Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ยอห์น 5

เรื่องย่อ

ยอห์น 5 นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของพระเยซูที่สระเบธซาธา ที่พระองค์ทรงรักษาคนป่วยที่อยู่มา 38 ปี การกระทำแห่งความเมตตานี้จุดประกายความขัดแย้งกับพวกยิว เพราะมันเกิดขึ้นในวันสะบาโตและพระเยซูทรงสั่งให้ชายผู้นั้นแบกแคร่ของเขา ในการตอบสนอง พระเยซูทรงยืนยันความเท่าเทียมกันของพระองค์กับพระเจ้า โดยตรัสว่าพระองค์ทรงทำสิ่งที่พระบิดาทรงทำอยู่เสมอ ถ้อยแถลงนี้เพิ่มความโกรธแค้นของพวกยิวมากยิ่งขึ้น และพวกเขาพยายามที่จะประหารพระองค์ การโต้แย้งที่ตามมาเปิดเผยความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์ของพระเยซูกับพระบิดา และพระองค์ทรงเป็นผู้ให้ชีวิตและเป็นผู้พิพากษา การอัศจรรย์และการสอนของพระเยซูในยอห์น 5 ท้าทายความเข้าใจของพวกยิวเกี่ยวกับพระเจ้าและพระเมสสิยาห์ และนำไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การตรึงพระองค์ที่กางเขน

 

ในกรุงเยรูซาเลม ผู้ป่วยมารวมตัวกันที่สระเบธซาธา โดยเชื่อว่าน้ำมีคุณสมบัติในการรักษา การกระเพื่อมของน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากน้ำพุธรรมชาติ ทำให้เกิดความหวังในผู้ป่วย แม้ว่าจะเป็นเพียงการบรรเทาชั่วคราวก็ตาม เมื่อพระเยซูมาถึง พระองค์ได้ถามชายคนหนึ่งที่ป่วยมา 38 ปีว่าเขาต้องการหายหรือไม่ หลังจากนั้นพระเยซูก็ทรงรักษาเขาให้หาย แม้ว่าเขาจะหมดหวัง

เมื่อหายดีแล้ว ชายคนนั้นได้ไปที่พระวิหาร ซึ่งเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเกือบ 40 ปี เขาจึงได้นมัสการพระเจ้า แต่เขาได้ถกเถียงกับพวกฟาริสีที่ถือว่าการแบกแคร่ของเขาเป็นความผิดในวันสะบาโต พวกฟาริสีได้เพิ่มเติมกฎเกณฑ์วันสะบาโตของตนเอง แม้ว่าเดิมทีพระเจ้าจะทรงกำหนดกฎเกณฑ์วันสะบาโตแล้วก็ตาม พวกเขาได้สร้างกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อบังคับใช้ ทำให้กฎเกณฑ์ของมนุษย์มีค่าเท่ากับกฎหมายของพระเจ้า

พระเยซูทรงรักษาชายคนนั้นในวันสะบาโต ทำให้พวกฟาริสีโกรธเคือง พระเยซูทรงตอบโต้โดยยืนยันว่าพระองค์ทรงทำงานผ่านอำนาจของพระบิดา พระองค์ตรัสว่าพระองค์สามารถประทานชีวิตแก่คนตายได้ทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายร่างกาย พระองค์ทรงวิพากษ์วิจารณ์พวกฟาริสีที่ให้ความสำคัญกับธรรมเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นเหนือพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ทรงประกาศว่าบทบาทของพระองค์คือการพิพากษา และการพิพากษาทั้งหมดของพระองค์นั้นสอดคล้องกับความประสงค์ของพระบิดา

 

ข้อคิด: ยอห์น 5

พระเยซูทรงมีค่ามากที่สุดและชายที่หายดีก็รู้เช่นนั้น เพราะสิ่งแรกที่เขาทำคือไปที่พระวิหารเพื่อมาใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น พระเจ้าทรงพบเขา และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่เพราะการรักษาทางกายภาพ แต่เพราะพระเยซูทรงเรียกเขาให้มีชีวิต และตอนนี้เขารู้แล้วว่าพระองค์คือแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริง

 

คำถาม

1.   พระเยซูทรงรักษาชายคนหนึ่งที่สระเบธซาธาในวันสะบาโต ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับพวกฟาริสี เราจะรักษาสมดุลระหว่างการปฏิบัติตามหลักความเชื่อของเรากับการแสดงความเห็นอกเห็นใจและความรักต่อผู้อื่นได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลักการเหล่านั้นขัดแย้งกับบรรทัดฐานทางสังคมหรือความคาดหวัง?

2.   พระเยซูทรงกล่าวถึงพระเจ้าว่าเป็นพระบิดาของพระองค์ในยอห์น 5 และยืนยันถึงสิทธิอำนาจและการตัดสินของพระองค์ ในสังคมที่มักตั้งคำถามหรือปฏิเสธสิทธิอำนาจ จะมีประโยชน์อย่างไรในการยอมจำนนต่อพระเจ้าในการดำเนินชีวิตของเรา และความเชื่อในพระเยซูช่วยให้เราเข้าใจและยอมรับความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร

 

 

ยอห์น บทที่ 5 เต็มไปด้วยข้อคิดและคำสอนที่ลึกซึ้ง โดยหลัก ๆ แล้วจะเน้นที่การยืนยันถึงสิทธิอำนาจ และความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ผ่านการอัศจรรย์และการเทศนาของพระองค์ นี่คือข้อคิดสำคัญที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้:

1. พระเมตตาที่เหนือกว่ากฎเกณฑ์ (การรักษาคนป่วย 38 ปี)

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยการที่พระเยซูรักษาชายอัมพาตที่สระเบธซาธาในวันสะบาโต ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกับผู้นำศาสนา

  • ความเมตตาสำคัญกว่าพิธี: ผู้นำศาสนามุ่งเน้นที่กฎของวันสะบาโตมากกว่าการที่คนคนหนึ่งได้รับการรักษาและมีชีวิตใหม่ เรื่องนี้เตือนให้เราพิจารณาว่าเรากำลังยึดติดกับรูปแบบธรรมเนียม หรือกฎเกณฑ์ มากกว่าการแสดงความรักและความเมตตาต่อผู้อื่นหรือไม่
  • ความกระตือรือร้นของพระเจ้า: เมื่อพระเยซูตรัสว่า "พระบิดาของเราก็ทรงทำงานอยู่จนถึงบัดนี้ และเราก็ทำงานด้วย" (ยอห์น 5:17) เป็นการประกาศว่า งานของพระเจ้าคือการช่วยชีวิตและเยียวยา ซึ่งไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ของมนุษย์
  • ทางเลือกที่จะ 'ลุกขึ้น': พระเยซูถามชายคนนั้นว่า "ท่านอยากหายหรือไม่?" (ยอห์น 5:6) ซึ่งเป็นคำถามที่ท้าทายจิตใจของเราเช่นกัน: เราต้องการหลุดพ้นจากความอ่อนแอ ข้อจำกัด หรือบาปที่เราคุ้นเคยแล้วจริง ๆ หรือไม่? การหายดีต้องมาพร้อมกับการเลือกที่จะทิ้งสิ่งเก่าและก้าวเดินไปในทางใหม่

2. การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับพระบิดาและสิทธิอำนาจของพระบุตร

ส่วนที่เหลือของบทที่ 5 คือคำเทศนาที่พระเยซูทรงอธิบายว่าการกระทำของพระองค์นั้นเป็นการสะท้อนและถวายเกียรติแด่พระบิดาอย่างสมบูรณ์

  • ทำตามพระประสงค์ของพระบิดา: พระเยซูตรัสว่า "พระบุตรจะทำอะไรตามใจไม่ได้เลย นอกจากที่ได้เห็นพระบิดาทรงทำ" (ยอห์น 5:19) ข้อคิดนี้สอนให้เรามีชีวิตที่ไม่แสวงหาความชอบธรรมส่วนตัว แต่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างแท้จริง การตัดสินใจของเราควรตั้งอยู่บนสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย ไม่ใช่ความปรารถนาของเราเอง (ยอห์น 5:30)
  • อำนาจแห่งชีวิตและการพิพากษา: พระเยซูทรงประกาศถึงสิทธิอำนาจในฐานะผู้ประทานชีวิต (ทั้งชีวิตฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณ) และผู้พิพากษา ซึ่งเป็นอำนาจที่พระบิดาทรงมอบให้ (ยอห์น 5:21-22) สิ่งนี้ยืนยันว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง
  • หนทางสู่ชีวิตนิรันดร์: พระองค์ทรงให้คำมั่นสัญญาที่สำคัญที่สุด: "ผู้ที่ฟังคำของเราและเชื่อในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็มีชีวิตนิรันดร์" (ยอห์น 5:24) การเชื่อในพระเยซูจึงเป็นการก้าวข้ามจากความตายสู่ชีวิต และพ้นจากการถูกพิพากษาแล้ว

3. พยานหลักฐานที่ยืนยันความจริง

พระเยซูทรงกล่าวถึงพยานหลายอย่างที่ยืนยันว่าพระองค์เป็นพระคริสต์ที่ถูกส่งมาจากพระเจ้า

  • พยานที่ไม่สามารถปฏิเสธได้: พยานเหล่านี้ได้แก่ พระบิดา (ยอห์น 5:32), ยอห์นผู้ให้บัพติศมา (ยอห์น 5:33-35), พระราชกิจและการอัศจรรย์ของพระองค์ (ยอห์น 5:36) และที่สำคัญที่สุดคือ พระคัมภีร์ (ยอห์น 5:39)
  • พระคัมภีร์นำไปสู่พระคริสต์: พระเยซูทรงตำหนิพวกยิวที่ "ค้นดูในพระคัมภีร์" แต่กลับไม่ยอมมาหาพระองค์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพระคัมภีร์นั้น (ยอห์น 5:39-40) ข้อคิดสำหรับเราคือ การศึกษาพระคำต้องนำเราไปสู่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเยซู ไม่ใช่แค่ความรู้เท่านั้น

บทที่ 5 จึงเป็นบทที่ท้าทายให้เรายอมรับสิทธิอำนาจของพระเยซูเหนือทุกสิ่ง และดำเนินชีวิตโดยเชื่อฟังและทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา มากกว่าการยึดติดในกฎเกณฑ์ที่ว่างเปล่า