Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 43

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 44

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 45

เรื่องย่อ

เอเสเคียลบทที่ 43-45 อธิบายถึงการกลับมาของพระสิริของพระเจ้าสู่พระวิหารใหม่ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์อีกครั้ง บทเหล่านี้ยังกำหนดระเบียบพิธีและการนมัสการในพระวิหารใหม่ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการถวายเครื่องบูชา การแต่งตั้งปุโรหิต และการจัดสรรที่ดิน บทบาทของเจ้าชายก็ถูกกำหนดไว้ โดยมีหน้าที่ถวายเครื่องบูชาและดูแลความยุติธรรมในแผ่นดิน มีการกำหนดสัดส่วนที่ดินที่จัดสรรให้กับเผ่าต่างๆ และที่ดินพิเศษสำหรับพระวิหาร ปุโรหิต และเมือง เพื่อให้มั่นใจว่าการนมัสการและการดำเนินชีวิตจะเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในแผ่นดินที่ได้รับการฟื้นฟู

 

ในนิมิตของเอเสเคียลเกี่ยวกับแบบพระวิหารใหม่ เขาได้เห็นพระวิหารที่เต็มไปด้วยผู้คน งานของพวกเขา และพระยาห์เวห์เอง พระเจ้าเสด็จกลับมายังพระวิหารผ่านทางประตูทิศตะวันออก ซึ่งเป็นประตูที่พระองค์เสด็จจากไปแต่เดิม เอเสเคียลได้นมัสการ จากนั้นพระวิญญาณก็ทรงยกเขาขึ้นและพาเขาจากลานชั้นนอกไปยังลานชั้นใน ซึ่งเขาได้ยินพระเจ้าตรัสกับเขาจากภายในพระวิหาร ผังของบริเวณพระวิหารแสดงให้เห็นถึงการลดขนาดลงจากลานชั้นนอกไปยังลานชั้นในไปยังสถานบริสุทธิ์และสถานบริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงการแยกสิ่งที่บริสุทธิ์ออกจากสิ่งที่ธรรมดา ในขณะที่สถานบริสุทธิ์ที่สุดอาจมีขนาดเล็กที่สุด แต่พระเจ้าทรงอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงพื้นที่นั้น

เมื่อพระเจ้าตรัสกับเอเสเคียล พระองค์ทรงมอบหมายให้เขาทำสองสิ่งสำคัญ: จดบันทึกขนาดของพระวิหารเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนนอบน้อม และบันทึกกฎหมายทั้งหมดที่พระเจ้าประทานให้และบัญชาให้ผู้คนเชื่อฟัง กฎหมายที่กำหนดขึ้นนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม โดยเน้นย้ำถึงข้อกำหนดในด้านการกระทำและความคิดทั้งหมด แม้ว่าพระเจ้าจะยกระดับกฎหมายขึ้น แต่มาตรฐานความบริสุทธิ์ของพระองค์ก็ยังคงเหมือนเดิม ข้อกำหนดที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่มนุษย์มีต่อพระผู้ช่วยให้รอด เนื่องจากไม่มีใครสามารถรักษากฎหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ พระเจ้ายังทรงกำหนดข้อจำกัดเกี่ยวกับคู่ครองที่ปุโรหิตสามารถแต่งงานด้วย และจำกัดไว้เฉพาะหญิงที่ยังไม่แต่งงานหรือแม่ม่ายของปุโรหิตคนอื่นเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับลำดับวงศ์ตระกูลของปุโรหิต เอเสเคียลยังได้กำหนดข้อกำหนดที่ดินในบทที่ 45 ซึ่งขยายไปถึงแม้แต่เจ้าชาย ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพ ความยุติธรรม และการดูแลผู้ที่ต้องการ

 

ข้อคิด: เอเสเคียล 43-45

ความบริสุทธิ์และความบริสุทธิ์ของพระเจ้าเป็นแง่มุมที่สำคัญ ดังที่เห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าพระองค์ทรงแยกตัวออกมาจากความบาปของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พระองค์ทรงแสวงหาความสัมพันธ์กับประชากรของพระองค์ แต่การทรงสถิตที่สมบูรณ์ของพระองค์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้ดังที่ระบุไว้ในอพยพ 33:20 และ 2 ซามูเอล 6:1–8 เนื่องจากความบริสุทธิ์ของพระองค์มีผลกระทบต่อผู้ที่เข้าใกล้พระองค์ พระองค์จึงทรงยับยั้งการทรงสถิตที่สมบูรณ์ของพระองค์เพื่อความปลอดภัยของเรา พระองค์ทรงเข้าใกล้ชิดเรามากที่สุดเท่าที่เราจะรับมือได้ ให้เราแสวงหาพระองค์ด้วยความรักและยินดีโดยรู้ว่าความใกล้ชิดกับพระองค์มากยิ่งขึ้นจะส่งเสริมความสุขของเราในพระองค์

 

คำถาม

1.   เอเสเคียล 43 บรรยายถึงพระสิริของพระเจ้าที่กลับมายังพระวิหาร เราจะสร้างพื้นที่สำหรับพระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเราได้อย่างไร? และเราจะเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลงที่พระองค์ทรงนำมาสู่ชีวิตของเราได้อย่างไร?

2.   เอเสเคียล 44-45 เน้นย้ำถึงความสำคัญของความบริสุทธิ์และความชอบธรรมในหมู่ผู้นำทางศาสนาและประชาชน เราจะส่งเสริมความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบในหมู่ผู้นำได้อย่างไร? และเราจะสร้างคริสตจักรที่ให้เกียรติคุณธรรมและความซื่อสัตย์ได้อย่างไร?

 

 

เอเสเคียล บทที่ 43 เป็นบทที่มีความหมายสำคัญและเต็มไปด้วยภาพเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง โดยเน้นเรื่องการเสด็จกลับมาของพระสิริของพระเจ้าสู่พระวิหารใหม่ที่เอเสเคียลเห็นในนิมิต นี่คือข้อคิดสำคัญที่เราสามารถนำมาพิจารณาได้:

1. การเสด็จกลับมาของพระสิริของพระเจ้า

เอเสเคียลได้เห็นพระสิริของพระเจ้าเสด็จออกจากพระวิหารในบทที่ 10 ซึ่งเป็นสัญญาณของการพิพากษาและหายนะ แต่ในบทที่ 43 นี้ พระสิริของพระองค์ได้เสด็จกลับมาทางประตูตะวันออก (ข้อ 1-5) นี่คือสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูและการคืนดีกันระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ แม้จะมีความบาปและหายนะเกิดขึ้น แต่พระเจ้าก็ทรงสัญญาว่าจะเสด็จกลับมาเพื่อนำการเยียวยาและการสถาปนาใหม่มาให้

ข้อคิด: ไม่ว่าชีวิตจะประสบกับความล้มเหลวหรือหายนะเพียงใด เราสามารถมีความหวังได้ว่าพระเจ้าจะทรงนำการฟื้นฟูและการสถาปนาใหม่มาให้เสมอ

2. การฟื้นฟูที่สมบูรณ์

การที่พระสิริของพระเจ้าเสด็จกลับมาและประทับในพระวิหารอีกครั้ง (ข้อ 7) แสดงให้เห็นถึงการฟื้นฟูที่สมบูรณ์แบบ พระเจ้าทรงต้องการประทับอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์อย่างถาวร ไม่ใช่แค่การมาเยี่ยมเยียนชั่วคราว การเสด็จกลับมานี้ยังเป็นคำเตือนถึงความบริสุทธิ์ของพระเจ้าและมาตรฐานอันสูงส่งที่พระองค์ต้องการจากผู้ที่ติดตามพระองค์

ข้อคิด: การฟื้นฟูที่แท้จริงต้องเริ่มต้นจากการต้อนรับและให้พระเจ้าประทับอยู่ในชีวิตของเราอย่างถาวรและเต็มที่

3. ความสำคัญของความบริสุทธิ์และการกลับใจ

พระเจ้าตรัสว่าประชากรของพระองค์ต้องละทิ้งการกราบไหว้รูปเคารพและความชั่วร้ายทั้งหลาย เพื่อให้พระองค์สามารถประทับอยู่ในท่ามกลางพวกเขาได้ (ข้อ 9) พระวิหารเป็นสถานที่บริสุทธิ์ที่แสดงถึงการทรงสถิตของพระเจ้า ดังนั้นผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระองค์ต้องมีชีวิตที่บริสุทธิ์และยอมมอบใจให้พระองค์

ข้อคิด: ความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับพระเจ้าต้องตั้งอยู่บนการกลับใจจากความบาปและการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์

4. การสำนึกในความผิดบาป

พระเจ้าทรงบอกให้เอเสเคียลบอกรายละเอียดเกี่ยวกับพระวิหารแก่ชนชาติอิสราเอล เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกละอายในความบาปของตนเอง (ข้อ 10-11) การตระหนักถึงความงดงามและความบริสุทธิ์ของพระวิหารของพระเจ้า จะทำให้มนุษย์เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความบริสุทธิ์ของพระเจ้ากับความบาปของตนเอง

ข้อคิด: การมองเห็นพระสิริของพระเจ้าอย่างชัดเจนจะช่วยให้เราสำนึกในความผิดบาปและกระตุ้นให้เรากลับใจอย่างแท้จริง

พระธรรมเอเสเคียล บทที่ 43 ไม่ใช่แค่เรื่องราวเกี่ยวกับการก่อสร้างพระวิหาร แต่เป็นภาพสะท้อนถึงพระคุณของพระเจ้าที่ทรงให้โอกาสในการกลับใจและการฟื้นฟูแก่ผู้ที่ปรารถนาจะเดินในทางของพระองค์