เรื่องย่อ
มัทธิวบทที่ 24 เป็นคำพยากรณ์ที่พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกบนภูเขามะกอกเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การทำลายพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มและการเสด็จกลับมาของพระองค์อีกครั้ง พระองค์ทรงพรรณนาถึงสัญญาณต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย เช่น สงคราม การกันดารอาหาร แผ่นดินไหว ผู้เผยพระวจนะเท็จ การข่มเหงผู้เชื่อ และความชั่วร้ายที่เพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันข่าวประเสริฐของอาณาจักรจะต้องถูกประกาศไปทั่วโลกก่อนที่จะถึงวาระสุดท้าย พระองค์ทรงเตือนถึง "ความน่าสะอิดสะเอียนอันเป็นเหตุให้เกิดความพินาศ" และความทุกข์ลำบากครั้งใหญ่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน จากนั้นจึงกล่าวถึงการเสด็จมาของบุตรมนุษย์ท่ามกลางปรากฏการณ์บนท้องฟ้า พระเยซูทรงใช้คำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อสอนให้เฝ้าสังเกตการณ์ และเน้นย้ำว่าไม่มีใครรู้ถึงวันหรือเวลาที่แน่นอนของการเสด็จกลับมานอกเหนือจากพระบิดาเท่านั้น ดังนั้น พระองค์จึงทรงตักเตือนสาวกทุกคนให้เฝ้าระวัง เตรียมพร้อม และซื่อสัตย์อยู่เสมอ เพราะพระองค์จะเสด็จมาในเวลาที่พวกเขาไม่คาดคิด
ในสัปดาห์สุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระเยซูเตือนเหล่าสาวกว่า พระวิหารจะถูกทำลาย เยรูซาเล็มจะพ่ายแพ้ต่อโรม และพวกเขาจะเผชิญการทดลองและความยากลำบาก พระองค์ทรงเสนอภาพเหตุการณ์ตามลำดับเวลาที่เชื่อมโยงกับการเสด็จกลับมาหลังการสิ้นพระชนม์ การฟื้นคืน และการเสด็จขึ้นสวรรค์ แม้พระองค์จะเปิดเผยบางส่วนของอนาคต แต่รายละเอียดยังคลุมเครือและมีมุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกับการคลี่คลายของเหตุการณ์ เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าตกใจอาจเป็นจริงหรือเป็นอุปมาถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงจิตวิญญาณ อาจหมายถึงกษัตริย์และอาณาจักร หรือถึงกองกำลังชั่วร้ายทางวิญญาณ เช่นที่บางคนตีความจากอิสยาห์ 14:12 หลังจากนั้น พระเยซูจะทรงส่งทูตสวรรค์ไปรวบรวมผู้ได้รับเลือกจากทั้งสี่ทิศของโลกและฟ้า เพื่อรวมเป็นหนึ่งกับพระองค์ในชีวิตนิรันดร์ — การรวมของสวรรค์และโลก
ลูกา 21 บันทึกว่าผู้คนจะตกใจขวัญกระเจิงเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่บุตรของพระเจ้าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว เพราะยุคสุดท้ายเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้เชื่อ พระเยซูตรัสว่า “เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เริ่มเกิดขึ้น จงยืนขึ้นและเงยหน้าขึ้น เพราะการไถ่ของท่านใกล้เข้ามาแล้ว” ข้อความนี้เตือนให้เรามองด้วยความหวังไม่ใช่ความกลัว การเฝ้ารอไม่ใช่การสอดส่องวันที่แน่นอนหรือพยายามทำนายเหตุการณ์ แต่เป็นการยืนหยัดด้วยความเชื่อและไม่ก้มหน้าต่อความหวาดกลัว
เมื่อพระองค์กล่าวว่า “คนในชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไปก่อนจนกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น” ข้อความนี้มีการตีความหลายรูปแบบ พระเยซูไม่ได้บอกชัดเจนถึงบุคคลเฉพาะ และพระองค์เองทรงบอกว่าผู้เดียวที่ทราบเวลาคือพระบิดา ดังนั้นคำว่า “คนในชั่วอายุนี้” อาจหมายถึงมวลมนุษย์หรือสายวงศ์ของครอบครัวแห่งพระเจ้า แต่ไม่ว่าจะเป็นหมายใด ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน คือครอบครัวของพระเจ้าจะดำเนินต่อไปตราบเท่ามนุษย์ ข่าวประเสริฐที่พวกเขากำลังก่อตั้งจะคงอยู่และขยายไปยังชนชาติอื่น ๆ ต่อไป จนกระทั่งในที่สุดพระองค์จะเสด็จกลับมา
ข้อคิด: มัทธิว 24
นอกเหนือจากคำว่า “อย่ากลัวเลย” พระเยซูยังทรงสั่งให้ผู้ติดตาม “เฝ้าระวัง” ท่ามกลางข้อมูลไม่สมบูรณ์ที่พระองค์มอบให้ นี่คือคำสั่งที่ชัดเจน—ไม่ใช่คำเชิญให้พยายามเดาวันเวลา หรือต่อเรื่องราวทั้งหมดเป็นจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ แต่เป็นการเตือนให้ตื่นตัว ไม่ให้โลกกล่อมจนหลับใหล เมื่อสถานการณ์เลวร้ายขึ้นก็ไม่ต้องหวาดกลัว แต่จงประกาศข่าวประเสริฐต่อไป การรู้จักพระองค์ทำให้วางใจง่ายขึ้นและมอบสันติสุขที่แท้จริง แม้ในความไม่แน่นอนเรายังสามารถดำเนินชีวิตตามค่านิยมของอาณาจักรของพระองค์ วางมือจากการยึดมั่นในสิ่งโลกและเชื่อมั่นในมรดกนิรันดร์ที่พระองค์ประทาน—เดินไปด้วยมือที่เปิดกว้าง เพราะพระองค์คือแหล่งความชื่นชมยินดี
คำถาม
1. เราจะมีแนวทางอย่างไรในการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับคำสอนของพระเยซูเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายและการทรงกลับมาของพระคริสต์ (มัทธิว 24:42-44) — คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาว่าวัตถุประสงค์คือเพื่อเน้นความสำคัญของการมีความเตรียมพร้อมทางจิตวิญญาณและการดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญาในทุกๆ วัน เพื่อให้พร้อมรับพระคริสต์เสมอและไม่ตกหลุมพรางของความประมาท
2. เมื่อเผชิญกับข่าวสารหรือคำเตือนเกี่ยวกับภัยพิบัติและความยากลำบาก เราจะยึดหลักการใดเพื่อรักษาความเชื่อและความหวังในพระเจ้า (มัทธิว 24:13, 13:20-22) — คำถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พิจารณาว่าเป้าหมายคือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความหวังในพระเจ้า เพื่อให้สามารถยืนหยัดในความทุกข์ยากโดยไม่คลายความเชื่อและยึดมั่นในพระองค์ในทุกสถานการณ์
มัทธิว บทที่ 24 เป็นส่วนที่พระเยซูคริสต์ทรงตรัสกับเหล่าสาวกเกี่ยวกับ หมายสำคัญของวาระสุดท้ายและการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระองค์ ซึ่งมีข้อคิดสำคัญหลายประการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ครับ:
1. ระวังการล่อลวงและคำเท็จ:
o พระเยซูทรงเตือนอย่างชัดเจนว่า จะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ เกิดขึ้นมากมาย และจะล่อลวงคนเป็นอันมาก
o ข้อคิด: เราต้องแสวงหาความจริงจากพระคำของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีวิจารณญาณในการแยกแยะความเท็จที่อาจมาในคราบความจริง
2. สัญญาณที่บ่งบอกถึงวาระสุดท้าย:
o พระองค์ทรงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น สงคราม, ข่าวลือเรื่องสงคราม, ความอดอยาก, แผ่นดินไหว และการข่มเหงคริสเตียน
o ข้อคิด: เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นและจะทวีความรุนแรงขึ้น แต่ให้เรา "อย่าตื่นตระหนก" เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง เป็นการเตือนให้เราเตรียมพร้อม ไม่ใช่ให้ตื่นกลัวจนเกินเหตุ
3. ความรักจะเยือกเย็นลง:
o จะมีความ อธรรมแผ่กว้างออกไป และ ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลง
o ข้อคิด: ในยุคที่เต็มไปด้วยความสับสนและบาป เราต้องตั้งใจอย่างยิ่งที่จะรักษา ความรัก ต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ไว้ให้ร้อนรุ่มอยู่เสมอ ไม่ให้ความชั่วร้ายรอบข้างมาทำให้ความรักของเราจืดจางไป
4. ความอดทนจนถึงที่สุดคือหัวใจสำคัญ:
o ผู้ที่ อดทนจนถึงที่สุด เท่านั้นจึงจะได้รับความรอด
o ข้อคิด: การเป็นคริสเตียนไม่ใช่แค่การเริ่มต้นที่ดี แต่คือการดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์และสู้ต่อไปในความเชื่อ แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบาก การทดลอง หรือการข่มเหงก็ตาม
5. การเฝ้าระวังและการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ:
o พระเยซูเน้นย้ำว่า ไม่มีใครรู้กำหนดวันหรือเวลา ที่พระองค์จะเสด็จกลับมา
o ข้อคิด: การเฝ้าระวังจึงไม่ใช่การพยายามคำนวณวันเวลา แต่คือการ ใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีสติและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ (เหมือนการดูแลรักษาตะเกียงให้มีน้ำมันอยู่เสมอ ดังที่กล่าวในมัทธิว 25) เพราะพระองค์จะเสด็จมาในเวลาที่เรา "ไม่คาดคิด"
มัทธิว 24 สอนให้เรา ตื่นตัวทางฝ่ายวิญญาณ โดยการไม่หลงเชื่อคำเท็จ มีความอดทนเมื่อเผชิญปัญหา และดำรงชีวิตอย่างสัตย์ซื่อและพร้อมเสมอสำหรับการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ครับ