เรื่องย่อ

พระธรรมกันดารวิถีบทที่ 18-20  กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของเหล่าปุโรหิตและคนเลวี  การจัดสรรส่วนแบ่งสำหรับการดำรงชีวิต  และการเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ของชาวอิสราเอล  บทที่ 18  อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับหน้าที่และสิทธิพิเศษของคนเลวีและปุโรหิต  บทที่ 19  กล่าวถึงพิธีกรรมการชำระล้างความไม่บริสุทธิ์  และบทที่ 20  เล่าถึงการขาดแคลนน้ำที่เมืองกาเดช  และการต่อต้านของโมเสส  ซึ่งนำไปสู่การที่โมเสสไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่แผ่นดินคานาอัน  บทเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการจัดระเบียบทางสังคมและศาสนา  ความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมาย  และความท้าทายที่ชาวอิสราเอลต้องเผชิญ  ทั้งในด้านการจัดการทรัพยากรและการเชื่อฟังพระเจ้า

เมื่อวานนี้ พระเจ้าได้รับรองบทบาทของอาโรนในฐานะมหาปุโรหิต และวันนี้ พระองค์ทรงพูดกับอาโรนโดยตรงเกี่ยวกับวิธีการดูแลพลับพลา ซึ่งเป็นเรื่องที่หายาก พระเจ้าชี้แจงว่าปุโรหิตต้องเฝ้าพลับพลาด้านในใกล้กับภาชนะศักดิ์สิทธิ์ ส่วนชาวเลวีจะเฝ้าพลับพลาด้านนอก หากชาวเลวีเข้ามาในส่วนที่สงวนไว้สำหรับปุโรหิต พวกเขาจะต้องรับโทษจากพระเจ้า นอกจากนี้ พระองค์ยังเปิดเผยว่าชาวเลวีจะไม่มีมรดกหรือที่ดินในอิสราเอล แต่จะได้รับการสนับสนุนจากการถวายทศางค์จากเผ่าอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

ในบทที่ 19 พระเจ้าทรงกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับความตาย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในค่ายและการเสียชีวิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ชาวอิสราเอลต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินในถิ่นถุระกันดาร ขณะที่พวกเขาเผชิญกับความขาดแคลนน้ำ โมเสสและอาโรนได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้ปล่อยน้ำออกจากก้อนหิน แต่โมเสสกลับตีหินสองครั้งแทนที่จะพูดตามคำสั่ง พระเจ้าบอกว่าเพียงแค่พูดเท่านั้น

เมื่อโมเสสไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า ผลที่เกิดขึ้นทำให้เขาและอาโรนถูกลงโทษห้ามไม่ให้เข้าสู่ดินแดนคานาอัน ทำให้ชาวอิสราเอลต้องเดินทางผ่านเอโดม โดยมีความตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติแผนของพระเจ้า ในขณะเดียวกัน เมื่ออาโรนเสียชีวิต ลูกชายของเขา เอเลอาซาร์ จะได้รับตำแหน่งนี้เป็นมหาปุโรหิตสืบต่อจากเขาและจะรับผิดชอบต่อการบริหารในพลับพลา และเพื่อดูแลการนมัสการของประชาชนต่อพระเจ้า ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญต่อการรักษาความสัมพันธ์กับพระองค์.

ข้อคิด: กันดารวิถี 18-20

อุปนิสัยของพระเจ้ามีความสม่ำเสมอมาก โดยเราเห็นว่าพระองค์วางกฎเกณฑ์และประชากรของพระองค์ไม่เชื่อฟัง ในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับผลของบาป พระองค์ก็ยังทรงมีเมตตา ตั้งแต่การให้เสื้อผ้าแก่ อาดัมและเอวาขณะขับไล่พวกเขาออกจากสวนเอเดน ไปจนถึงการที่ส่งโมเสสเป็นผู้นำประชาชนแม้จะไม่ให้เขาเข้าคานาอัน พระเจ้าทรงเรียกคนบาปเข้าสู่ครอบครัวของพระองค์และใช้สิ่งที่พระองค์มี ความเมตตาของพระองค์เป็นการปลอบโยนเมื่อเรารู้ถึงความชั่วร้ายในใจของเรา และปัญญาที่พระองค์ประทานให้กับเราก็เพียงพอที่จะทำให้เราตระหนักว่าพระองค์อยู่ที่ซึ่งความชื่นชมยินดี!

คำถาม

1.   บทบาทของการถวายและการรับผิดชอบ: ในกันดารวิถี 18 มีการพูดถึงการถวายและบทบาทของคนเลวีในการรับผิดชอบต่อการรับใช้ คุณคิดว่าการมีระบบการจัดการและการแบ่งปันทรัพยากรในคริสตจักรปัจจุบันมีความสำคัญต่อการสร้างคริสตจักรที่เข้มแข็งอย่างไร? และเราจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการแบ่งปันและความรับผิดชอบต่อกันได้อย่างไร?

2.   การเผชิญหน้ากับความท้าทายและการเลือกทางที่ถูกต้อง: ในกันดารวิถี 20 เราเห็นโมเสสเผชิญกับความท้าทายในการนำพาคนอิสราเอลสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา คุณคิดว่าการตัดสินใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากมีบทบาทอย่างไรในชีวิตของเราในปัจจุบัน? และเมื่อเผชิญกับความท้าทาย เราจะสร้างความมั่นใจในตัวเองและเลือกทางที่ถูกต้องได้อย่างไร?

เอเลอาซาร์: ผู้สืบทอดตำแหน่งมหาปุโรหิต

เอเลอาซาร์ (אֶלְעָזָר) มีความหมายในภาษาฮีบรูว่า "พระเจ้าทรงช่วย" หรือ "พระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ" เอเลอาซาร์เป็นบุตรชายของอาโรน ซึ่งเป็นมหาปุโรหิตของอิสราเอล เอเลอาซาร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นปุโรหิตพร้อมกับบิดาและพี่น้องของเขา (อพยพ 28:1) เขาได้ปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตหลายอย่าง เช่น ดูแลพลับพลา ถวายเครื่องบูชา สอนธรรมบัญญัติ และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ

การเรียนรู้จากโมเสสและอาโรน

เอเลอาซาร์ได้เติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแลของโมเสสและอาโรน ซึ่งเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล เขาได้เรียนรู้จากพวกเขาในหลายๆ ด้าน เช่น

• ความเชื่อฟัง: เอเลอาซาร์ได้เห็นแบบอย่างของโมเสสและอาโรนในการเชื่อฟังพระเจ้าอย่างเคร่งครัด
• ความรับผิดชอบ: เขาได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของตน
• การเป็นผู้นำ: เอเลอาซาร์ได้เห็นวิธีการเป็นผู้นำของโมเสสและอาโรน ซึ่งเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมีปัญญา

การเรียนรู้จากโยชูวา

หลังจากที่โมเสสเสียชีวิต โยชูวาได้เป็นผู้นำของอิสราเอล เอเลอาซาร์ยังคงรับใช้พระเจ้าในฐานะปุโรหิต และได้เรียนรู้จากโยชูวาในด้านต่างๆ เช่น

• ความกล้าหาญ: โยชูวาเป็นผู้นำที่กล้าหาญและเข้มแข็ง เอเลอาซาร์ได้เรียนรู้จากเขาในเรื่องนี้
• การพึ่งพาพระเจ้า: โยชูวาเป็นคนที่พึ่งพาพระเจ้าในการนำอิสราเอล เอเลอาซาร์ได้เห็นแบบอย่างของเขาและเรียนรู้ที่จะพึ่งพาพระเจ้าเช่นกัน

การเป็นผู้นำที่ดี

เมื่ออาโรนเสียชีวิต เอเลอาซาร์ได้สืบทอดตำแหน่งมหาปุโรหิตต่อจากเขา เขาได้นำสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของเขาอย่างดีเยี่ยม เขายังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า รับผิดชอบในหน้าที่ของตน และเป็นผู้นำที่ดีให้กับชนอิสราเอล

บทเรียนจากเอเลอาซาร์

ชีวิตของเอเลอาซาร์เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเราในเรื่องต่างๆ ดังนี้

• การเรียนรู้จากผู้อื่น: เราควรเรียนรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้มากกว่าเรา
• การเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี: การเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีจะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเอง
• การเป็นผู้นำที่ดี: การเป็นผู้นำที่ดีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ และพึ่งพาพระเจ้า