Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 46

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 47

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เอเสเคียล 48

เรื่องย่อ

เอเสเคียลบทที่ 46-48 ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีกรรมและการจัดการที่ดินในพระวิหารและแผ่นดินที่ได้รับการฟื้นฟู มีการกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการถวายเครื่องบูชาในวันสะบาโตและวันขึ้นหนึ่งค่ำ รวมถึงการปฏิบัติของเจ้าชายในการนมัสการ มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาระเบียบและความศักดิ์สิทธิ์ในการเข้าเฝ้าพระเจ้า บทสุดท้าย (47-48) อธิบายถึงแม่น้ำที่ไหลออกจากพระวิหาร ซึ่งนำชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ไปสู่ทุกที่ที่แม่น้ำไหลผ่าน และจบลงด้วยการแบ่งแผ่นดินให้กับเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีเมืองเยรูซาเลมอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการสถิตอยู่ของพระเจ้าและความเป็นศูนย์กลางของการนมัสการ ชื่อเมืองใหม่คือ "พระเจ้าสถิตอยู่ที่นั่น" ซึ่งเน้นย้ำถึงการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้าในแผ่นดินที่ได้รับการฟื้นฟู

 

งานเลี้ยงและเทศกาลต่างๆ มีสัญลักษณ์แฝงอยู่ในวัฒนธรรมฮีบรู ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นในการนมัสการพระเจ้า การออกจากประตูอื่นที่ไม่ใช่ประตูที่เข้ามาเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ พระเจ้าทรงห้ามผู้นำทางการเมืองจากการสะสมที่ดินเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ความโลภและความกดขี่เกิดขึ้นอีกครั้ง นิมิตของเอเสเคียลเรื่องน้ำที่ไหลออกจากพระวิหารสู่ทะเลเดดซีที่เบ่งบานเป็นสัญลักษณ์ของการชำระให้บริสุทธิ์และการฟื้นฟู แม้ว่าการค้นพบน้ำพุจืดและสิ่งมีชีวิตในทะเลเดดซีเมื่อเร็วๆ นี้อาจไม่ได้เป็นการเติมเต็มคำทำนายตามตัวอักษร แต่ก็บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้

ในบทที่ 48 พระเจ้าทรงทำการปรับเปลี่ยนสิ่งที่พระองค์ทรงบัญชาผ่านทางโมเสส พระองค์ทรงขยายความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยการจัดสรรที่ดินให้กับคนเลวี ซึ่งเดิมทีไม่ได้รับอนุญาตให้รับมรดกใดๆ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากธรรมบัญญัติเดิมที่ระบุไว้ในกันดารวิถี ซึ่งพระเจ้าทรงเป็นมรดกของพวกเขา การมีส่วนร่วมของปุโรหิตและคนเลวีในการแบ่งปันที่ดินที่ได้รับการฟื้นฟูยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดว่าพวกเขาไม่ได้ครอบครองที่ดินนั้นเป็นมรดก

มีสามมุมมองหลักเกี่ยวกับเรื่องราวของพระวิหารที่ไม่เคยถูกสร้างขึ้น มุมมอง A ถือว่าเป็นคำอธิบายตามตัวอักษรที่พระเจ้าจะทรงสร้างพระวิหารนี้ในอนาคต มุมมอง B เสนอว่านิมิตนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของที่ประทับของพระเจ้ากับมนุษย์ และสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่าเราคือที่ประทับของพระองค์ มุมมอง C รับรู้ทั้งแง่มุมที่เป็นไปตามตัวอักษรและเป็นเชิงสัญลักษณ์ และให้ความสำคัญกับการหลีกเลี่ยงการสันนิษฐานที่ชัดเจนเมื่อพระคัมภีร์ไม่ชัดเจน

 

ข้อคิด: เอเสเคียล 46-48

ชื่อของเมืองคือ "พระยาห์เวห์สถิตที่นั่น" หมายถึงการเติมเต็มคำสัญญานิรันดร์ของพระเจ้าที่จะอยู่กับประชากรของพระองค์ ไม่มีการเดินทางรอนแรมในถิ่นทุรกันดาร การเป็นเชลย หรือการเนรเทศอีกต่อไป เพราะพระองค์ทรงสัญญาว่าจะสถิตอยู่ที่นั่นตลอดไป ความคิดนี้เป็นที่ดึงดูดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากความชื่นชมยินดีและความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นพบได้ในที่ประทับของพระเจ้า

 

คำถาม

1.   เอเสเคียล 46-48 เน้นย้ำถึงการจัดระเบียบและการจัดสรรที่ดินอย่างยุติธรรมในอิสราเอลที่ได้รับการฟื้นฟู เราจะสร้างคริสตจักรที่ยุติธรรมได้อย่างไร? และเราจะจัดสรรความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกันในคริสตจักรได้อย่างไร?

2.   เอเสเคียล 47 บรรยายถึงแม่น้ำที่ไหลออกจากพระวิหาร นำชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ไปสู่ทุกหนทุกแห่ง เราจะเป็นเหมือนแม่น้ำที่นำชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างไร? เราจะแบ่งปันพรและความสามารถของเรากับผู้อื่นได้อย่างไร?

 

 

เอเสเคียลบทที่ 47 เป็นภาพนิมิตที่สวยงามและมีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับแม่น้ำที่ไหลออกมาจากพระวิหารของพระเจ้า แม่น้ำนี้ค่อยๆ ไหลกว้างและลึกขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นแม่น้ำที่รักษาและให้ชีวิตแก่ทุกสิ่งที่มันไหลผ่าน

นี่คือข้อคิดที่สำคัญบางประการจากบทนี้:

  • แหล่งกำเนิดของชีวิต: แม่น้ำแห่งชีวิตนี้ไม่ได้มาจากที่ใดที่หนึ่ง แต่มาจาก พระวิหารของพระเจ้า โดยตรง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระสิริและการสถิตอยู่ของพระองค์ สิ่งนี้สอนเราว่าชีวิตฝ่ายวิญญาณที่แท้จริงและอุดมสมบูรณ์นั้นมาจากความสัมพันธ์กับพระเจ้าเท่านั้น
  • การเติบโตฝ่ายวิญญาณ: แม่น้ำนี้เริ่มจากระดับข้อเท้า ไปยังเข่า จากนั้นถึงเอว และสุดท้ายก็เป็นแม่น้ำที่ว่ายข้ามไปได้ไม่ถึง การไหลที่ค่อยๆ ลึกขึ้นนี้เป็นภาพสะท้อนของการเติบโตฝ่ายวิญญาณของเรา เมื่อเรายอมให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตมากขึ้น เราก็จะถูกนำพาเข้าไปในความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ
  • การฟื้นฟูและเยียวยา: ทุกที่ที่แม่น้ำนี้ไหลไป ต้นไม้ก็จะเจริญเติบโต และทะเลที่เคยเค็มก็จะกลายเป็นน้ำจืด สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงมีฤทธิ์อำนาจที่จะ ฟื้นฟูและเยียวยาทุกอย่าง ทั้งในชีวิตส่วนตัว ครอบครัว สังคม และทุกปัญหาที่ดูเหมือนไร้หนทางแก้ไข เมื่อชีวิตของพระองค์ไหลเข้ามา สิ่งที่เคยตายก็จะกลับมีชีวิต
  • การเป็นพรแก่ผู้อื่น: ผลของแม่น้ำแห่งชีวิตไม่ได้อยู่แค่ที่ตัวเราเอง แต่ยังเผื่อแผ่ไปถึงผู้อื่นด้วย ต้นไม้ที่อยู่ริมแม่น้ำไม่เพียงแต่ให้ผลตามฤดูกาล แต่ใบของมันยังใช้ในการ รักษา ได้อีกด้วย นี่คือคำเตือนว่าเมื่อเราเต็มเปี่ยมด้วยชีวิตของพระเจ้า เราก็ควรที่จะเป็นพรและนำการเยียวยาไปสู่คนรอบข้างเช่นกัน

เอเสเคียล 47 เป็นภาพที่เตือนใจเราว่าให้ยอมให้พระเจ้าทรงนำทางชีวิตของเรา เพราะเมื่อเราเชื่อมต่อกับพระองค์ เราจะได้รับชีวิตที่อุดมสมบูรณ์และสามารถเป็นช่องทางแห่งพระพรเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงและเยียวยาไปสู่โลกนี้ได้