Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ลูกา 12

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ลูกา 13

เรื่องย่อ

ลูกา 12 และ 13 รวบรวมคำสอนและเหตุการณ์ต่างๆ ที่หลากหลาย โดยเน้นถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์ การพึ่งพาพระเจ้า และความเร่งด่วนของการกลับใจ พระเยซูทรงเตือนผู้ติดตามของพระองค์ถึงความหน้าซื่อใจคดของพวกฟาริสี และให้กำลังใจพวกเขาให้กล้าหาญในการประกาศความเชื่อของตน พระองค์ทรงเน้นถึงความสำคัญของการให้คุณค่าแก่นิรันดรมากกว่าสิ่งของฝ่ายโลก โดยแบ่งปันคำอุปมาเรื่องเศรษฐีที่โง่เขลา พระเยซูทรงให้กำลังใจผู้ติดตามของพระองค์ให้วางใจในพระเจ้าที่จะจัดหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยไม่ต้องกังวล พระองค์ทรงตรัสถึงความจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระบุตรแห่งมนุษย์ ลูกา 13 เริ่มต้นด้วยพระเยซูทรงเรียกร้องให้ทุกคนกลับใจ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะพินาศเหมือนคนที่ถูกประหารโดยปิลาตหรือคนที่เสียชีวิตเมื่อหอคอยแห่งสิโลอัมพังทลายลง พระเยซูทรงรักษาหญิงที่ถูกงอมาสิบแปดปีในวันสะบาโต ซึ่งจุดประกายการโต้แย้งกับหัวหน้าธรรมศาลา พระเยซูทรงสอนเกี่ยวกับอาณาจักรของพระเจ้าโดยใช้คำอุปมาเรื่องเมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง พระองค์ทรงโศกเศร้ากับการปฏิเสธกรุงเยรูซาเลมและทรงแสดงความปรารถนาที่จะรวบรวมลูกของเมืองไว้ด้วยกันเหมือนแม่ไก่รวบรวมลูกเจี๊ยบของมันไว้ใต้ปีกของมัน

 

ในเนื้อหาของมัทธิว 24-25 พระเยซูทรงเน้นให้เรายึดมั่นในความเตรียมพร้อมและความสัมพันธ์กับพระเจ้า เนื่องจากเราไม่รู้วันเวลาที่พระองค์จะเสด็จมา พระองค์ตรัสว่าเราควรจะเตรียมใจไว้เสมอ เช่น พระองค์เปรียบเทียบให้เราคิดว่าเราเป็นผู้รับใช้ที่ต้องดูแลบ้านเรือนของนาย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่า เราต้องใส่ใจและดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า พระองค์เน้นว่าถ้าเราไม่พร้อมและไม่ได้ดำเนินชีวิตในความเชื่ออย่างจริงจัง เราจะไม่ได้เข้าสู่ความสุขในอาณาจักรของพระองค์ และสุดท้าย พระองค์ทรงเตือนให้เราคิดว่าการรักษาความสัมพันธ์กับพระองค์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่เพียงการทำกิจกรรมภายนอกหรือความสำเร็จในชีวิต เพราะในวันที่พระองค์เสด็จมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรารู้จักพระองค์และอยู่ในความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างแน่นแฟ้น

พระเยซูยังทรงใช้คำอุปมาเพื่อเน้นความสำคัญของการใช้ชีวิตในความเชื่อและความสัตย์ซื่อ พระองค์เปรียบเทียบอิสราเอลเป็นต้นไม้ที่ไม่ออกผลในเวลาที่กำหนด พระองค์เป็นคนทำสวนที่ลงทุนดูแลและรอผล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงอดทนและให้เวลาพวกเราในการกลับใจ ผลอาจต้องใช้เวลาแต่พระองค์ยังคงรักและรอคอยให้เราฟื้นฟูและออกผลในเวลาที่เหมาะสม ในเวลาเดียวกัน พระองค์เตือนว่าอย่าให้ความเชื่อมั่นในตนเองหรือความพยายามของเราเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์กับพระองค์ เพราะไม่ใช่การกระทำของเราเท่านั้นที่จะนำเราเข้าสู่พระอาณาจักร แต่เป็นการรู้จักและสัมพันธ์จริงใจต่อพระองค์เท่านั้น

นอกจากนี้ พระเยซูยังทรงพูดถึงความสำคัญของการตอบสนองต่อคำเชิญของพระเจ้า การศึกษาเรื่องความรอดไม่ได้ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติ สัญชาติ หรือการกระทำ แต่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “เราไม่รู้จักเจ้า” กับผู้ที่ขาดความใกล้ชิดและความเชื่อแท้ในพระองค์ สิ่งนี้เตือนให้เราตระหนักว่า การเป็นคริสเตียนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมหรือการเข้าโบสถ์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการรู้จักพระองค์และดำเนินชีวิตให้สัมพันธ์กับพระองค์อย่างจริงจัง เพื่อเตรียมใจและรอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค์ในเวลาที่ไม่อาจคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน

 

ข้อคิด: ลูกา 12-13

คำเตือนเกี่ยวกับการพิพากษามีความสำคัญ เพราะเป็นสัญญาณเรียกให้คนที่ยังไม่รู้จักพระเยซูคริสต์กลับใจ และเป็นสัญญาณเรียกให้คนที่รู้จักพระองค์แล้วออกไปประกาศข่าวประเสริฐ แต่คำเตือนเหล่านั้นไม่ควรทำให้เรากลัวการพิพากษามากกว่าที่จะรักพระเยซู เปโตรและเปาโลสนับสนุนให้ผู้เชื่อตรวจสอบจิตใจของตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในความเชื่อ (2 โครินธ์ 13:5; 2 เปโตร 1:10–11) แต่ทั้งสองท่านก็บอกเป็นนัยว่าเราสามารถสรุปได้ เราสามารถรู้ได้ว่าเราได้รับการรับเป็นบุตรบุญธรรมในครอบครัวของพระเจ้า พระเจ้าไม่ต้องการให้เราแบกรับความกลัวนั้น พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ด้วยซ้ำว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะพระบิดาทรงใส่ใจและชื่นชมยินดีในพวกเขา “ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของท่านพอพระทัยที่จะประทานแผ่นดินนั้นให้แก่ท่าน” (ลูกา 12:32) พระเจ้าทรงปีติยินดีที่จะประทานของประทานที่ดีแก่ลูกๆ ของพระองค์ และไม่มีของประทานใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   ในลูกา 12:13-21 พระเยซูทรงเล่าคำอุปมาเกี่ยวกับคนรวยที่โง่เขลาซึ่งสะสมทรัพย์สมบัติเพื่อตนเองแต่ไม่ได้ร่ำรวยต่อพระเจ้า คำอุปมานี้สอนอะไรแก่เราเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญในชีวิตของเรา และเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเรากำลังลงทุนในสิ่งที่มีค่าชั่วนิรันดร์ แทนที่จะเป็นเพียงสิ่งทางวัตถุ?

2.   ในลูกา 13:10-17 พระเยซูทรงรักษาหญิงที่ถูกผีเข้าสิงเป็นเวลา 18 ปีในวันสะบาโต ในขณะที่ผู้นำธรรมศาลาโกรธเคือง พระเยซูทรงเน้นถึงความสำคัญของการเมตตาและการเยียวยาเหนือกฎที่เคร่งครัด เรื่องนี้สอนอะไรแก่เราเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเห็นอกเห็นใจ และเราจะมีความสมดุลระหว่างการรักษากฎของพระเจ้ากับการแสดงความรักและความเมตตาได้อย่างไร

 

 

 

ลูกา บทที่ 13 มีข้อคิดที่สำคัญหลายประการ โดยรวมแล้วเน้นไปที่การ กลับใจใหม่ และการเตรียมพร้อมสำหรับแผ่นดินของพระเจ้าขณะที่ยังมีโอกาส ซึ่งสามารถสรุปเป็นประเด็นหลักๆ ได้ดังนี้:

1.      การกลับใจใหม่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน (ข้อ 1-5):

o    พระเยซูทรงเตือนว่าเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับบางคน (เช่น ชาวกาลิลีที่ถูกปีลาตสังหาร หรือคนที่ถูกหอคอยล้มทับ) ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนบาปยิ่งกว่าคนอื่น

o    ทุกคน ต้องกลับใจใหม่ มิฉะนั้นก็จะพินาศเหมือนกันหมด ข้อคิดคือ อย่าตัดสินว่าใครบาปมากกว่าใคร แต่ให้พิจารณาชีวิตของตนเองและรีบกลับใจเสียก่อนที่จะสายเกินไป

2.      การผลิตผลฝ่ายวิญญาณและความอดทนของพระเจ้า (อุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศไร้ผล, ข้อ 6-9):

o    อุปมานี้สอนว่าพระเจ้าคาดหวังผล (คือชีวิตที่กลับใจและการประพฤติที่ดีงาม) จากประชากรของพระองค์

o    แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ไม่มีผล แต่พระเจ้าก็ยัง ทรงเมตตาและให้อภัย (ให้โอกาส) โดยเปรียบเหมือนคนสวนที่ขอเวลาดูแลต้นมะเดื่อเทศอีกหนึ่งปี

o    ข้อคิดคือ เราต้องใช้เวลาที่ได้รับมานี้ ในการกลับใจและผลิตผล ก่อนที่โอกาสจะหมดลง

3.      ความเมตตาสำคัญกว่ากฎเกณฑ์ (การรักษาหญิงหลังโกงในวันสะบาโต, ข้อ 10-17):

o    พระเยซูทรงแสดงความเมตตาและทำการรักษาโรคในวันสะบาโต

o    ทรงตำหนิผู้นำธรรมศาลาที่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ทางศาสนาภายนอก มากกว่าการแสดงความรักและความเมตตาต่อผู้ที่ทุกข์ยาก

o    ข้อคิดคือ ความเมตตา และการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แม้ในวันสะบาโต

4.      แผ่นดินของพระเจ้าเติบโตจากสิ่งเล็กน้อย (อุปมาเรื่องเมล็ดมัสตาร์ดและเชื้อแป้ง, ข้อ 18-21):

o    แผ่นดินของพระเจ้าอาจเริ่มต้นจากสิ่งที่ดูเล็กน้อย ไม่สำคัญ หรือซ่อนเร้น (เมล็ดมัสตาร์ดเล็กที่สุดแต่เติบโตเป็นต้นใหญ่, เชื้อแป้งที่มองไม่เห็นแต่ทำให้แป้งฟู)

o    ข้อคิดคือ สิ่งฝ่ายวิญญาณที่ยิ่งใหญ่มักจะเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อย และจะเติบโตแผ่ขยายออกไปในที่สุด

5.      การพยายามเข้าทางประตูแคบและโอกาสที่กำลังจะหมดไป (ข้อ 22-30):

o    พระเยซูทรงเตือนให้ บากบั่นเพียรพยายาม เข้าไปทาง "ประตูที่คับแคบ" ซึ่งหมายถึงการดำเนินชีวิตที่ต้องใช้ความพยายามและการอุทิศตนเพื่อพระเจ้า

o    จะมาถึงจุดที่ "เจ้าของบ้านลุกขึ้นปิดประตู" และหลายคนจะพยายามเข้าไปแต่ก็เข้าไม่ได้ เพราะได้พลาดโอกาสไปแล้ว

o    ข้อคิดคือ ความรอดไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ได้ แต่ต้องมุ่งมั่นดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้าอย่างจริงจัง และ เวลาแห่งโอกาสมีจำกัด

ลูกาบทที่ 13 เน้นย้ำอย่างชัดเจนถึงความเร่งด่วนของการ กลับใจใหม่ และการ ดำเนินชีวิตที่เกิดผล ให้สมกับที่ได้รับโอกาสจากพระเจ้า เพราะมีวันหนึ่งที่โอกาสนั้นจะหมดไป และเราจะต้องรับผลของการเลือกของเรา