เรื่องย่อ
พระธรรมกันดารวิถีบทที่ 33-34 บันทึกการเดินทางของชาวอิสราเอลจากอียิปต์สู่โมอับ และการกำหนดเขตแดนของแผ่นดินคานาอัน บทที่ 33 เป็นรายการสถานที่ต่างๆ ที่ชาวอิสราเอลตั้งค่าย เป็นการบันทึกการเดินทางอันยาวนานและยากลำบาก ซึ่งสะท้อนถึงการดูแลและการนำทางของพระเจ้า ในขณะที่บทที่ 34 อธิบายถึงการกำหนดเขตแดนของแผ่นดินคานาอัน โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับพิกัดและจุดสำคัญต่างๆ ซึ่งแสดงถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการแบ่งปันที่ดินและการตั้งถิ่นฐาน บทเหล่านี้จึงเป็นการสรุปการเดินทางอันยาวนาน และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้
วันนี้ โมเสสได้เล่าถึงสถานที่ต่างๆ ที่ชาวอิสราเอลเคยตั้งแคมป์ ซึ่งช่วยยืนยันความเป็นจริงของพระคัมภีร์ รายการนี้ทำให้เราเห็นว่าผู้เขียนไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมา แต่เป็นการบันทึกการเดินทางที่ยาวนานถึง 40 ปี ซึ่งในบางครั้งใช้เวลาเพียง 11 วันเท่านั้น โมเสสจึงไม่มีเจตนาที่จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ของตนเองเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
ในตอนท้ายของบทที่ 33 พระเจ้าทรงสั่งให้โมเสสสอนผู้คนเกี่ยวกับการข้ามแม่น้ำจอร์แดน โดยต้องขับไล่ชนชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้และทำลายแท่นบูชาและรูปเคารพของพวกเขา สิ่งนี้สำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนของพระเจ้าหลงผิดและเกิดการลงโทษ หากพวกเขาไม่กำจัดทุกอย่างให้สิ้นซาก พระเจ้าทรงทราบดีว่าใจมนุษย์อาจถูกล่อลวงได้ง่ายเพียงใด
บทที่ 34 คือการกำหนดขอบเขตของดินแดนแห่งพันธสัญญาเป็นครั้งแรก โดยดินแดนนี้มักถูกเรียกว่าคานาอัน มีบางสถานที่ที่เป็นที่รู้จักอย่างทะเลเกลือ หรือทะเลเดดซี ที่มีความเค็มสูงมากจนไม่มีชีวิตใดอาศัยอยู่ และทะเลใหญ่ ซึ่งคือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ ในดินแดนนี้ยังมีการตั้งรกรากของชาวอิสราเอลในพื้นที่ที่ไม่ได้รับการสัญญาไว้ รวมถึงชนเผ่าทรานส์จอร์แดน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชาวอิสราเอลไม่ได้ครอบครองดินแดนทั้งหมดตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้.
ข้อคิด: กันดารวิถี 33-34
พระยาเวห์ทรงเหนือกว่าพระเจ้าอื่น ๆ ทั้งหมด ตามที่โมเสสกล่าวว่า ชาวอิสราเอลออกไปอย่างมีชัยชนะต่อหน้าชาวอียิปต์ ในขณะที่พระเจ้าทรงพิพากษาพระเจ้าของพวกเขา พระองค์ไม่เคยปฏิเสธว่ามีพระเจ้าอื่น แต่ยืนยันว่าพระองค์เหนือกว่าทุกพระเจ้า พระองค์เป็นกษัตริย์ของกษัตริย์และพระเจ้าของเทพเจ้าที่แท้จริง ในพระบัญญัติสิบประการ พระองค์ตรัสว่า "อย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา" หมายความว่าเราควรให้ความสำคัญแก่พระองค์เพียงผู้เดียว สิ่งที่เราบูชานั้นอาจเป็นพระเจ้าหรือรูปเคารพปลอมได้ และยังมีวิญญาณชั่วหรือซาตานที่ควบคุมศาสนาอื่น ๆ เช่น พระบาอัลและพระโมเลค พวกเขาไม่สามารถเทียบเคียงกับพระองค์ได้ ซึ่งพระยาเวห์คือพระเจ้าองค์เดียวที่แท้จริง ที่มาพร้อมกับความรักและการปกป้องที่ยิ่งใหญ่ พระองค์คือที่ที่ความปีติยินดีมีอยู่
คำถาม
1. การสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา: ในกันดารวิถี 33 มีการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางของชนอิสราเอลตลอด 40 ปีในถิ่นทุระกันดาร คุณคิดว่าการสะท้อนถึงประสบการณ์ในอดีตนั้นมีความสำคัญอย่างไรในการเติบโตและพัฒนาตนเองในปัจจุบัน? และเราจะสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีในชีวิตของเราได้อย่างไรบ้าง?
2. การมอบหมายหน้าที่และการปฏิบัติ: ในกันดารวิถี 34 พระเจ้าทรงกำหนดเขตแดนและแนวทางสำหรับการจัดการดินแดนใหม่ คุณคิดว่าในชีวิตปัจจุบัน การมอบหมายหน้าที่และการขอบคุณในบทบาทแต่ละอย่างในคริสตจักรมีความสำคัญอย่างไร? และเราจะสามารถสร้างความร่วมมือและการแบ่งปันความรับผิดชอบได้อย่างไร?
การแบ่งสรรเขตแดนคานาอัน เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหลังจากที่ชนชาติอิสราเอลได้เข้ายึดครองแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเป็นดินแดนที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
การแบ่งสรรที่ดิน
หลังจากที่โยชูวาผู้นำของอิสราเอลได้นำชนชาติอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินคานาอันและเอาชนะชนพื้นเมืองได้แล้ว ก็ได้มีการแบ่งสรรที่ดินให้กับแต่ละเผ่าของอิสราเอล โดยมีหลักเกณฑ์ในการแบ่งดังนี้:
- ขนาดของเผ่า: เผ่าที่มีประชากรมากก็จะได้รับที่ดินมาก ส่วนเผ่าที่มีประชากรน้อยก็จะได้รับที่ดินน้อย
- ลักษณะของที่ดิน: ที่ดินแต่ละส่วนก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไป เช่น บางส่วนเป็นที่ราบอุดมสมบูรณ์ บางส่วนเป็นภูเขา หรือบางส่วนเป็นทะเลทราย
- การจับฉลาก: เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแบ่งสรรที่ดิน จึงมีการจับฉลากเพื่อกำหนดว่าแต่ละเผ่าจะได้รับที่ดินส่วนไหน
ผู้ที่ได้รับที่ดิน
ชนชาติอิสราเอลมีทั้งหมด 12 เผ่า แต่มีเพียง 9 เผ่าที่ได้รับที่ดินในคานาอัน ส่วนอีก 3 เผ่าคือ เผ่าเลวี เผ่าโยเซฟ และเผ่าดาน ไม่ได้รับที่ดิน
- เผ่าเลวี: เนื่องจากเผ่าเลวีมีหน้าที่รับใช้พระเจ้าในพลับพลา จึงไม่ได้รับที่ดิน แต่จะได้รับเมืองต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วแผ่นดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
- เผ่าโยเซฟ: เนื่องจากโยเซฟมีบุตรชาย 2 คนคือ เอฟราอิมและมนัสเสห์ ดังนั้นทั้ง 2 เผ่านี้จึงได้รับที่ดิน
- เผ่าดาน: ในช่วงแรกเผ่าดานได้รับที่ดินทางชายฝั่งทะเล แต่ต่อมาพวกเขาได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานใหม่ทางตอนเหนือของอิสราเอล
ความสำคัญของการแบ่งสรรที่ดิน
การแบ่งสรรที่ดินในคานาอันมีความสำคัญหลายประการ
- การรักษาสัญญา: เป็นการรักษาสัญญาที่พระเจ้าได้ทรงให้ไว้กับบรรพบุรุษของชนชาติอิสราเอลว่าจะให้แผ่นดินคานาอันเป็นมรดกของพวกเขา
- การจัดระเบียบสังคม: ช่วยให้ชนชาติอิสราเอลมีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินอย่างเป็นระเบียบ
- การสร้างความเป็นปึกแผ่น: ช่วยสร้างความเป็นปึกแผ่นและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในหมู่ชนชาติอิสราเอล
บทเรียนจากเรื่องราวการแบ่งสรรที่ดิน
เรื่องราวการแบ่งสรรที่ดินในคานาอันสอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของ
- การรักษาสัญญา: เราควรให้ความสำคัญกับการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผู้อื่น
- ความยุติธรรม: เราควรปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างยุติธรรมและเสมอภาค
- การแบ่งปัน: เราควรแบ่งปันสิ่งที่เรามีให้กับผู้อื่นที่ขาดแคลนกว่าเรา