Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ลูกา 10

เรื่องย่อ

ลูกา 10 เน้นถึงความเมตตา ความเป็นสาวก และการประกาศอาณาจักรของพระเจ้า พระเยซูทรงแต่งตั้งสาวกเจ็ดสิบคนและส่งพวกเขาไปเป็นคู่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเยือนของพระองค์ พวกเขาได้รับอำนาจในการขับผีปีศาจและรักษาผู้ป่วย พระเยซูทรงเตือนพวกเขาว่าการปฏิเสธพวกเขาคือการปฏิเสธพระองค์ด้วย และทรงมีความยินดีเมื่อพวกเขาได้กลับมาด้วยความยินดี พระเยซูทรงตรัสถึงความสุขแท้ที่พบได้ในการเชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าเพียงแค่การทำงานอย่างมีอำนาจในพระนามของพระองค์ ทนายคนหนึ่งถามว่า "ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์" พระเยซูทรงตอบโดยให้ทนายคนนั้นตีความธรรมบัญญัติ ซึ่งสรุปได้ว่าให้รักพระเจ้าและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เมื่อทนายถามว่า "ใครคือเพื่อนบ้านของข้าพเจ้า" พระเยซูจึงตรัสเรื่องราวของชาวสะมาเรียผู้ใจดี ผู้ซึ่งแสดงความเมตตาต่อชายที่ถูกโจมตีและทิ้งไว้ครึ่งเป็นครึ่งตายริมถนน สรุปคือ พระเจ้าทรงเรียกผู้ติดตามของพระองค์ให้แสดงความเมตตาต่อทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถูกกีดกันจากสังคม พระเยซูเสด็จเยือนบ้านของมารธาและมารีย์ มารธาถูกครอบงำด้วยการต้อนรับพระเยซู ในขณะที่มารีย์เลือกที่จะนั่งแทบพระบาทของพระเยซูและฟังคำสอนของพระองค์ พระเยซูตรัสว่ามารีย์ได้เลือกส่วนที่ดีกว่า ซึ่งจะไม่ถูกพรากไปจากเธอ

 

ในมัทธิว 10 พระเยซูทรงส่งอัครสาวกสิบสองไปยังดินแดนต่างๆ เพื่อเผยแพร่ข่าวดีและนำอาณาจักรมาหาใกล้พระองค์ โดยเน้นว่าหนึ่งในภารกิจคือการนำพาผู้คนเข้าสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้า ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของพวกเขา ขณะเดียวกัน ในบทเดียวกัน ลูกาศร การเล่าเรื่องของพระเยซูเน้นให้เราเห็นว่าพระองค์ทรงเห็นและเข้าใจความจริงลึกซึ้ง ซึ่งไม่ใช่เพียงสิ่งที่เป็นภายนอกเท่านั้น แต่เป็นจิตใจและความสัมพันธ์ของแต่ละคน พวกเขาอาจพยายามหลีกเลี่ยงความจริงโดยรอบตัว แต่พระองค์ทรงเปิดเผยความจริงและชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าทรงยึดมั่นในความรักและความเมตตาโดยไม่มีเงื่อนไข

พระเยซูยังทรงแสดงว่า พระองค์เป็นพระเมสสิยาห์และพระผู้ช่วยให้รอด ด้วยการยืนยันในบทสนทนากับทนายความ ผู้ที่พยายามพิสูจน์ความดีของตนเอง พระองค์ทรงเน้นว่าความรอดขึ้นอยู่กับการรักพระเจ้าและความเมตตาต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง โดยใช้อุปมาเรื่องชายคนหนึ่งที่ถูกโจรปล้นและพยายามช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งรวมถึงชาวสะมาเรียที่โดยทั่วไปไม่เป็นที่รักของชาวยิว แต่ได้แสดงความเมตตาอย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์ทรงเน้นให้เราระลึกว่าคำว่า “เพื่อนบ้าน” หมายถึงทุกคนที่เราพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นหัวใจของความรักและความเมตตาที่พระองค์ทรงสอนให้เราเดินตาม

สุดท้าย พระเยซูทรงนำเสนอความอ่อนโยนและความเข้าใจในความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อมารีย์และมารธาเชิญพระองค์ไปรับประทานอาหาร พระองค์ทรงแสดงความเห็นใจต่อความรู้สึกของมารธา ที่ทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยในขณะที่มารีย์พักผ่อน พระองค์ตรัสว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลาที่เราใช้ร่วมกับพระองค์ ซึ่งไม่มีใครสามารถเอาไปจากเราได้ ความเมตตาและความเข้าใจนี้สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความรักในชีวิตประจำวันของเราอย่างแท้จริง

 

ข้อคิด: ลูกา 10

ชาวสะมาเรียมีหลายสิ่งที่เหมือนกับพระเยซู ทั้งสองมีเชื้อสายผสม ทั้งสองถูกปฏิเสธและดูถูกเหยียดหยาม แต่กลับมีใจเมตตาต่อผู้ที่เจ็บปวด ทั้งสองเทเหล้าองุ่นและน้ำมัน—สำหรับพระเยซู สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของพระโลหิตของพระองค์และพระวิญญาณของพระเจ้า ทั้งสองจ่ายราคาเพื่อการรักษาและการพักผ่อน และทั้งสองสัญญาว่าจะกลับมา สิ่งที่ชาวสะมาเรียใจดีทำที่นี่เป็นสิ่งที่ดี งดงาม และเป็นความจริง แต่เป็นสิ่งชั่วคราวที่ชี้ไปยังความเป็นจริงนิรันดร์ พระเยซูกำลังแสดงให้เราเห็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำ อุปมาเรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเราคือคนที่อยู่ในคูน้ำ ปรากฎว่าชาวสะมาเรียใจดีไม่ใช่แม้แต่ฮีโร่ในอุปมาของเขาเอง—พระเยซูต่างหาก! และพระองค์คือที่ซึ่งความยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   ในลูกา 10:25-37 พระเยซูทรงเล่าเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของการแสดงความเมตตาต่อเพื่อนบ้านของเรา แม้ว่าพวกเขาจะแตกต่างจากเราก็ตาม เราจะนำหลักการนี้ไปใช้ในชีวิตของเราได้อย่างไร และเราจะก้าวข้ามอคติทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อแสดงความรักต่อทุกคนได้อย่างไร?

2.   ในลูกา 10:38-42 พระเยซูเสด็จเข้าไปในหมู่บ้านหนึ่งและได้รับการต้อนรับจากมาร์ธาและมารีย์ ในขณะที่มาร์ธายุ่งอยู่กับการรับใช้ พระองค์ทรงชมเชยมารีย์ที่เลือกนั่งที่พระบาทของพระเยซูและฟังคำสอนของพระองค์ เราจะดำเนินชีวิตระหว่างความสำคัญของการรับใช้พระเจ้าและการอุทิศเวลาให้กับการอยู่กับพระองค์ในการศึกษาและอธิษฐานได้อย่างไร และเราจะจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่เป็นนิรันดร์เหนือสิ่งชั่วคราวได้อย่างไร?

 

 

ลูกา บทที่ 10 ครอบคลุมหลายประเด็น โดยเน้นที่การรับใช้ การรักเพื่อนบ้าน และการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งฝ่ายวิญญาณ ดังนี้:

1. การรับใช้และประกาศพระกิตติคุณ (ลูกา 10:1-24)

  • ความเร่งด่วนในการรับใช้: พระเยซูทรงส่งสาวก 72 คนออกไปเป็นคู่เพื่อเตรียมทางให้พระองค์ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนของการประกาศข่าวประเสริฐ และการอธิษฐานขอให้มีคนงานมากขึ้นเพื่อการเก็บเกี่ยวฝ่ายวิญญาณนั้นมีมาก
  • การพึ่งพาพระเจ้า: ทรงสอนให้สาวกวางใจในการจัดเตรียมของพระเจ้า ไม่ต้องกังวลเรื่องการเตรียมสิ่งของ (ห้ามนำถุงเงิน ย่าม หรือรองเท้าไป)
  • สิ่งน่ายินดีที่แท้จริง: แม้การมีอำนาจเหนือมารร้ายจะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี แต่สิ่งที่สำคัญและน่ายินดีที่สุดคือ ชื่อถูกจารึกไว้ในสวรรค์ แล้ว (ลูกา 10:20) ซึ่งแสดงว่าความรอดและความสัมพันธ์กับพระเจ้าสำคัญกว่าความสำเร็จในการรับใช้

2. ความรักต่อเพื่อนบ้าน (ลูกา 10:25-37)

  • พระบัญญัติที่สำคัญที่สุด: ทนายความถามถึงวิธีได้รับชีวิตนิรันดร์ และพระเยซูยืนยันว่าคือการ รักพระเจ้าด้วยสุดใจ และ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง
  • อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี: เป็นบทเรียนที่ให้คำตอบว่า "ใครคือเพื่อนบ้านของฉัน?" โดยเพื่อนบ้านที่แท้จริงคือคนที่แสดงความเมตตาแก่ผู้อื่นโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะทางสังคม การกระทำด้วยความรักและการเมตตากรุณาอย่างแท้จริงมีความสำคัญกว่าการยึดติดในพิธีกรรมหรือความเชื่อทางศาสนาเพียงอย่างเดียว

3. การจัดลำดับความสำคัญ (ลูกา 10:38-42)

  • มารีย์และมารธา: เรื่องราวนี้สอนให้เห็นถึงการจัดลำดับความสำคัญระหว่างการรับใช้ (มาร์ธาที่ยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมการมากมาย) กับการ เลือกสิ่งที่ดีกว่า (มารีย์ที่นั่งลงฟังพระเยซู)
  • สิ่งจำเป็นที่สุดเพียงสิ่งเดียว: พระเยซูตรัสว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จำเป็นคือการ เลือกที่จะนั่งลงฟังพระวจนะ และมีความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์ การให้ความสำคัญกับฝ่ายวิญญาณและการใช้เวลากับพระคริสต์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ข้อคิดจากบทนี้คือการเน้นย้ำถึงการออกไปประกาศพระกิตติคุณอย่างเร่งด่วน การดำเนินชีวิตที่แสดงความรักและเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน และเหนือสิ่งอื่นใด การจัดลำดับความสำคัญให้อันดับแรกเป็นเรื่องของความสัมพันธ์กับพระเจ้าและการฟังพระวจนะของพระองค์