เรื่องย่อ
มัทธิวบทที่ 2 นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของการประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยการวางอุบายทางการเมือง การเปิดเผยจากสวรรค์ และการเผชิญหน้าทางวัฒนธรรม นักปราชญ์จากทิศตะวันออกติดตามดวงดาวไปยังกรุงเยรูซาเลม เพื่อแสวงหาพระกุมารยิวที่บังเกิดใหม่ ทำให้เฮโรดผู้ยิ่งใหญ่ตกตะลึงและหวาดกลัว การสืบสวนอย่างไม่หยุดยั้งของเฮโรดนำไปสู่การสังหารหมู่เด็กผู้บริสุทธิ์ในเบธเลเฮม ในขณะที่การเตือนจากสวรรค์เตือนโยเซฟให้หนีไปยังอียิปต์พร้อมกับครอบครัวของเขา เรื่องราวดราม่าเรื่องนี้เน้นถึงความขัดแย้งระหว่างความยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์และความโหดร้ายของมนุษย์ โดยเน้นถึงความเปราะบางของผู้ช่วยให้รอดที่เกิดใหม่และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องเขาให้บรรลุภารกิจแห่งสวรรค์ของเขา
เรื่องราวการประสูติของพระเยซูเป็นเรื่องราวที่สำคัญในประวัติศาสตร์คริสต์ศาสนา เรื่องราวนี้ได้รับการบอกเล่าในพระธรรมลูกาและพระธรรมมัทธิว โดยเรื่องราวของมัทธิวให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ รอบๆ การประสูติของพระเยซู พระเยซูทรงประสูติที่เบธเลเฮมในยูเดีย ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกปกครองโดยชาวโรมันในเวลานั้น เฮโรดมหาราชเป็นผู้ปกครองยูเดียที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรมัน เขาเป็นที่รู้จักในด้านโครงการก่อสร้างของเขา แต่ยังเป็นที่รู้จักในด้านความหวาดระแวงและโหดร้าย
นักปราชญ์จากแดนไกลเดินทางมายังยูเดียเพื่อนมัสการกษัตริย์องค์ใหม่ พวกเขาได้รับการนำทางโดยดวงดาวที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของการประสูติของพระเยซู เมื่อพวกเขามาถึงกรุงเยรูซาเลม พวกเขาได้สอบถามเกี่ยวกับสถานที่ประสูติของกษัตริย์องค์ใหม่ ทำให้เฮโรดหวาดกลัว เฮโรดขอให้นักปราชญ์ค้นหาพระเยซูและรายงานกลับมาให้เขา โดยอ้างว่าเขาต้องการนมัสการพระองค์ด้วย
หลังจากที่นักปราชญ์พบพระเยซู พวกเขาได้มอบของขวัญที่มีค่าและนมัสการพระองค์ พระเจ้าทรงเตือนพวกเขาในความฝันไม่ให้กลับไปหาเฮโรด ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปยังบ้านเกิดของตนด้วยเส้นทางอื่น เมื่อเฮโรดทราบว่านักปราชญ์หลอกลวงเขา เขาสั่งให้ฆ่าเด็กผู้ชายทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบในเบธเลเฮมและบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้กษัตริย์องค์ใหม่ท้าทายอำนาจของเขา โยเซฟได้รับการเตือนในความฝันเกี่ยวกับแผนของเฮโรด และครอบครัวศักดิ์สิทธิ์หนีไปยังอียิปต์เพื่อความปลอดภัย หลังจากการสิ้นพระชนม์ของเฮโรด ครอบครัวก็กลับไปยังอิสราเอลและตั้งรกรากอยู่ในนาซาเร็ธ
ข้อคิด: มัทธิว 2
เรื่องราวการประสูติของพระเยซูแสดงให้เห็นถึงพระหัตถ์แห่งการจัดเตรียมและการปกป้องของพระเจ้าสำหรับประชากรของพระองค์ โดยทรงนำทางและปกป้องผู้คนหลายกลุ่ม เช่น โยเซฟ ครอบครัวของเขา และนักปราชญ์ผ่านทางความฝันและทูตสวรรค์ เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการดึงดูดผู้คนจากทุกชาติของพระเยซู ในขณะที่นักปราชญ์ผู้ไม่ใช่ชาวยิวจากดินแดนอันไกลโพ้นได้ติดตามดวงดาวเพื่อมอบของขวัญและนมัสการพระองค์ แม้ว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องพระเยซูในวัยเด็กจากการล้างผลาญสังหารหมู่ของเฮโรด แต่การคุ้มครองของพระองค์ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ของพระองค์จะไม่เผชิญกับความยากลำบากเลย แต่หมายถึงการวางใจในความเอาใจใส่ของพระเจ้า การทำงานในทุกสิ่ง และการประทับอยู่แห่งความชื่นชมยินดีอย่างไม่เสื่อมคลาย แม้จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม
คำถาม
1. เรื่องราวของโหราจารย์ที่เดินทางไกลเพื่อนมัสการพระเยซู แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการแสวงหาพระเจ้าด้วยใจจริงและเต็มใจเสียสละเพื่อพระองค์ อะไรคือการเสียสละที่เราควรทำเพื่อติดตามพระเยซูคริสต์?
2. เฮโรดแสดงให้เห็นถึงอันตรายของอำนาจและการกลัวการสูญเสียมัน ทำให้เกิดความรุนแรงและอยุติธรรม เราจะระมัดระวังตนเองจากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวและแสวงหาความชอบธรรมได้อย่างไร?
มัทธิว บทที่ 2 กล่าวถึงการเสด็จมาของพวกโหราจารย์ การตอบสนองของกษัตริย์เฮโรด การลี้ภัยไปอียิปต์ และการกลับมายังนาซาเร็ธนั้น มีข้อคิดและบทเรียนที่สำคัญหลายประการ:
ข้อคิดสำคัญจากพระธรรมมัทธิว บทที่ 2
1. การแสวงหาอย่างจริงจังและการนมัสการ
- ความมุ่งมั่นของโหราจารย์: โหราจารย์ มาจากดินแดนไกลโพ้น แต่เมื่อพวกเขาเห็นดาวที่บ่งบอกถึงการประสูติของ "กษัตริย์ของพวกยิว" พวกเขาก็เริ่มต้นเดินทางอันยาวไกลและยากลำบากเพื่อ แสวงหา และ นมัสการ พระองค์ ข้อคิดคือ การแสวงหาพระเจ้าต้องใช้ความพยายาม ความมุ่งมั่น และความเต็มใจที่จะละทิ้งความสะดวกสบาย เพื่อที่จะได้พบกับความจริงอันยิ่งใหญ่
- การถวายสิ่งที่ดีที่สุด: เมื่อพบพระกุมาร พวกเขาก็ก้มลงนมัสการและถวาย เครื่องบรรณาการอันล้ำค่า (ทองคำ กำยาน และมดยอบ) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการถวายเกียรติสูงสุดแด่พระองค์ สิ่งนี้สอนให้เรา ให้เกียรติและถวายสิ่งที่ดีที่สุดของเรา แด่พระเจ้า
2. ความแตกต่างของการตอบสนองต่อพระเยซู
- ความชื่นชมยินดีกับการต่อต้าน: การมาบังเกิดของพระเยซูนำมาซึ่ง ความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่แสวงหาพระองค์ (โหราจารย์) แต่กลับนำมาซึ่ง ความวิตกกังวลและแผนการทำลาย สำหรับผู้ที่ยึดติดกับอำนาจทางโลก (กษัตริย์เฮโรดและชาวเยรูซาเล็ม) ข้อคิดคือ ผู้คนจะตอบสนองต่อพระเยซูด้วยท่าทีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาแสวงหาสิ่งใดในชีวิต
- ความล้มเหลวของผู้รู้: พวกหัวหน้าปุโรหิตและธรรมาจารย์ในเยรูซาเล็มรู้คำพยากรณ์อย่างชัดเจนว่าพระคริสต์จะประสูติที่เบธเลเฮม แต่ พวกเขาไม่ได้กระทำตามความรู้นั้น และไม่ได้ไปแสวงหาพระองค์เลย ตรงกันข้ามกับโหราจารย์ที่เป็นคนต่างชาติที่มาตามหา ข้อคิดคือ ความรู้ทางศาสนาอย่างเดียวไม่เพียงพอ การกระทำตามความรู้ (ความเชื่อ) นั้นต่างหากที่สำคัญ
3. การทรงนำและการปกป้องของพระเจ้า
- การทรงนำทางความฝัน: พระเจ้าทรงเตือนโหราจารย์และโยเซฟหลายครั้งผ่าน ความฝัน เพื่อปกป้องพระเยซูจากแผนการร้ายของเฮโรด (ให้โหราจารย์กลับไปอีกทาง และให้โยเซฟรีบพาครอบครัวหนีไปอียิปต์) ข้อคิดคือ พระเจ้าทรงเฝ้าดูและปกป้องแผนการของพระองค์ และทรงใช้หนทางต่างๆ ที่เราคาดไม่ถึงในการทรงนำและเตือนเรา
4. การสำเร็จตามคำพยากรณ์
- พระเยซูผู้ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ตามคำพยากรณ์: มัทธิวเน้นย้ำหลายครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบทนี้ เช่น การประสูติที่เบธเลเฮม การลี้ภัยในอียิปต์ และการกลับไปอาศัยที่นาซาเร็ธ ล้วนเป็น การทำให้คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมสำเร็จ ข้อคิดคือ พระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์ที่แท้จริง ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ และแผนการของพระเจ้าเป็นจริงตามที่ได้ทรงกล่าวไว้แล้ว
มัทธิว บทที่ 2 สอนให้เราเป็นเหมือนโหราจารย์ที่ ตั้งใจแสวงหา นมัสการ และถวายเกียรติ แด่พระเยซู มากกว่าจะเป็นเหมือนกษัตริย์เฮโรดที่มุ่งมั่นแต่จะทำลาย หรือพวกผู้นำศาสนาที่รู้ความจริงแต่ไม่ได้ทำตาม