เรื่องย่อ
เยเรมีย์ประณามผู้เลี้ยงแกะที่ไม่ดี คือผู้นำของอิสราเอล ที่ทำให้ฝูงแกะของพระเจ้ากระจัดกระจายและถูกทำลาย พระองค์ทรงสัญญาว่าจะส่งผู้เลี้ยงแกะที่ดี คือพระเมสสิยาห์ ที่จะรวบรวมฝูงแกะกลับมาและปกครองด้วยความยุติธรรม เยเรมีย์พยากรณ์ถึงการถูกเนรเทศไปยังบาบิโลนเป็นเวลา 70 ปี และการพิพากษาที่จะมาถึงประชาชาติทั้งหลายที่กดขี่อิสราเอล เขาย้ำถึงความสำคัญของการฟังพระวจนะของพระเจ้า และเตือนถึงผลร้ายของการเพิกเฉยต่อพระองค์ บทเหล่านี้ให้ความหวังเรื่องการฟื้นฟูในอนาคตภายใต้การนำของพระเมสสิยาห์ และเตือนถึงความยุติธรรมของพระเจ้าที่จะมาถึงทุกคนที่ต่อต้านพระองค์
เยเรมีย์เริ่มต้นด้วยการที่พระเจ้าทรงติเตียนบรรดาผู้นำยูดาห์ ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับพระองค์เอง แม้ว่าผู้นำจะทำให้ประชากรกระจัดกระจายและขับไล่พวกเขาออกไป แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะรวบรวมคนที่เหลืออยู่ของฝูงแกะของพระองค์จากทุกประเทศที่พระองค์ได้ขับไล่พวกเขาออกไป นี่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงสามารถใช้การกระทำที่ชั่วร้ายของผู้นำเพื่อแผนการที่ดีและชอบธรรมของพระองค์ พระองค์จะนำแกะของพระองค์กลับมายังแผ่นดิน และพวกเขาจะไม่กลัวหรือท้อแท้ใจอีกต่อไป เนื่องจากพระองค์ทรงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ลักษณะที่ไม่กลัวนี้เป็นลักษณะของแกะของพระเจ้า
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงยกกษัตริย์ผู้ชอบธรรมขึ้นมาจากเชื้อสายของดาวิด ซึ่งเป็นการพยากรณ์ถึงพระคริสต์ เมื่อกษัตริย์องค์ใหม่นี้ทรงครองราชย์ ประชากรของพระองค์จะมีสิ่งใหม่ๆ ที่จะสรรเสริญพระองค์ ซึ่งจะยิ่งใหญ่เกินกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยสรรเสริญพระองค์ ในขณะเดียวกัน พระเจ้าทรงพิพากษายูดาห์ เนื่องจากบาปของพวกเขาร้ายแรงกว่าบาปของอิสราเอล แม้ว่ายูดาห์จะเข้าถึงพระวิหาร พวกเลวี และม้วนหนังสือ แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อฟัง และพวกเขาจะถูกตัดสินด้วยมาตรฐานที่สูงกว่าเนื่องจากความรู้และการเข้าถึงที่พวกเขามี
ผู้เผยพระวจนะเท็จกล่าวข่าวดีจากความฝันที่พระเจ้าประทานให้ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น พระเจ้าทรงเน้นว่าพระวจนะของพระองค์ทรงพลังมากกว่าความฝัน และถ้าความฝันของพวกเขาไม่สอดคล้องกับพระวจนะของพระองค์ พวกเขาก็เป็นเท็จ ด้วยการไม่ฟังพระวจนะของพระองค์ พวกเขากำลังนำพาประชากรของพระเจ้าให้หลงทางและสงสัยพระองค์ แต่พระองค์ทรงเฝ้าดูทุกการกระทำของพวกเขา เยเรมีย์ 23:33–40 ใช้การเล่นคำว่า massa ซึ่งหมายถึงทั้ง "ข่าวสาร" และ "ภาระ" พระเจ้าทรงหงุดหงิดกับคำโกหกของพวกเขามากจนพระองค์ทรงห้ามการใช้คำนั้น และทรงแนะนำให้ผู้คนใส่ใจในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้แล้ว
ข้อคิด: เยเรมีย์ 23-25
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงยกกษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นมา ผู้ทรงมีพระนามว่า “พระยาห์เวห์คือความชอบธรรมของเรา” ซึ่งเป็นการสัญญาที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเราเองไม่ได้มีความชอบธรรมอย่างแท้จริง เราต้องการใครสักคนมาเป็นความชอบธรรมให้เรา และพระเยซูทรงเติมเต็มคำสัญญานี้ พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าพระบุตร และพระองค์ทรงประทานความชอบธรรมของพระองค์แก่เรา แม้แต่ในพันธสัญญาเดิม พระเยซูก็ทรงถูกระบุว่าเป็นพระเจ้า เป็นกษัตริย์ และเป็นพระผู้ช่วยให้รอด เราไม่มีความชอบธรรมของตนเอง แต่พระเจ้า-กษัตริย์-พระผู้ช่วยให้รอดของเราเสด็จลงมาและประทานความชอบธรรมของพระองค์แก่เรา พระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความชื่นชมยินดีของเรา!
คำถาม
1. เยเรมีย์ตำหนิผู้เผยพระวจนะเท็จที่นำทางผิดและให้ความมั่นใจที่ผิดๆ แก่ผู้คน ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยอิทธิพลที่ขัดแย้งกันและข้อมูลที่ผิดๆ เราจะแยกแยะความจริงได้อย่างไร และเราจะแสวงหาการทรงนำที่แท้จริงและไว้วางใจได้อย่างไรในชีวิตของเรา?
2. เยเรมีย์ประกาศถึงการลงโทษที่กำลังจะมาถึงของชาติต่างๆ และการถูกเนรเทศของยูดาห์เนื่องจากความไม่เชื่อฟังของพวกเขา ในโลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมและความขัดแย้ง เราจะตอบสนองต่อความทุกข์ทรมานและความไม่มั่นคงอย่างไร และเราจะนำการคืนดีมาสู่ครอบครัวได้อย่างไร
บทเยเรมีย์ 23 เต็มไปด้วยคำเตือนที่หนักแน่นและคำสัญญาแห่งความหวังจากพระเจ้า โดยหลักๆ แล้วเป็นข้อความถึงผู้นำของอิสราเอลที่ล้มเหลวในการนำพาประชากรของพระเจ้าไปในทางที่ถูกต้อง และเป็นคำสัญญาถึงผู้นำที่ดีในอนาคต
1. ผู้นำต้องมีความรับผิดชอบ
บทนี้เริ่มต้นด้วยการประณามผู้นำ (ผู้เลี้ยงแกะ) ที่ทำให้ประชากรของพระเจ้าต้องกระจัดกระจายและหลงทาง พระเจ้าทรงประกาศว่าพระองค์จะลงโทษพวกเขาสำหรับความล้มเหลวนี้
- ข้อคิด: ผู้นำในทุกระดับ—ไม่ว่าจะเป็นผู้นำครอบครัว ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กร หรือผู้นำประเทศ—ล้วนต้องรับผิดชอบต่อความเป็นอยู่ของผู้ที่อยู่ใต้การดูแลของตน การนำคนไปในทางที่ผิดหรือละเลยหน้าที่ย่อมส่งผลเสียร้ายแรงและต้องรับผิดชอบ
2. พระสัญญาเรื่องผู้นำที่เที่ยงธรรม
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะตั้ง "ผู้เลี้ยงแกะ" ที่ดีขึ้นมาใหม่ ผู้ที่จะรวบรวมประชากรของพระองค์และนำพวกเขาอย่างชอบธรรม
- ข้อคิด: แม้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและเต็มไปด้วยความล้มเหลว ก็ยังมีหวังเสมอ พระเจ้าทรงสามารถจัดเตรียมผู้นำที่ถูกต้องและนำทางเราไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้เสมอ
3. การแยกแยะระหว่างความจริงและความเท็จ
พระเจ้าทรงเตือนให้ระวังผู้เผยพระวจนะเท็จที่พูดตามใจตนเอง ไม่ใช่จากพระวจนะของพระองค์ พวกเขาให้ความหวังปลอมๆ และทำให้ผู้คนหลงผิด
- ข้อคิด: เราจำเป็นต้องมีความสามารถในการแยกแยะข้อมูลและคำสอนที่ถูกต้องจากข้อมูลที่ผิด เราต้องพึ่งพาสติปัญญาและคำสอนที่เป็นจริง ไม่ใช่แค่สิ่งที่ฟังดูดีหรือทำให้เรารู้สึกสบายใจเท่านั้น
4. พระวจนะของพระเจ้าทรงฤทธิ์และทรงอานุภาพ
พระเจ้าทรงเปรียบเทียบพระวจนะของพระองค์เหมือนไฟที่เผาผลาญ และเหมือนค้อนที่ทุบหินให้แตก
- ข้อคิด: พระวจนะของพระเจ้าไม่ใช่แค่คำพูดธรรมดา แต่มีฤทธิ์อำนาจในการเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำลายความแข็งกระด้างของจิตใจ และนำมาซึ่งการชำระล้างและการเริ่มต้นใหม่
5. พระเจ้าทรงอยู่ทุกหนแห่ง
ในบทนี้ พระเจ้าทรงถามว่า "เราเป็นพระเจ้าผู้ใกล้ชิดหรือ? ไม่ใช่พระเจ้าที่อยู่ห่างไกลดอกหรือ?" และยืนยันว่าไม่มีที่ใดที่สามารถซ่อนตัวจากพระองค์ได้
- ข้อคิด: พระเจ้าทรงสถิตอยู่ทุกที่และทรงรอบรู้ทุกสิ่งที่เราคิด พูด และทำ ความจริงนี้สามารถเป็นได้ทั้งคำเตือนให้เราดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง และเป็นคำปลอบใจว่าเราไม่เคยอยู่คนเดียว
เยเรมีย์ 23 คือบทที่เตือนใจให้เราเห็นความสำคัญของการเป็นผู้นำที่ดี การยึดมั่นในความจริง และการตระหนักถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่กับเราเสมอ