Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 8

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 9

เรื่องย่อ

การเผชิญหน้าระหว่างโมเสสและฟาโรห์ทวีความเข้มข้นขึ้น โมเสสผู้เป็นเครื่องมือของพระเจ้าได้ปลดปล่อยภัยพิบัติร้ายแรงสู่แผ่นดินอียิปต์ น้ำกลายเป็นเลือด ฝูงเขียดบุกท่วม แมลงวันรุมเร้า สัตว์ป่วยตาย คนอียิปต์เจ็บป่วย ลูกเห็บถล่ม ตั๊กแตนทำลายพืชผล และความมืดมิดปกคลุมแผ่นดินเป็นเวลาสามวัน แต่ละภัยพิบัติเป็นการแสดงพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวของพระเจ้า และเป็นการทดสอบความเชื่อของโมเสส ฟาโรห์ที่ดื้อรั้น แม้เผชิญกับความสูญเสียและความหวาดกลัว ก็ยังปฏิเสธที่จะปล่อยอิสราเอลไป สร้างความตึงเครียดและความน่าตื่นเต้น พล็อตเรื่องดำเนินไปอย่างน่าติดตาม การต่อสู้ระหว่างพระเจ้ากับฟาโรห์ และความเชื่อมั่นของโมเสส เป็นบทสำคัญที่วางรากฐานสำหรับการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ต่อไป

 

พระเจ้าทรงเตือนโมเสสและอาโรนล่วงหน้าว่าฟาโรห์จะไม่ยอมจำนนง่ายๆ พระองค์จะทรงทำให้ใจของฟาโรห์แข็งกระด้าง เพื่อให้เหตุการณ์ต่างๆ ดำเนินไปตามแผนการของพระองค์ การกระทำของพระเจ้าไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งชาวอิสราเอลและชาวอียิปต์ได้รู้จักพระองค์ และเลือกที่จะเชื่อฟังหรือไม่ พระเจ้าทรงต้องการให้ชาวอิสราเอลไม่เพียงแต่รู้ความจริง แต่ยังยอมรับและดำเนินชีวิตตามความจริงนั้นด้วย ภัยพิบัติต่างๆ จึงเป็นเครื่องมือในการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระเจ้า และผลของการไม่เชื่อฟัง

แม้ว่านักมายากลของฟาโรห์จะเลียนแบบปาฏิหาริย์บางอย่างของโมเสสได้ในเบื้องต้น แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งพระเจ้าได้ ภัยพิบัติต่างๆ ที่ตามมา ไม่เพียงแต่สร้างความทุกข์ทรมาน แต่ยังเป็นการโจมตีโดยตรงต่อเทพเจ้าต่างๆ ที่ชาวอียิปต์บูชา แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเหนือเทพเจ้าอื่นๆ และความล้มเหลวของระบบความเชื่อของชาวอียิปต์ แม้ฟาโรห์จะแสดงอาการหวั่นไหวบ้าง แต่เขาก็กลับไปยืนกรานในความดื้อรั้นของตนเอง ทุกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความดื้อรั้นและการไม่ยอมรับอำนาจของพระเจ้า

ภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นการระบาดของแมลงวัน โรคระบาดของสัตว์ ฝี และลูกเห็บ แสดงให้เห็นถึงอำนาจและความอดทนของพระเจ้า แม้ฟาโรห์จะขอร้องให้โมเสสอธิษฐานเพื่อเขา แต่เขาก็ไม่เคยกลับใจ ใจของเขายังคงแข็งกระด้าง พระเจ้าทรงแยกแยะระหว่าง "ประชาชนของฉัน" (ชาวอิสราเอล) กับ "ประชาชนของฟาโรห์" (ชาวอียิปต์) เพื่อเน้นถึงพันธสัญญาพิเศษของพระองค์กับชาวอิสราเอล และความแตกต่างระหว่างการลงโทษ กับความคุ้มครอง เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นการวางรากฐานสำหรับการอพยพครั้งยิ่งใหญ่ และการแสดงพลังของพระเจ้าอย่างเด่นชัด

 

ข้อคิด: อพยพ 7-9

ความอดทนของพระเจ้าปรากฏชัดเจนในบทเหล่านี้ ใน 9:15–16 พระองค์ตรัสกับฟาโรห์ว่า “ตอนนี้เราอาจจะยื่นมือออกไปและฟาดฟันเจ้าและประชากรของเจ้าด้วยโรคระบาด และเจ้าจะต้องถูกตัดขาดจากแผ่นดิน แต่เพื่อจุดประสงค์นี้ เราจึงได้ทรงยกเจ้าขึ้นเพื่อแสดงฤทธิ์เดชของเราแก่เจ้า เพื่อให้พระนามของเราถูกประกาศไปทั่วแผ่นดิน” พระองค์มีความอดทนต่อคนบาป พระองค์กำลังดำเนินแผนการของพระองค์ทีละขั้นตอน ความอดทนของพระองค์ที่มีต่อฟาโรห์อาจทำให้โมเสสและชาวอิสราเอลหงุดหงิด และแม้แต่ชาวอียิปต์ พวกเขาอาจคิดว่า ปล่อยพวกเขาไปเสียเถอะ ฟาโรห์! เรามักอดทนต่อพระเจ้าน้อยกว่าที่พระองค์อดทนกับทุกสิ่ง เราพยายามเร่งรัดแผนการของพระองค์ และเราไม่ไว้วางใจพระทัยของพระองค์ ถึงกระนั้น พระองค์ก็อยู่กับเราในการต่อสู้และการรอคอย ซึ่งหมายความว่าสามารถมีความยินดีได้แม้ในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะพระองค์เป็นที่ที่ความยินดีอยู่!

คำถาม

1.   การต่อสู้กับการไม่เชื่อฟัง: ในอพยพบทที่ 7-9 มีการบรรยายถึงการขึ้นไปต่อต้านฟาโรห์และเห็นการอัศจรรย์หลายอย่างที่พระเจ้าทรงกระทำ เพื่อที่ฟาโรห์จะปล่อยชาวอิสราเอล อะไรคือบทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความไม่เชื่อฟังในชีวิตของเรา? ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราสามารถใช้บทเรียนนี้ในการช่วยให้คนรอบข้างเปิดใจและเชื่อในพระเจ้าได้อย่างไร?

2.   ผลของการเลือกและผลกระทบที่ตามมา: พระเจ้าใช้เหตุการณ์ต่างๆ เช่น การลงโทษและการอัศจรรย์ในการเปิดเผยอำนาจของพระองค์ในอพยพบทที่ 7-9 ฟาโรห์เลือกที่จะไม่ฟัง ซึ่งสร้างผลกระทบต่อทั้งตัวเขาเองและประชาชนของเขา ในปัจจุบันมีอะไรบ้างที่เรามักเผชิญกับทางเลือกที่มีผลกระทบต่อตนเองหรือครอบครัว? การทำสิ่งที่ถูกต้องสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและสภาพแวดล้อมของเราได้อย่างไร?

 

 

 

ภัยพิบัติสิบประการ เป็นการลงโทษที่พระเจ้าทรงกระทำต่อชาวอียิปต์ เพื่อให้พวกเขาปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาส การลงโทษเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า และเพื่อลงโทษฟาโรห์ที่ไม่ยอมปล่อยชาวอิสราเอลไป

รายละเอียดของภัยพิบัติสิบประการ

1. น้ำเป็นเลือด (อพยพ 7:14-25): แม่น้ำไนล์และแหล่งน้ำทั้งหมดในอียิปต์กลายเป็นเลือด ทำให้ปลาตายและน้ำดื่มไม่ได้

2. กบ (อพยพ 8:1-15): กบจำนวนมากแพร่หลายไปทั่วอียิปต์ สร้างความเดือดร้อนและรำคาญ

3. ริ้น (อพยพ 8:16-19): ฝุ่นละอองกลายเป็นริ้นรบกวนทั้งคนและสัตว์ ทำให้เกิดอาการคันและเป็นผื่น

4. แมลงวัน (อพยพ 8:20-32): ฝูงแมลงวันจำนวนมากตอมกัดสร้างความรำคาญและนำโรคมา

5. โรคระบาดในปศุสัตว์ (อพยพ 9:1-7): สัตว์เลี้ยงของชาวอียิปต์ล้มตายเป็นจำนวนมาก

6. ฝี (อพยพ 9:8-12): ผู้คนและสัตว์เลี้ยงเป็นฝีร้าย ทำให้เกิดความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน

7. ลูกเห็บ (อพยพ 9:13-35): พายุลูกเห็บรุนแรงทำลายพืชผลและสิ่งมีชีวิต

8. ตั๊กแตน (อพยพ 10:1-20): ฝูงตั๊กแตนจำนวนมากกัดกินพืชผลจนหมดสิ้น ทำให้เกิดความอดอยาก

9. ความมืด (อพยพ 10:21-29): ความมืดมิดปกคลุมทั่วอียิปต์เป็นเวลาสามวัน ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นกันได้

10. การตายของบุตรหัวปี (อพยพ 11:1-12:30): บุตรหัวปีของชาวอียิปต์ทุกคนเสียชีวิต รวมทั้งบุตรของฟาโรห์

ผลกระทบ

ภัยพิบัติเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชาวอียิปต์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ ทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ในที่สุด ฟาโรห์ก็จำต้องปล่อยชาวอิสราเอลไป

ข้อคิดที่ได้

เรื่องราวของภัยพิบัติสิบประการสอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการเชื่อฟังและทำตามพระเจ้า รวมถึงความยุติธรรมและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงผลกระทบของการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และความสำคัญของการกลับใจ