เรื่องย่อ
เยเรมีย์ประกาศถึง "พันธสัญญาใหม่" ที่พระเจ้าจะทรงทำกับอิสราเอล ซึ่งพระบัญญัติของพระองค์จะถูกจารึกไว้ในจิตใจของพวกเขา และพระองค์จะทรงอภัยโทษความผิดบาปของพวกเขา พระองค์ทรงสัญญาว่าจะนำประชากรของพระองค์กลับมาจากทั่วทุกมุมโลก และฟื้นฟูพวกเขาในแผ่นดินของตนเอง เยเรมีย์ใช้ภาพที่สดใสและให้กำลังใจเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสุขและความอุดมสมบูรณ์ที่จะมาถึงในอนาคต รวมถึงการสร้างเยรูซาเล็มขึ้นใหม่และการกลับมาของการนมัสการที่ถูกต้อง บทเหล่านี้เป็นบทแห่งความหวังและการปลอบประโลมใจ ซึ่งให้ความมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงรักษาสัญญาของพระองค์ และจะทรงนำการฟื้นฟูและการคืนดีมาสู่ประชากรของพระองค์ในที่สุด
วันนี้ การอ่านมีเครื่องเตือนใจถึงแผนการของพระเจ้าสำหรับอิสราเอลและยูดาห์ ซึ่งสรุปได้ในพระสัญญาของพระองค์ที่จะคืนความเจริญรุ่งเรือง นำพวกเขากลับสู่แผ่นดินของตน หักแอกของพวกเขาจากคอของพวกเขา ยกกษัตริย์ขึ้น ช่วยพวกเขาให้รอด ทำลายล้างประชาชาติที่ต่อต้านพวกเขา ตีสอนพวกเขาตามสมควร รักษาบาดแผลของพวกเขา และสร้างพันธสัญญาอันเป็นนิตย์กับพวกเขา แม้ว่าบางส่วนของกระบวนการนี้อาจดูรุนแรง แต่พระเจ้าทรงตั้งใจให้กระบวนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษาและเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถรับใช้พระองค์ได้แทนที่จะเป็นตัวเราเองหรือผู้กดขี่ของพวกเขา
เป้าหมายของพระเจ้าคือการฟื้นฟูผู้คนจากทุกเผ่าของอิสราเอลและยูดาห์ ปกป้องพวกเขาแม้ในขณะที่พระองค์ทรงขับไล่พวกเขาออกจากแผ่นดิน พวกเขา "พบพระคุณในถิ่นทุรกันดาร" โดยที่พระองค์ประทานการพักผ่อน ปรากฏแก่พวกเขา และเตือนพวกเขาถึงความรักและความจงรักภักดีของพระองค์ พระองค์ทรงประทานพระสัญญานี้ซ้ำๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกล่อลวงให้สงสัยในพระองค์ พระเจ้าทรงสัญญาพันธสัญญาอันเป็นนิตย์ซึ่งพระองค์จะทรงจารึกพระธรรมไว้ในใจของพวกเขา อันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหัวใจโดยการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์และการสถิตอยู่ภายในของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดูเหมือนว่าบทที่ 31 จะวาดภาพระยะทางเดินเชิงเส้นของเหตุการณ์: พระเจ้าจะสถิตกับพวกเขาในการเนรเทศ พระองค์จะนำพวกเขากลับสู่แผ่นดินของตนและฟื้นฟูความมั่งคั่งของพวกเขา พันธสัญญาใหม่จะเป็นผลสำเร็จ ซึ่งมีผลในการเสด็จมาของพระเยซูและการสถิตอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในที่สุดเยรูซาเล็มจะไม่ถูกถอนรากถอนโคนอีกต่อไป โดยชี้ไปที่เยรูซาเล็มในอนาคต นั่นคือสถานที่ซึ่งสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่รวมกันเพื่อสร้างเยรูซาเล็มใหม่ในที่สุด และเป็นสถานที่ที่สวรรค์อยู่บนดิน
ข้อคิด: เยเรมีย์ 30-31
ข้อความที่ว่า "พวกเขาจะเปล่งประกายด้วยความดีของพระยาห์เวห์" (31:12) ไม่ได้บอกเพียงแค่ว่าพวกเขาจะดูสวยงามหรือมีความสุข แต่เน้นถึงแหล่งที่มาของความเปล่งประกายของพวกเขา นั่นคือความดีของพระเจ้า ข้อความนี้ยืนยันว่าพระเจ้าทรงเป็นแหล่งที่มาสูงสุดของความเปล่งประกายและความพึงพอใจของเรา ด้วยการประกาศว่า "ประชากรของเราจะอิ่มเอมด้วยความดีของเรา" (31:14) พระเจ้าทรงเปิดเผยว่าพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นที่น่าพอใจยิ่งกว่าของขวัญใดๆ ที่พระองค์ทรงประทาน ดังนั้นขอให้เราเปล่งประกายและพึงพอใจเสมอเพราะเรามีพระองค์และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความสุขอยู่!
คำถาม
1. เยเรมีย์ 30-31 เน้นย้ำถึงสัญญาของพระเจ้าในการฟื้นฟูและการปลอบประโลมสำหรับอิสราเอล แม้หลังจากช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากอย่างมาก ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความผิดหวัง เราจะรักษาความหวังในการฟื้นฟูได้อย่างไร ทั้งในชีวิตส่วนตัวของเราและในคริสตจักร?
2. พระธรรมเยเรมีย์ 31 พูดถึงพันธสัญญาใหม่ที่เขียนไว้ในใจ ซึ่งเน้นถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้ามากกว่ากฎภายนอก เราจะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับพระเจ้าได้อย่างไร
เยเรมีย์ บทที่ 31 เป็นบทที่เต็มไปด้วยความหวัง การปลอบประโลม และการฟื้นฟู ซึ่งแตกต่างจากบทก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงที่เน้นเรื่องการพิพากษาเป็นหลัก
1. อนาคตแห่งการฟื้นฟูและความหวัง
เยเรมีย์ 31 มักถูกเรียกว่า "หนังสือแห่งการปลอบประโลม" เพราะให้คำมั่นสัญญาถึงอนาคตที่พระเจ้าจะทรงฟื้นฟูชนชาติของพระองค์ หลังจากที่ต้องเผชิญกับการลงโทษและการถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย พระเจ้าทรงยืนยันว่า พระองค์จะทรงรวบรวมพวกเขาจากสุดปลายแผ่นดินโลกและนำพวกเขากลับสู่มาตุภูมิ สิ่งนี้สอนเราว่า แม้เราจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่ยากลำบากจากการกระทำของเรา ความรักและพระสัญญาแห่งการฟื้นฟูของพระเจ้าก็ยังคงอยู่เสมอ เป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังว่าความผิดพลาดของเราไม่ได้เป็นตัวกำหนดอนาคต และยังมีความหวังสำหรับการเริ่มต้นใหม่เสมอ
2. ความรักนิรันดร์ของพระเจ้า
แก่นสำคัญอย่างหนึ่งในบทนี้คือความรักอันยั่งยืนของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้นเราจึงยืดเยื้อความรักมั่นคงของเราต่อเจ้า” (เยเรมีย์ 31:3) ข้อนี้ทำให้เรามั่นใจว่าความรักของพระเจ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่สมบูรณ์แบบของเรา เป็นความรักชั่วนิรันดร์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และเป็นรากฐานของพระสัญญาและความซื่อสัตย์ของพระองค์
3. พระสัญญาแห่งพันธสัญญาใหม่
หนึ่งในคำพยากรณ์ที่สำคัญที่สุดในพระคัมภีร์ทั้งหมดอยู่ในบทนี้ นั่นคือ พระสัญญาเรื่องพันธสัญญาใหม่ พันธสัญญาเดิมที่เขียนบนแผ่นศิลาถูกละเมิดบ่อยครั้ง แต่พระเจ้าทรงสัญญาพันธสัญญาใหม่ว่า “เราจะบรรจุธรรมบัญญัติของเราไว้ในตัวพวกเขา และจะจารึกมันไว้ที่ใจของพวกเขา” (เยเรมีย์ 31:33) นี่คือพระสัญญาถึงการเปลี่ยนแปลงภายใน ที่ซึ่งเราจะได้รับธรรมชาติใหม่และความปรารถนาที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าจากใจจริง ไม่ใช่เพียงแค่ทำตามหน้าที่ คำพยากรณ์นี้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสถาปนาพันธสัญญาใหม่ผ่านการสละพระชนม์ของพระองค์
4. ความชื่นชมยินดีและการเฉลิมฉลอง
บทนี้จบลงด้วยภาพแห่งความชื่นชมยินดีและการเฉลิมฉลอง ประชากรที่ได้รับการฟื้นฟูจะร้องเพลงและเต้นรำ ความโศกเศร้าของพวกเขาจะกลายเป็นความยินดี และพวกเขาจะ "อิ่มด้วยความดีของเรา" (เยเรมีย์ 31:12, 14) ภาพนี้เตือนเราว่าแผนการสูงสุดของพระเจ้าสำหรับประชากรของพระองค์ไม่ใช่แค่การเอาชีวิตรอด แต่คือการเติบโตอย่างเต็มที่ ซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขอย่างลึกซึ้งและความอิ่มเอมใจในพระพักตร์ของพระองค์
เยเรมีย์ 31 มอบข้อความแห่งความหวังที่ลึกซึ้ง โดยเน้นที่ความรักนิรันดร์ของพระเจ้า พระสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ และการเปลี่ยนแปลงภายในที่พระองค์มอบให้ผ่านทางพันธสัญญาใหม่ เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้ในยามที่มืดมนที่สุด แผนการของพระเจ้าก็ยังคงเป็นเรื่องของการฟื้นฟูและความชื่นชมยินดีที่ยั่งยืนเสมอ