เรื่องย่อ

ในบทเริ่มต้นของ 1 พงศาวดาร บทที่ 1-2 เปิดฉากด้วยการบันทึกสกุล และรายชื่อตระกูลของอิสราเอล เริ่มตั้งแต่ อาดัม จนถึงบรรพบุรุษที่สำคัญ เช่น อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของสายเลือดและการสืบต่อประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอลในพระดวงใจของพระเจ้า รายชื่อเผ่าต่างๆ ยังบ่งบอกถึงการเลือกสรรและพระพรที่พระเจ้าได้ประทานให้กับอิสราเอล ในบทที่ 2 ได้เน้นย้ำถึงสายตระกูลของดาวิด ตั้งแต่โบอาสและรูธ สื่อถึงการมาถึงของราชวงศ์ที่สำคัญซึ่งจะนำไปสู่การขึ้นครองราชย์ของดาวิด การบันทึกนามและประวัติศาสตร์ในพงศาวดารนี้ไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าความเป็นมา แต่ยังเป็นการตอกย้ำความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และการรักษาความเชื่อของอิสราเอลในพระเจ้าผู้สร้าง ทำให้เห็นถึงแผนการที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ส่งผลต่อชนชาติและโลกในอนาคต

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะมาพูดถึงหนังสือและพงศาวดารสองเล่มที่เคยเป็นหนึ่งเดียว แต่ถูกแยกออกเพราะความยาว หนังสือทั้งสองเล่มมีจุดมุ่งหมายเพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ของอิสราเอล หนังสือเล่มแรกเริ่มที่จุดแรกสุดของอิสราเอล คือชื่อของอาดัม การทบทวนนี้จะช่วยให้เราจำเรื่องราวได้ดีขึ้น แม้เนื้อหาบางส่วนอาจซ้ำซาก แต่การทำซ้ำจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มันยังเตือนให้เรามองหาพระเจ้าในทุกๆ วัน แม้ในสิ่งที่ดูคุ้นเคย

พงศาวดารเพิ่มสิ่งที่น่าสนใจให้กับเรื่องราว ด้วยการรวมเหตุการณ์ที่ไม่มีในหนังสืออื่นๆ โดยทั่วไปแล้ว พงศาวดารจะมีเนื้อหาในเชิงบวกมากกว่า ซึ่งอาจทำให้ดูเหมือนมีความลำเอียง แต่พระเจ้ายังได้ประทานหนังสืออื่นๆ เพื่อให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น บางครั้งการอ่านพงศาวดารและหนังสืออื่นๆ ควบคู่กันไปจะช่วยเผยรายละเอียดใหม่ๆ ที่ไม่ปรากฏในอีกเล่มหนึ่งและเสริมความเข้าใจในเนื้อหาที่เราอ่าน

การอ่านลำดับวงศ์ตระกูลของอิสราเอลแม้อาจไม่ใช่เรื่องสนุกเสมอไป แต่การใช้เครื่องมือช่วยอ่าน เช่น แอพพระคัมภีร์ สามารถช่วยได้ ลำดับวงศ์ตระกูลมีข้อมูลที่สำคัญ เช่น เรื่องราวของนิมโรดที่เป็นนักล่าผู้กล้าหาญในยุคแรก หรือ เปเลก ที่อาจเกี่ยวข้องกับการแบ่งแยกของโลก นักวิชาการยังคงถกเถียงถึงความหมายเหล่านี้ บทต่อไปยังเข้าไปในรายละเอียดเกี่ยวกับเผ่ายูดาห์และราชวงศ์อิสราเอล เช่น เรื่องราวของอาคานที่สร้างปัญหาให้กับอิสราเอลด้วยการกระทำของเขาในโยชูวา 7 เรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงแต่บันทึกประวัติศาสตร์ แต่ยังเตือนให้เราตระหนักถึงผลของการกระทำต่างๆ ในชีวิตประจำวันด้วย

ข้อคิด: 1พงศาวดาร 1-2

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตของชายสามคนนี้เผยให้เห็นเกี่ยวกับพระเจ้ามากขึ้นสำหรับเราในวันนี้ ในสามคนนี้ เรามีใครบางคนที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการยกย่อง—นิมโรดนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ ใครบางคนที่ระบุตัวตนได้จากสิ่งต่างๆ รอบตัวเขามากกว่าสิ่งที่เขาทำด้วยตัวเอง—เปเลกผู้เงียบขรึม และใครบางคนที่รู้จักว่านำปัญหาและความตายมาสู่ผู้คนของพระเจ้าด้วยการบูชารูปเคารพ—อาคาน พระเจ้าทรงใช้เรื่องราวทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ไปจนถึงเรื่องราวที่น่ากลัว ไปจนถึงบุคคลที่ไม่เคยทำอะไรที่สำคัญในประวัติศาสตร์เลย เราทุกคนล้วนถูกเขียนไว้ในเรื่องราวการไถ่บาปของพระองค์ พระองค์มองเห็นเราทุกคน และลำดับวงศ์ตระกูลเตือนเราถึงเรื่องนั้น เรื่องราวเหล่านี้อาจน่าเบื่อ แต่พระองค์ไม่ใช่ พระองค์อยู่ที่ซึ่งความปีติยินดีอยู่!

คำถาม

1.   ความสำคัญของสายตระกูลและประวัติศาสตร์ครอบครัว: บทที่ 1-2 ของ 1 พงศาวดารให้รายละเอียดเกี่ยวกับสายตระกูลและบรรพบุรุษ คุณคิดว่าการรู้จักประวัติศาสตร์และสายตระกูลของเราเองมีความสำคัญอย่างไร? มันสามารถช่วยส่งเสริมความเข้าใจในตัวตนของเราได้อย่างไรบ้าง?

2.   ความหมายของการสืบทอดและการรับผิดชอบ: การบันทึกในบทเหล่านี้แสดงถึงการส่งต่อมรดกทางวิญญาณและวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น คุณคิดว่าเราในยุคปัจจุบันสามารถสร้างการสืบทอดที่มีความหมายต่อลูกหลานของเราได้อย่างไร? ภาระความรับผิดชอบในการสร้างอนาคตที่ดีให้กับคนรุ่นถัดไปคืออะไรและเราจะเริ่มต้นได้อย่างไร?

นิมโรด נִמְרוֹד (ออกเสียงว่า Nimrod) ปรากฏในพระธรรมปฐมกาล บทที่ 10 ข้อ 8-12 และ 1 พงศาวดาร บทที่ 1 ข้อ 10 นิมโรดเป็นบุตรของคูช หลานของฮาม และเหลนของโนอาห์ พระคัมภีร์บรรยายว่าเขาเป็น "นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่อหน้าพระเจ้า" และ "เป็นคนแรกในโลกที่กลายเป็นคนมีอำนาจ" อาณาจักรของเขาเริ่มต้นที่บาเบล เอเรค อัคคัด และคาลเนห์ ในดินแดนชินาร์ ต่อมาเขาได้สร้างเมืองนีนะเวห์ เรโหโบท-อีร์ คาลาห์ และเรเซน

แม้ว่าพระคัมภีร์จะกล่าวถึงนิมโรดเพียงสั้นๆ แต่ตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับเขาก็มีมากมาย ในธรรมเนียมของชาวยิวและคริสเตียน นิมโรดมักถูกมองว่าเป็นผู้นำในการสร้างหอบาเบล ซึ่งเป็นการกระทำที่ท้าทายพระเจ้า อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุโดยตรงว่านิมโรดเป็นผู้สร้างหอแห่งนี้

สิ่งที่เรื่องราวของนิมโรดสอนเรา:

• อันตรายของความทะเยอทะยานที่ไม่ได้รับการควบคุม: นิมโรดมีความทะเยอทะยานที่จะสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ซึ่งนำไปสู่การท้าทายพระเจ้าและความแตกแยกของผู้คน
• ความสำคัญของการเชื่อฟังพระเจ้า: การกระทำของนิมโรดขัดต่อพระบัญชาของพระเจ้าที่ให้มนุษย์ทวีจำนวนและแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดินโลก การไม่เชื่อฟังนำมาซึ่งความสับสนและการแตกกระเจิง
• ความภาคภูมิใจนำไปสู่ความล่มจม: ความปรารถนาที่จะ "สร้างชื่อเสียง" ให้กับตนเอง แทนที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า เป็นตัวอย่างของความภาคภูมิใจที่นำไปสู่ความล้มเหลว
• อำนาจและความแข็งแกร่งต้องใช้อย่างระมัดระวัง: นิมโรดเป็น "นักล่าผู้ยิ่งใหญ่" และ "คนมีอำนาจ" แต่เขาใช้อำนาจนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ของตนเอง แทนที่จะรับใช้พระเจ้าและผู้อื่น

เรื่องราวของนิมโรดเป็นเครื่องเตือนใจถึงอันตรายของการให้ความสำคัญกับความทะเยอทะยานส่วนตัวเหนือกว่าพระเจ้าและการเชื่อฟังพระองค์ สอนให้เราใช้ความสามารถและอำนาจที่เรามีเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าและช่วยเหลือผู้อื่น