เรื่องย่อ
ในพระธรรมสดุดี 108-110 เราได้เห็นภาพของความเชื่อมั่นในพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง พระสดุดี 108 ย้ำถึงความมั่นใจในพระเจ้าทรงเป็นที่พึ่งและพระผู้ช่วยให้รอดที่สามารถทำให้เราชนะศัตรู ขณะที่สดุดี 109 แสดงให้เห็นถึงความอ่อนน้อมและความกล้าหาญในการอธิษฐานต่อพระเจ้า แม้ในเวลาที่รู้สึกผิดหวัง ข้อ 110 เป็นบทที่สำคัญสุด เพราะชี้ให้เห็นถึงพระคริสต์ในอนาคตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ เป็นพระกษัตริย์ผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์ทรงตั้งพระองค์บนบัลลังก์ เป็นหัวใจสำคัญของความหวังและความเชื่อในพระเจ้าที่จะทรงก้าวหน้าสู่ความสำเร็จและความรอดพ้นในทุกยุคทุกสมัย
แต่ละสิ่งที่พระเจ้าทรงวางไว้รอบเมืองเยรูซาเล็มนั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของของพระองค์ เหมือนพระเจ้ากำลังชี้ให้เห็นว่าทุกพื้นที่รอบเมือง เป็นของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นสวนผัก ดินแดนของศัตรู หรือพื้นที่อื่นๆ พระองค์ใช้บางส่วนสำหรับจุดประสงค์ที่เป็นสิ่งดี นอกจากนี้ พระองค์เป็นเจ้าของสถานที่เหล่านี้ ในขณะที่รู้ดีว่าสถานที่บางแห่งไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของพระองค์ เพื่อให้ประชาชนและอิสราเอลรู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของหัวใจและทุกสิ่งรอบตัว
ดาวิดรู้สึกว่า พระเจ้าได้ปฏิเสธพวกเขาและไม่ต่อสู้เพื่อพวกเขาอีกต่อไป เขาจึงอธิษฐานร้องขอพระเจ้าสำหรับความช่วยเหลือในสดุดี 109 โดยไม่ตอบสนองตัวเอง แต่เป็นการให้พระเจ้าทำหน้าที่ตามความยุติธรรม แม้พระเจ้าจะไม่ได้รับคำอธิษฐานทุกบรรทัดเสมอไป แต่พระองค์สามารถรับรู้ความรู้สึกของเราอย่างซื่อสัตย์และจัดการกับอารมณ์ของเราได้อย่างปลอดภัย เพราะพระองค์เป็นที่ปลอดภัยของเราในยามวิกฤต และความผิดหวังของดาวิดในเรื่องนี้ก็เกิดจากความเข้าใจผิดว่า พระเจ้าไม่สนใจประชาชนและพระองค์ไม่ได้ทำตามสัญญา ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดพระเจ้ารู้ดีที่สุดและอยู่เคียงข้างดาวิดเสมอ
บทสดุดี 110 ซึ่งกล่าวถึงพระเยซูมีความสำคัญอย่างมากในพันธสัญญาใหม่ เพราะเป็นข้อความที่พระเยซูอ้างถึงหลายครั้ง พระเยซูทรงบอกว่าข้อ 1 เกี่ยวข้องกับพระองค์ว่าพระเจ้าตรัสให้พระองค์นั่งเคียงข้างพระองค์ จนกว่าพระองค์จะทำให้ศัตรูเป็นรองเท้าของพระองค์ ซึ่งหมายถึงการพระเกียรติและอำนาจของพระเยซูที่พระเจ้ามอบให้ ในเวลาเดียวกัน เนื้อความในสดุดีนี้ยังแสดงให้เห็นว่าพระเจ้ากระทำการแม้ในเวลาที่ศัตรูรอบตัวของพระองค์เป็นฝ่ายชนะ เช่นเดียวกับในเรื่องของเอโดมที่พระเจ้าทรงแสดงอำนาจในใจกลางศัตรูของพระองค์ การผสานบทบาทของกษัตริย์และปุโรหิตเข้าด้วยกันในสถานการณ์พิเศษนี้ก็แสดงถึงความสำคัญของพระเยซูในฐานะกษัตริย์และปุโรหิตผู้ทรงสืบเชื้อสายมาจากดาวิด ซึ่งเป็นบทบาทที่ถูกรวมกันในบุคคลเดียวกัน ทำให้พระเยซูกลายเป็นพระมหาปุโรหิตในที่สุดตามคำสัญญาในพระคัมภีร์
ข้อคิด: สดุดี 108-110
สดุดี 108:12 กล่าวว่า “ความรอดของมนุษย์นั้นไร้ประโยชน์!” เรื่องนี้เป็นความจริงในหลายระดับ เราไม่สามารถฝากความหวังไว้กับคนอื่น และเราไม่สามารถฝากความหวังไว้กับตัวเองได้ เราไม่สามารถช่วยตัวเองได้ พระกิตติคุณไม่ใช่การช่วยเหลือตนเอง เราไม่สามารถทำอะไรเพื่อให้ได้รับความรอด แต่พระองค์ช่วยเรา แม้ว่าเราจะทำอย่างกล้าหาญกับพระเจ้า ข้อ 13 เตือนเราว่าแม้ว่าเราจะสู้อย่างเข้มแข็งร่วมกับพระเจ้า แต่พระองค์ก็คือผู้ที่ทำงานเพื่อเรา: “โดยพึ่งพระเจ้า เราจะสู้อย่างเข้มแข็ง พระองค์เองทรงเป็นผู้เหยียบศัตรูของเราลง” พระองค์ทรงทำสิ่งนี้ในฐานะผู้ปกป้องของเรา พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ปุโรหิตของเรา และกษัตริย์ของเรา! พระองค์คือที่ที่ความปีติยินดีอยู่!
คำถาม
1. สดุดี 108-110 เน้นความเชื่อในพระเจ้าในการทรงเสริมสร้างความกล้าหาญและความไว้วางใจในพระองค์ คุณคิดว่าเราจะสามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความกล้าหาญในชีวิตครอบครัวและคริสตจักรอย่างไร เพื่อเผชิญกับความท้าทายในยุคปัจจุบัน?
2. สดุดี 110 กล่าวถึงพระคริสต์ในฐานะพระราชาและผู้ที่จะเสด็จมาเป็นผู้พิชิตหัวใจของประชาชาติ ในบริบทของชีวิตครอบครัวและชุมชนคริสตจักร เราจะสามารถนำบทเรียนนี้ไปประยุกต์ใช้ในด้านการประกาศข่าวประเสริฐ การสร้างความหวัง และการเป็นพยานให้กับคนรอบข้างอย่างไร?
สดุดีบทที่ 108 เป็นบทเพลงสรรเสริญที่รวมเอาข้อความบางส่วนมาจากสดุดีบทที่ 57 และสดุดีบทที่ 60 เข้าไว้ด้วยกัน เป็นบทเพลงแห่งการอธิษฐานขอความช่วยเหลือและชัยชนะจากพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก และแสดงออกถึงความมั่นใจในพระองค์
ข้อคิดสำคัญจากสดุดี 108
1. การสรรเสริญพระเจ้าอย่างเต็มใจ: ดาวิดเริ่มต้นด้วยการประกาศเจตนารมณ์ที่จะสรรเสริญและขับร้องเพลงถวายพระเจ้าด้วยใจและวิญญาณทั้งหมด (สดุดี 108:1-3) นี่แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของการนมัสการที่มาจากใจจริง ไม่ใช่แค่พิธีกรรมภายนอก แต่เป็นการเทิดทูนพระเจ้าด้วยความรักและความปรารถนา
2. ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและพระเมตตาคุณ: ดาวิดประกาศถึงพระเมตตาของพระเจ้าที่สูงเทียมฟ้าและความสัตย์ซื่อของพระองค์ที่หยั่งถึงเมฆ (สดุดี 108:4-5) นี่คือการตระหนักถึง พระลักษณะอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ซึ่งเป็นรากฐานของความเชื่อมั่นในพระองค์
3. ความมั่นใจในพระสัญญาของพระเจ้า: บทเพลงนี้อ้างถึงพระสัญญาของพระเจ้าที่จะมอบชัยชนะและครอบครองเหนือดินแดนต่างๆ (สดุดี 108:7-9) ดาวิดมั่นใจว่าพระเจ้าจะนำทัพและมอบชัยชนะให้แก่เขา แม้จะเผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวง นี่คือการแสดงออกถึง ความเชื่อที่แน่วแน่ในพระคำและพระสัญญาของพระเจ้า
4. การพึ่งพาพระเจ้าไม่ใช่กำลังของมนุษย์: แม้ดาวิดจะมีกองทัพและกำลังทหาร แต่พระองค์ตระหนักว่าชัยชนะที่แท้จริงมาจากพระเจ้าเท่านั้น (สดุดี 108:10-12) "เพราะความช่วยเหลือของมนุษย์ก็ไร้ประโยชน์" ข้อคิดนี้สอนให้เรา วางใจในพระเจ้าอย่างสิ้นเชิง และไม่พึ่งพากำลัง ความสามารถ หรือทรัพยากรของมนุษย์เพียงอย่างเดียว
5. ชัยชนะมาจากพระเจ้า: ข้อสุดท้ายประกาศอย่างชัดเจนว่า "โดยพระเจ้า เราจะกระทำด้วยความกล้าหาญ เพราะพระองค์จะทรงเหยียบย่ำปฏิปักษ์ของเราทั้งหลายลง" (สดุดี 108:13) เป็นการสรุปว่า ชัยชนะที่แท้จริงและความสำเร็จสูงสุดมาจากพระเจ้าเท่านั้น
สดุดี 108 เป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจอย่างมาก สอนให้เรามองข้ามสถานการณ์ที่ยากลำบาก และมุ่งไปที่พระเจ้าผู้ทรงสามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์