Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เนหะมีย์ 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เนหะมีย์ 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เนหะมีย์ 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เนหะมีย์ 4

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เนหะมีย์ 5

เรื่องย่อ

เมื่อเนหะมีย์ ผู้เป็นผู้ถือถ้วยของกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส ได้ทราบข่าวว่าเยรูซาเล็มยังคงอยู่ในสภาพที่น่าเศร้า เนหะมีย์ก็โศกเศร้า อธิษฐาน และขออนุญาตจากกษัตริย์ให้เดินทางไปสร้างกำแพงเมืองใหม่ หลังจากนั้นเนหะมีย์เดินทางไปยังเยรูซาเล็มด้วยหนังสือรับรองและการสนับสนุนจากกษัตริย์ แม้ว่าจะเผชิญกับการต่อต้านจากศัตรูภายนอก เช่น สันบาลลัท โทบียาห์ และเกเชม ชาวอิสราเอลภายใต้การนำที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าของเนหะมีย์ ได้เริ่มทำการสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่ ท่ามกลางความท้าทายภายใน เช่น ความยากลำบากทางเศรษฐกิจและการขูดรีดของคนรวย เนหะมีย์ก็ได้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างกล้าหาญและกระตุ้นให้ประชากรทำงานร่วมกัน เพื่อที่กำแพงเมืองจะสามารถสร้างเสร็จได้

 

เนหะมีย์ ข้าราชสำนักชาวอิสราเอลที่เป็นผู้ช่วยส่วนพระองค์ของกษัตริย์ได้รับข่าวจากสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับการที่เยรูซาเล็มอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แม้ว่าผู้ถูกเนรเทศจะกลับมาได้เกือบศตวรรษแล้วก็ตาม เนหะมีย์เสียใจมาก อธิษฐาน และกล่าวอ้างพระสัญญาของพระเจ้าจากเฉลยธรรมบัญญัติ 30:1–4 เพื่อเป็นการตอบสนอง กษัตริย์ทรงประทานอนุญาตให้เขาลาพักงาน วีซ่าเดินทาง อุปกรณ์ และส่งทหารไปคุ้มกันให้เขา ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า การตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของพระเจ้าทำให้เขาได้รับกำลังใจ

เมื่อมาถึงเยรูซาเล็ม เนหะมีย์ได้ตรวจสอบสถานการณ์เป็นการส่วนตัวอย่างลับๆ ก่อนที่จะเปิดเผยตัวเองในฐานะผู้ว่าราชการและนำเสนอแผนการของเขาในการสร้างกำแพงใหม่ ในตอนแรก การกระทำของเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้คน ต่อมาสันบาลลัทและโทบียาห์ได้ต่อต้านเขา โดยกล่าวหาว่าเขากำลังวางแผนกบฏ เนหะมีย์ยังคงแน่วแน่และยืนยันความตั้งใจของพวกเขาที่จะทำงานต่อไป และเน้นย้ำว่าเยรูซาเล็มเป็นของพระเจ้าและประชากรของพระองค์

แม้ว่าจะมีงานและผู้คนมากมายเกี่ยวข้องกับการสร้างกำแพงใหม่ แต่สันบาลลัทและโทบียาห์ก็ขู่พวกเขาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคาม เนหะมีย์ได้ทูลขอความคุ้มครองจากพระเจ้า จัดเวรยามเพื่อป้องกัน และสร้างแรงบันดาลใจให้คนงานเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ขณะที่ยังคงสร้างต่อไป นอกจากนี้ เนหะมีย์ยังได้แก้ไขปัญหาภายในที่เกิดจากข้าวยากหมากแพง ซึ่งมีผลทำให้คนรวยจับคนยากจนมาเป็นทาส ท่านกล่าวโทษพวกขุนนางให้คืนดินที่พวกเขาได้ยึดไป และยุติการปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ย หลังจากที่ได้เห็นความใจกว้างนี้ เนหะมีย์ก็ยังคงให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชากรต่อไปและหลีกเลี่ยงการรับรายได้จากพวกเขา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเมตตาและความเอาใจใส่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากของพวกเขา

 

ข้อคิด: เนหะมีย์ 1-5

พระเจ้าทรงทำงานในหลากหลายวิธี บางครั้งก็เป็นการอัศจรรย์ บางครั้งก็เป็นเรื่องธรรมดา บางครั้งอิสราเอลไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อชนะสงคราม—พระเจ้าทรงทำทุกสิ่งด้วยพระองค์เอง! แต่บางครั้ง เช่นวันนี้ พระองค์ทรงทำงานผ่านทางประชากรของพระองค์—พวกเขากำลังอธิษฐาน ทำงาน และพร้อมที่จะปกป้องเมืองของพระองค์ สิ่งสำคัญคือการติดตามพระเจ้าอย่างใกล้ชิดเหมือนเนหะมีย์ ทำการทูลขอทิศทางจากพระองค์เสมอ พระองค์ทรงมีแผนการ เราเพียงแค่ต้องถามว่าเรามีบทบาทอะไรในแผนนั้น บางครั้งพระองค์ทรงเรียกเราให้กระตือรือร้น บางครั้งพระองค์ทรงเรียกเราให้รอคอยพระองค์ทรงทำงาน แต่พระองค์ทรงมีแผนการเสมอ แผนการของพระองค์ดี และพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   การอธิษฐานและการลงมือทำ: เนหะมีย์ตอบสนองต่อข่าวเกี่ยวกับสภาพที่น่าเศร้าของเยรูซาเล็มด้วยการอธิษฐานและลงมือทำอย่างไร การรวมกันระหว่างการอธิษฐานที่จริงจังและการกระทำที่มุ่งเน้นนั้นสอนอะไรเราเกี่ยวกับการอธิษฐานของเรา

2.   การเป็นผู้นำที่มีแรงบันดาลใจ: เนหะมีย์เป็นผู้นำในการสร้างกำแพงใหม่ของเยรูซาเล็มได้อย่างไร และผู้นำที่เน้นความเชื่อสอนอะไรเราเกี่ยวกับวิธีการสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นผู้อื่นให้ทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายทั่วไปได้อย่างไร

 

 

เนหะมีย์ บทที่ 1 เป็นบทเริ่มต้นที่ทรงพลังและให้ข้อคิดที่สำคัญหลายประการเกี่ยวกับภาวะผู้นำและการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์

1. ภาระใจและความเห็นอกเห็นใจ

เนหะมีย์ ซึ่งเป็นมหาดเล็กหลวงในราชสำนักของกษัตริย์เปอร์เซีย ได้ยินข่าวจากฮานานีและคนอื่นๆ ว่ากรุงเยรูซาเล็มเมืองบรรพบุรุษของเขาอยู่ในสภาพย่ำแย่ กำแพงถูกทำลายและประตูถูกเผา (ข้อ 3) เนหะมีย์ไม่ได้เพิกเฉยต่อข่าวร้ายนี้ แต่เขารู้สึกเศร้าโศกอย่างยิ่งจนถึงขั้นร้องไห้และอดอาหาร (ข้อ 4) ข้อคิดสำคัญคือ ผู้นำที่แท้จริงต้องมีภาระใจและเห็นอกเห็นใจต่อความทุกข์ยากของคนของตนเอง ไม่ใช่แค่รับรู้แต่ต้องรู้สึกร่วมและมีใจปรารถนาที่จะแก้ไขปัญหา

2. การอธิษฐานเป็นรากฐานของการลงมือทำ

ก่อนที่จะวางแผนการใดๆ เนหะมีย์ใช้เวลาในการอธิษฐานอย่างหนักแน่น (ข้อ 5-11) เขาไม่ได้แค่ขอให้ปัญหาได้รับการแก้ไข แต่เขาเริ่มด้วยการสรรเสริญพระเจ้า (ข้อ 5) สารภาพบาปของชนชาติ (ข้อ 6-7) และเตือนพระเจ้าถึงพระสัญญาที่ทรงให้ไว้กับโมเสส (ข้อ 8-9) การอธิษฐานของเนหะมีย์เป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยม เพราะมันแสดงให้เห็นว่า การพึ่งพาพระเจ้าเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะเริ่มภารกิจที่ยิ่งใหญ่ การอธิษฐานช่วยให้เรามีสติปัญญาและกำลังใจจากพระเจ้า

3. การวางแผนที่รอบคอบและชาญฉลาด

แม้ว่าเนหะมีย์จะอธิษฐานอย่างจริงจัง แต่เขาก็ไม่ได้นั่งรอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว เขาได้ วางแผนอย่างรอบคอบ ในการเข้าหากษัตริย์ (ข้อ 11) เพื่อขอความช่วยเหลือ การที่เขาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ชิดกับกษัตริย์ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นโอกาสที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้ เขาใช้ความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่เขามีเพื่อเปิดทางให้วิสัยทัศน์ของเขาเป็นจริง นี่เป็นข้อคิดที่สอนเราว่าความเชื่อในพระเจ้าควรมาพร้อมกับการวางแผนและการใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างชาญฉลาด

เนหะมีย์ 1 ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งว่า การเป็นผู้นำและการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ต้องเริ่มต้นจาก ภาระใจที่แท้จริง, การอธิษฐานที่จริงจัง, และ การวางแผนที่ชาญฉลาด บทนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากใจที่เห็นอกเห็นใจและยอมมอบทุกสิ่งไว้ในการทรงนำของพระเจ้า