Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 10

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 11

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
อพยพ 12

เรื่องย่อ

ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุด ฟาโรห์ที่ดื้อรั้นถึงขีดสุด ยังคงปฏิเสธที่จะปล่อยชาวอิสราเอลไป แม้จะเผชิญกับภัยพิบัติที่รุนแรง พระเจ้าจึงทรงส่งภัยพิบัติครั้งสุดท้าย การสังหารบุตรหัวปีของอียิปต์! ความหวาดกลัวแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน ขณะที่ชาวอิสราเอลได้รับการปกป้อง ความตายมาเยือนทุกบ้านในอียิปต์ บีบบังคับให้ฟาโรห์ยอมจำนน และสั่งให้ชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์โดยเร็วที่สุด ด้วยความเร่งรีบและความหวาดกลัว พวกเขาเดินทางออกจากอียิปต์ พร้อมกับความหวังและความตื่นเต้น ท่ามกลางการเร่งรีบ พระเจ้าทรงกำหนดพิธีปัสกา เป็นการระลึกถึงการช่วยเหลือครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ การเดินทางครั้งสำคัญจึงเริ่มต้นขึ้น นำไปสู่การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และการพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

 


พระเจ้าทรงเปิดเผยว่าการทำให้ใจของฟาโรห์แข็งกระด้างเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพระองค์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ แม้จะดูเหมือนเป็นการกระทำที่ไม่ยุติธรรม แต่พระเจ้าทรงใช้ความดื้อรั้นของฟาโรห์ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือการปลดปล่อยชาวอิสราเอล และการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระองค์ต่อทั้งชาวอิสราเอลและชาวอียิปต์ ความจริงนี้เป็นความลึกลับ และอาจเข้าใจยาก แต่เป็นส่วนสำคัญในเรื่องราวทั้งหมด

พระเจ้าทรงมีอำนาจเหนือจิตใจของมนุษย์ พระองค์ทรงสามารถทำให้ใจแข็งกระด้าง หรือทำให้ใจอ่อนลงได้ ตามพระประสงค์ของพระองค์ ความสามารถนี้ อาจดูน่ากลัว แต่ควรเป็นการปลอบโยน เพราะแสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระเจ้า ในการช่วยเหลือ และการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คน แม้ผู้ที่ต่อต้านพระองค์อย่างแข็งขัน เช่น อัครสาวกเปาโล ก็ยังได้รับการเปลี่ยนแปลง พระเจ้าทรงไม่ทรงละทิ้งใคร และไม่มีใครอยู่เหนือการเข้าถึงของพระองค์

ภัยพิบัติต่างๆ ที่พระเจ้าทรงส่งลงมา นำไปสู่การปลดปล่อยชาวอิสราเอล จากการเป็นทาส และการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกา ซึ่งเป็นการระลึกถึงการช่วยเหลือครั้งยิ่งใหญ่ และการแสดงให้เห็นถึงความรัก และการปกป้องของพระเจ้า แม้ว่าฟาโรห์จะขอประนีประนอม แต่ก็ไม่เคยจริงใจ และใจของเขายังคงแข็งกระด้าง จนกระทั่งถึงภัยพิบัติครั้งสุดท้าย การอพยพของชาวอิสราเอล ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยจากการเป็นทาส และความหวัง สำหรับผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง ตลอดกาล

 

ข้อคิด: อพยพ 10-12

พระเจ้าช่วยชีวิตชาวอิสราเอล แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ชาวอียิปต์ต้องเจ็บปวด เพื่อให้เรามีอิสระ พระองค์ได้สละพระบุตรของพระองค์เอง เราไม่สามารถชดใช้บาปของเราได้เองและต้องการการช่วยกู้ที่สมบูรณ์จากพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แล้ว ผ่านแผนการนี้ พระองค์ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับเรา โดยเราต้องการพระบิดาผู้เป็นพระเจ้าในการเริ่มต้น พระบุตรผู้เป็นพระเจ้าเพื่อเป็นผู้นำการคืนดี และพระวิญญาณผู้เป็นพระเจ้าที่จะเสริมกำลังเรา แผนการนี้คือหนทางที่เราจะกลับมารวมเป็นหนึ่งกับพระองค์ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่เป็นที่มาของความยินดีในชีวิตของเรา!

คำถาม

1.   การตอบสนองต่อความยากลำบาก: ในบทที่ 10 พระเจ้าส่งภัยพิบัติไปยังอียิปต์เพื่อตักเตือนฟาโรห์และส่งเสริมให้เขาปล่อยชาวอิสราเอล ในชีวิตปัจจุบัน เมื่อเราต้องเผชิญกับความยากลำบากหรือสถานการณ์ที่ท้าทาย เราควรมีวิธีการตอบสนองอย่างไรเพื่อให้เกิดการเติบโตและความเข้าใจที่ดีขึ้น? ความยากลำบากสามารถเป็นโอกาสในการเรียนรู้ได้อย่างไร?

2.   การเลือกทางเลือกที่ถูกต้อง: ในบทที่ 12 มีการสั่งให้ชาวอิสราเอลทำพิธีปัสกา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้าเพื่อให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือและรอดพ้นจากอันตราย ในบริบทของชีวิตปัจจุบัน เราจะทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะเลือกทางเลือกที่ถูกต้องในขณะที่เผชิญกับแรงกดดันจากสังคมหรือความคาดหวังของผู้อื่น? การมีจริยธรรมและหลักการในการตัดสินใจมีความสำคัญอย่างไร?

 

 

 

เทศกาลปัสกา (Passover) เป็นเทศกาลสำคัญของศาสนายิว ที่ระลึกถึงเหตุการณ์การอพยพของชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของชาวยิว โดยมีการเฉลิมฉลองเป็นเวลา 7 หรือ 8 วัน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

คำว่า "ปัสกา" (Passover) มาจากภาษาฮีบรู "Pesach" ซึ่งหมายถึง "การผ่านไป" ซึ่งหมายถึงการที่พระเจ้าได้ทรง "ผ่านเลยไป" บ้านของชาวอิสราเอลที่ทาเลือดลูกแกะไว้ที่วงกบประตู และทรงลงโทษบุตรหัวปีของชาวอียิปต์

ที่มาและความสำคัญ

  • การเป็นทาสในอียิปต์: ชาวอิสราเอลต้องทนทุกข์กับการเป็นทาสในอียิปต์เป็นเวลาหลายร้อยปี พวกเขาถูกกดขี่และใช้งานอย่างหนัก
  • การอพยพ: พระเจ้าทรงส่งโมเสสมานำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ โดยมีการลงโทษชาวอียิปต์ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ จนกระทั่งฟาโรห์ยอมปล่อยชาวอิสราเอลไป
  • ปัสกา: คืนก่อนการอพยพ พระเจ้าได้สั่งให้ชาวอิสราเอลฆ่าลูกแกะและนำเลือดมาทาที่วงกบประตู เพื่อเป็นเครื่องหมายให้ทูตแห่งความตาย "ผ่านเลยไป" บ้านของพวกเขา
  • การเฉลิมฉลอง: เทศกาลปัสกาจึงเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนี้ และเป็นการเฉลิมฉลองอิสรภาพของชาวอิสราเอลจากการเป็นทาส

การปฏิบัติในเทศกาลปัสกา

  • มื้ออาหารเสดาร์ (Seder meal): เป็นมื้ออาหารพิเศษที่จัดขึ้นในคืนแรกของเทศกาลปัสกา มีการอ่านเรื่องราวการอพยพ และรับประทานอาหารที่เป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ขนมปังไร้เชื้อ (Matzah) ผักขม (Maror) และเนื้อแกะ (Zeroa)
  • การละเว้นอาหาร: ในช่วงเทศกาลปัสกา ชาวอิสราเอลจะงดรับประทานอาหารที่มีเชื้อ เช่น ขนมปัง และผลิตภัณฑ์จากธัญพืช
  • การเล่าเรื่องราว: การเล่าเรื่องราวการอพยพจากอียิปต์เป็นส่วนสำคัญของเทศกาลปัสกา เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และจดจำเหตุการณ์สำคัญนี้

ในคริสต์ศาสนา เทศกาลปัสกามีความหมายพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่พระเยซูคริสต์ทรงรับประทานอาหารปัสกาครั้งสุดท้ายกับสาวกของพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะถูกจับกุมและตรึงกางเขน อาหารปัสกานี้เป็นสัญลักษณ์ของพระกายและพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ ซึ่งถูกใช้ในพิธีมหาสนิท