เรื่องย่อ
เยเรมีย์ใช้ภาพของช่างปั้นหม้อเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงมีอำนาจเหนือประชาชาติทั้งหลาย และสามารถปั้นและทำลายพวกเขาได้ตามพระประสงค์ของพระองค์ เขาถูกประชากรวางแผนร้าย แต่เขายังคงประกาศพระวจนะของพระเจ้าอย่างกล้าหาญ เยเรมีย์ประณามกษัตริย์และผู้นำที่อยุติธรรมที่กดขี่ประชากร และเตือนว่าพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างหนัก เขาพยากรณ์ถึงการถูกเนรเทศของกษัตริย์เยโฮยาคิม และการล่มสลายของราชวงศ์ยูดาห์เนื่องจากการไม่เชื่อฟังและการไม่ใส่ใจต่อความยุติธรรม บทเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเป็นผู้นำที่ชอบธรรม และเตือนถึงผลร้ายของการใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าที่จะดูแลประชากรของพระเจ้า
เยเรมีย์ได้รับการทรงเรียกที่โดดเด่นจากพระเจ้าซึ่งเกี่ยวข้องกับอุปมาที่น่าประทับใจของช่างปั้นหม้อและดินเหนียว พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์เองในฐานะช่างปั้นหม้อ โดยมีอิสราเอลเป็นดินเหนียวในมือของพระองค์ ดังที่ช่างปั้นหม้อสามารถปรับเปลี่ยนดินเหนียวที่มีตำหนิให้เป็นภาชนะใหม่ พระเจ้าทรงแสดงสิทธิอำนาจในการปรับเปลี่ยนโชคชะตาของอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความชั่วร้ายของเยรูซาเล็ม พระเจ้าทรงตั้งใจที่จะนำความหายนะมาสู่ แต่ด้วยความรักใคร่ได้เรียกร้องให้พวกเขาหันกลับใจ อย่างไรก็ตาม ด้วยความปวดร้าว พระเจ้าทรงทำนายว่าพวกเขาจะดื้อรั้น เลือกที่จะไล่ตามความปรารถนาของตนเองและละทิ้งพระองค์ ภาพนี้เน้นถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างพระเจ้ากับมนุษยชาติ คล้ายกับการปั้นอาดัมจากผงคลีดิน พระเจ้าทรงสร้างเราด้วยความตั้งใจและจุดประสงค์ที่ยอดเยี่ยม ตามพระฉายาของพระองค์
พันธกิจของเยเรมีย์เต็มไปด้วยความยากลำบาก และเขามักจะพบว่าตัวเองอยู่ในความขัดแย้งกับคนของเขา แม้จะมีคำสั่งของพระเจ้าให้เงียบ แต่เยเรมีย์ก็สงสารคนของเขา และอ้อนวอนในนามของพวกเขา ถึงจุดหนึ่ง เขากระทั่งขัดขวางแผนการของพระเจ้า โดยปรารถนาในสิ่งที่พระเจ้าสัญญาไว้ว่าจะเกิดขึ้น: การกันดารอาหาร ดาบ และโรคระบาด พระเจ้าทรงสั่งให้เยเรมีย์แสดงการแสดงสัญลักษณ์ โดยการทุบหม้อดินต่อหน้าผู้ใหญ่และปุโรหิต การกระทำนี้เป็นสัญลักษณ์ของความหายนะที่ไม่สามารถแก้ไขได้ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับชนชาติ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ "ประชากร" ของพระเจ้าขยายออกไปนอกเชื้อสายทางเชื้อชาติ พระเจ้าทรงรวมผู้คนจากทุกชาติที่หันหัวใจไปหาพระองค์ โดยเน้นว่าการเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับเชื้อสายทางสายเลือด แต่ขึ้นอยู่กับความรักใคร่และความจงรักภักดีที่แท้จริง
ความเชื่อฟังของเยเรมีย์ทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน และหลังจากที่เขาทำลายหม้อแล้ว ปุโรหิตผู้ชั่วร้ายได้ทุบตีเขาและใส่เขาไว้ในเครื่องจองจำข้ามคืน หลังจากปล่อยตัวแล้ว เยเรมีย์แสดงความสิ้นหวัง โดยร้องว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงล่อลวงข้าพระองค์" (20:7) แม้จะมีการแสดงความรู้สึกเหล่านี้ แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องตีความพระคัมภีร์อย่างรอบคอบ โดยตระหนักว่าพระเจ้าไม่ได้หลอกล่อเยเรมีย์ แต่ทรงเตือนเขาถึงความท้าทายที่อยู่ข้างหน้าแล้ว แม้ว่าเยเรมีย์จะรังเกียจการทรงเรียกของเขา เขาก็ถูกบังคับให้ประกาศพระวจนะของพระเจ้า นอกจากนี้ พระเจ้าทรงแจ้งให้กษัตริย์เศเดคียาห์ทราบว่าการยอมจำนนเป็นทางเดียวที่จะรอดพ้นจากการบุกรุกของบาบิโลน พระเจ้าทรงเรียกร้องให้ความยุติธรรมและความชอบธรรม โดยเตือนว่าความล้มเหลวในการปกป้องคนยากจนและถูกกดขี่จะนำไปสู่ความหายนะของกษัตริย์
ข้อคิด: เยเรมีย์ 18-22
พระเจ้าทรงเรียกร้องให้มีความยุติธรรมและความชอบธรรม เรียกร้องให้เราช่วยกู้ผู้ที่ถูกปล้นและปกป้องคนต่างด้าว ลูกกำพร้า และหญิงม่าย โดยหลีกเลี่ยงการกระทำความรุนแรงและการหลั่งเลือดที่ไม่มีความผิด ข้อพระคัมภีร์ยังตอกย้ำว่าการรู้จักพระเจ้าอย่างแท้จริงคือการปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ ดังที่สะท้อนให้เห็นในการกระทำที่ชอบธรรมของพระบิดา ข้อความนี้เน้นว่าความสนิทสนมที่ลึกซึ้งที่สุดของเรากับพระเจ้าเกิดขึ้นผ่านการเชื่อฟัง ดังที่พระเยซูทรงย้ำ การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์นำมาซึ่งความชื่นชมยินดี และเชื่อมต่อเรากับพระเจ้าในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
คำถาม
1. เยเรมีย์เน้นย้ำถึงอำนาจของพระเจ้าในฐานะช่างปั้น ผู้ทรงสามารถปั้นชาติหรือบุคคลอีกครั้งหนึ่งได้ ในปัจจุบันที่สังคมและชีวิตส่วนตัวของเรามักรู้สึกแตกหัก เราจะเปิดรับกระบวนการที่พระเจ้าทรงปั้นใหม่ได้อย่างไร และเราจะไว้วางใจในการเปลี่ยนแปลงที่พระองค์ทรงนำมาสู่ชีวิตเราได้อย่างไร
2. เยเรมีย์กล่าวถึงผู้นำที่ไม่ยุติธรรมที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าดูแลประชาชนของตน ในโลกที่ภาวะผู้นำมีความสำคัญ เราจะสนับสนุนและส่งเสริมผู้นำที่มีคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจ และความมุ่งมั่นในการรับใช้ผู้อื่นได้อย่างไร
พระธรรมเยเรมีย์ บทที่ 18 คือเรื่องราวของ ช่างปั้นหม้อและดินเหนียว ซึ่งเป็นภาพที่พระเจ้าทรงใช้เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของพระองค์กับประชากรอิสราเอล และเป็นบทเรียนอันลึกซึ้งที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของเราได้
ข้อคิดหลักจาก เยเรมีย์ 18
บทเรียนนี้เริ่มต้นเมื่อพระเจ้าทรงสั่งให้เยเรมีย์ไปที่บ้านของช่างหม้อ และที่นั่นเยเรมีย์ได้เห็นช่างหม้อกำลังปั้นหม้อจากดินเหนียว แต่แล้วหม้อที่เขากำลังทำก็เสียรูปทรง ช่างหม้อจึงนวดดินก้อนนั้นใหม่และปั้นเป็นหม้ออีกลูกหนึ่งตามที่เขาเห็นว่าดี
1. พระเจ้าทรงเป็นช่างหม้อผู้มีอำนาจสูงสุด
พระเจ้าทรงเป็นเหมือนช่างหม้อ ส่วนเราเป็นเหมือนดินเหนียว พระองค์ทรงมีอำนาจและสิทธิที่จะสร้างหรือหล่อหลอมเราให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ ชีวิตของเราอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และพระองค์ทรงรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเรา
2. การกลับใจทำให้เกิดโอกาสใหม่
เมื่อหม้อเสียรูปทรง ช่างหม้อไม่ได้ทิ้งดินเหนียวก้อนนั้นไป แต่เขานำกลับมาปั้นใหม่ นี่เป็นภาพที่ชัดเจนของ พระคุณและความเมตตา ของพระเจ้า พระองค์ทรงให้โอกาสเราเสมอในการกลับใจเมื่อเราทำผิดพลาดหรือหลงทาง หากเรายอมจำนนต่อพระองค์อย่างถ่อมใจ พระองค์จะทรงปั้นเราใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
3. ทางเลือกของเรามีผลต่อชีวิต
แม้พระเจ้าจะมีอำนาจ แต่พระองค์ก็ทรงเคารพในการตัดสินใจของเรา ถ้าประชากรของพระองค์เลือกที่จะทำความชั่วและไม่กลับใจ พระองค์ก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนพระทัยจากแผนการที่จะให้พร ไปสู่การลงโทษ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเรากลับใจจากความชั่ว พระองค์ก็จะทรงเปลี่ยนพระทัยจากแผนการที่จะลงโทษ มาเป็นแผนการแห่งพระพรและสันติสุข
ข้อคิดนี้เตือนใจเราว่า แม้เราจะเคยล้มเหลวหรือทำผิดพลาดมามากเพียงใด แต่ตราบใดที่เรายังหายใจและยอมจำนนต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง พระองค์ก็พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่กับเราเสมอ