอาชีวิตเขา พระเจ้าทรงให้ความมั่นใจแก่เยเรมีย์ว่าพระองค์จะทรงจัดการกับฝ่ายตรงข้ามเหล่านั้น เยเรมีย์แสดงความสับสนเกี่ยวกับพระราชกิจของพระเจ้า โดยตั้งคำถามว่าทำไมคนชั่วร้ายดูเหมือนจะเจริญรุ่งเรือง พระเจ้าตรัสว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลงกว่าเดิม พระเจ้าไม่เคยสัญญาเยเรมีย์ว่าจะมีชีวิตที่ง่าย แต่รับประกันการสถิตของพระองค์ท่ามกลางการทรยศหักหลังและความท้าทาย

 

ข้อคิด: เยเรมีย์ 10-13

พระเจ้าสถิตกับเราในทุกช่วงเวลา ทั้งในการเดินทางและการมาถึงของเรา ตลอดทุกย่างก้าวของชีวิต "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ทราบว่าทางของมนุษย์ไม่อยู่ที่ตัวเขาเอง การที่มนุษย์ดำเนินไปแล้วจะนำฝีเท้าของตนเองก็ไม่ได้" (เยเรมีย์ 10:23) พระองค์ทรงห่วงใย ทรงตรัส และทรงประทานทิศทาง ให้เราฟังพระองค์และทำตามสิ่งที่พระองค์ตรัส ดังที่พระองค์ทรงสั่งไว้ในพันธสัญญาของพระองค์ (เยเรมีย์ 11:4) พระเจ้าไม่ได้ทรงอยู่ห่างจากเราและชีวิตของเรา แต่ทรงอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยและนำทางเรา เราไม่ได้อยู่คนเดียว! แม้ว่าเราอาจรู้สึกเหงา สับสน และวิตกกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจที่อาจทำลายชีวิตของเรา แต่พระเจ้าทรงอยู่กับเรา รับฟังเรา และทรงนำทางเรา พระองค์ทรงทราบอนาคตและทรงสถิตอยู่ที่ที่เราพบความชื่นชมยินดี

 

คำถาม

1.   เยเรมีย์เปรียบเทียบความไร้ประโยชน์ของรูปเคารพที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์กับพลังและสติปัญญาที่ไม่มีใครเทียบได้ของพระเจ้า ในโลกปัจจุบันที่วัตถุนิยม เทคโนโลยี และการยกย่องมนุษย์มักจะครอบงำ เราจะรักษามุมมองที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงและให้เกียรติพระเจ้าเหนือทุกสิ่งได้อย่างไร?

2.   เยเรมีย์เตือนเกี่ยวกับความเย่อหยิ่งและความดื้อรั้นของประชาชน ซึ่งนำไปสู่การปฏิเสธการทรงนำของพระเจ้าและการทำลายล้าง ในชีวิตส่วนตัวและสังคม เราจะหลีกเลี่ยงการตกอยู่ในความเย่อหยิ่งได้อย่างไร และเราจะสร้างความอ่อนน้อมและความเต็มใจที่จะรับฟังและกลับใจใหม่ได้อย่างไร?

 

 

บทที่ 10 ของพระธรรมเยเรมีย์มีข้อคิดที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบเทียบระหว่างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์กับรูปเคารพที่ไร้ค่า

1. ความแตกต่างระหว่างพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์กับรูปเคารพ

เยเรมีย์เน้นย้ำถึงความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก กับรูปเคารพที่มนุษย์สร้างขึ้นมา รูปเคารพเป็นเพียงไม้และเงินที่แกะสลักและประดับประดา ไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถเดินได้ และไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง เป็นเพียงสิ่งที่ต้องให้มนุษย์แบกไปและดูแลรักษา ในทางตรงกันข้าม พระเจ้าเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด เป็นองค์กษัตริย์นิรันดร์ ผู้ทรงสั่นสะเทือนแผ่นดินโลกด้วยพระพิโรธ และไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่จะเทียบเคียงกับพระองค์ได้

2. ความไร้ประโยชน์ของการพึ่งพาสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น

เยเรมีย์สอนให้เห็นว่าการพึ่งพารูปเคารพนั้นเป็นความว่างเปล่าและไร้ประโยชน์ รูปเคารพไม่มีอำนาจที่จะช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำใดๆ แก่ผู้ที่บูชา ในทางกลับกัน การพึ่งพาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ต่างหากที่จะนำมาซึ่งความปลอดภัยและสันติสุข เพราะพระองค์เป็นผู้เดียวที่สามารถควบคุมทุกสิ่งและให้ความรอดได้

3. การยอมรับความจริงว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง

เยเรมีย์ประกาศว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างจักรวาล พระองค์ทรงควบคุมสภาพอากาศและธรรมชาติ ทรงทำให้เมฆลอยขึ้น ทรงให้สายฟ้าแลบ และทรงนำลมออกมาจากคลังของพระองค์ ข้อคิดนี้เตือนใจเราว่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ทั้งหมด มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่เป็นผู้กำหนดและควบคุมทุกสิ่งในโลกนี้

4. การสำนึกในความผิดพลาดของตนเอง

ในท้ายบท เยเรมีย์สารภาพและยอมรับว่าเส้นทางของมนุษย์ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนเอง การดำเนินชีวิตที่ถูกต้องจึงต้องให้พระเจ้าทรงนำทาง ข้อคิดนี้กระตุ้นให้เราสำนึกในความผิดบาปและความอ่อนแอของตนเอง และหันกลับมาขอให้พระเจ้าทรงชี้ทางและแก้ไขเราด้วยความเมตตา แทนที่จะพึ่งพาสติปัญญาและความเข้าใจของตนเอง