เรื่องย่อ
ในพระธรรมสดุดี 111-118 เราได้เห็นความยิ่งใหญ่และพระเมตตาของพระเจ้าที่สะท้อนในพระราชกิจและความดีของพระองค์ ขอพระองค์ทรงเป็นแสงสว่าง ความสัตย์จริง และความชอบธรรมที่นำทางชีวิตของเรา จากการสรรเสริญและการอธิษฐานของดาวิด เรารู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและความหวังที่ไม่เคยล้มเหลว ความเชื่อมั่นในพระเจ้าและความศรัทธาที่แท้จริงเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาชีวิตให้พบความสุขและความสงบสุขในพระองค์ ซึ่งทุกบทกล่าวถึงความดีและความยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นเครื่องเตือนใจให้เรายึดมั่นในความเชื่อและดำเนินชีวิตด้วยความจริงใจและความไว้วางใจในพระองค์อย่างไม่หวั่นไหว
สดุดี 111:2 กล่าวว่า “งานของพระเจ้ายิ่งใหญ่ เป็นที่ศึกษาของทุกคนที่ชื่นชมยินดีในผลงานเหล่านั้น” ซึ่งหมายความว่าเราเองก็สามารถเรียนรู้และชื่นชมในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำได้เช่นกัน การชื่นชมยินดีในพระองค์ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่การดูงานของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นการใช้ชีวิตที่สะท้อนความรักและความเชื่อมั่นในพระองค์ เช่น การนมัสการ การอ่านพระคัมภีร์ หรือการรวมกลุ่มเพื่อสรรเสริญพระเจ้า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราใกล้ชิดกับพระองค์และเข้าใจพระคุณของพระองค์มากขึ้น
ความยำเกรงพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญา ตามสดุดี 111:10 ซึ่งหมายความว่าการเคารพและรักพระเจ้าจนกลายเป็นความรู้และความเข้าใจที่ดีในชีวิต หลายคนพบว่าความสุขเกิดขึ้นจากการแสวงหาพระเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ คนที่รักพระบัญญัติของพระเจ้าจะทำตามอย่างแน่วแน่ และความชอบธรรมจะเติมเต็มชีวิตของเขา เช่นเดียวกับคำว่า “ความชอบธรรมเป็นแสงนำทางในความมืด” ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าจะเสริมแสงสว่างในเวลาที่เรารู้สึกสับสนและไม่แน่นอน
นอกจากนี้ สดุดี 113 แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงอยู่สูงสุดเหนือแผ่นดินโลก แต่ในขณะเดียวกันพระองค์ก็สนใจและก้มลงดูแลเราทุกคน พระองค์ทรงยกคนยากจนและผู้ขัดสนขึ้นมาร่วมกับพระราชา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระเจ้ามีอำนาจสูงสุด แต่ก็ยังทรงใส่ใจและสนับสนุนพวกเราอย่างลึกซึ้ง พระองค์เป็นพระเจ้าเดียวและทรงรอบรู้ เต็มไปด้วยความเมตตาและพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรามีความหวังและวางใจในพระองค์อย่างมั่นคง ส่วนสดุดี 117 ก็แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงรักและซื่อสัตย์ต่อทุกประชาชาติ ไม่ใช่แค่เพียงชาวอิสราเอลเท่านั้น
ข้อคิด: สดุดี 111-118
สดุดี 118 ของวันนี้ได้บอกคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูไว้บ้าง พระเยซูทรงเรียกพระองค์เองว่า “ประตู” และตรัสว่า “ผู้ใดเข้ามาโดยทางเรา ผู้นั้นจะรอด” (ยอห์น 10:9) เมื่อผู้แต่งสดุดีพูดถึงประตูแห่งความชอบธรรม เขาหมายถึงประตูในเยรูซาเล็มอย่างแน่นอน แต่ที่นี่ยังมีคำพยากรณ์อีกชั้นหนึ่งด้วย ข้อ 20 กล่าวว่า “นี่คือประตูของพระเจ้า ผู้ชอบธรรมจะเข้าทางนี้” พระเยซูทรงเป็นทางเข้า พระองค์เป็นประตูสู่พระบิดา ข้อ 22 ยังพยากรณ์ถึงพระเยซูด้วยว่า “ศิลาที่บรรดาผู้ก่อสร้างทิ้งไปนั้นกลับกลายเป็นศิลามุมเอก” พระองค์ถูกผู้นำศาสนาในสมัยของพระองค์ปฏิเสธ แต่พระองค์เป็นรากฐานของความเชื่อของเรา ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นบนพระองค์และงานของพระองค์ และพระองค์คือรากฐานที่มั่นคงเพียงหนึ่งเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างจะพังทลาย แต่พระองค์จะมั่นคงตลอดไป เพราะพระองค์คือที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!
คำถาม
1. สดุดี 111 เน้นความยิ่งใหญ่ ความสัตย์ซื่อ และพระคุณของพระเจ้า เราจะนำบทเรียนนี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตครอบครัวและชุมชนคริสตจักรอย่างไร เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในพระเจ้าและความสุขในชีวิตประจำวัน?
2. สดุดี 112-118 เน้นความสุขและความเจริญในความเชื่อ พระคุณของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุข ความหวัง และความสุขใจในชีวิตครอบครัวและชุมชน คำสอนเหล่านี้สามารถชี้แนะแนวทางให้เราเป็นพยานในแง่ใดบ้างในยุคที่มีความท้าทายและความวุ่นวายในปัจจุบัน?
สดุดี 118 เป็นบทเพลงสรรเสริญที่เต็มไปด้วยความขอบพระคุณและความวางใจในพระเจ้า เป็นบทที่ชาวอิสราเอลใช้ร้องในเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะเทศกาลปัสกา สะท้อนถึงการช่วยกู้ของพระเจ้าจากศัตรูและความทุกข์ยาก บทเพลงนี้ยังมีการพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ด้วย
ข้อคิดสำคัญจากสดุดี 118
1. ขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระเมตตาของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์: บทเพลงเริ่มต้นและจบลงด้วยการประกาศซ้ำๆ ว่า "จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์" (สดุดี 118:1, 29) นี่คือแก่นสำคัญของบทเพลง และเป็นเครื่องเตือนใจถึง พระลักษณะของพระเจ้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือร้าย พระเมตตาและความรักของพระองค์ก็ยังคงอยู่เสมอ
2. การวางใจในพระเจ้าดีกว่าการพึ่งพามนุษย์: ดาวิด (หรือผู้ประพันธ์) ยืนยันว่า "พึ่งในพระยาห์เวห์ก็ดีกว่าวางใจในมนุษย์ พึ่งในพระยาห์เวห์ก็ดีกว่าวางใจในเจ้านาย" (สดุดี 118:8-9) นี่คือบทเรียนที่สำคัญอย่างยิ่ง ความช่วยเหลือจากมนุษย์มีจำกัด แต่การพึ่งพาพระเจ้าคือความมั่นคงที่แท้จริง
3. พระเจ้าทรงเป็นกำลังและบทเพลงแห่งชัยชนะ: ผู้ประพันธ์ประกาศว่า "พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและเป็นบทเพลงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า" (สดุดี 118:14) เมื่อเผชิญกับความยากลำบากหรือการถูกโจมตีจากศัตรู การวางใจในพระเจ้าทำให้เกิด ความมั่นใจในชัยชนะและสันติสุข ที่มาจากพระองค์
4. หินที่ช่างก่อสร้างทิ้งเสียกลับกลายเป็นศิลามุมเอก: "ศิลาซึ่งช่างก่อสร้างทิ้งเสีย ได้กลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว" (สดุดี 118:22) ข้อนี้เป็นการพยากรณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ผู้ถูกปฏิเสธโดยผู้นำศาสนาในสมัยนั้น แต่กลับกลายเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของคริสตจักร แสดงให้เห็นถึง แผนการอันอัศจรรย์ของพระเจ้า ที่สามารถนำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มาทำให้เป็นจริงและมีความสำคัญสูงสุด
5. ความยินดีในวันแห่งพระยาห์เวห์: "วันนี้เป็นวันที่พระยาห์เวห์ทรงสร้างขึ้น ให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีในวันนี้เถิด" (สดุดี 118:24) นี่คือข้อที่ทรงพลังที่เชิญชวนให้เรา ชื่นชมยินดีในทุกวัน เพราะทุกวันเป็นของขวัญจากพระเจ้า และเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นพระราชกิจของพระองค์
6. การเข้าสู่พระวิหารด้วยการขอบพระคุณ: "จงเปิดประตูแห่งความชอบธรรมให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเข้าไปในประตูเหล่านั้นเพื่อขอบพระคุณพระยาห์เวห์" (สดุดี 118:19) แสดงถึง ท่าทีแห่งการนมัสการที่ถูกต้อง คือการเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยใจที่ขอบพระคุณและสำนึกในพระคุณของพระองค์
หลักการนำมาใช้ดำเนินชีวิต
- ฝึกฝนการขอบพระคุณอย่างสม่ำเสมอ: ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จงเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเมตตาที่ดำรงเป็นนิตย์ การขอบพระคุณจะเปลี่ยนมุมมองของเรา
- วางใจในพระเจ้ามากกว่ามนุษย์: เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำ จงแสวงหาพระเจ้าเป็นอันดับแรก แม้ว่ามนุษย์จะให้ความช่วยเหลือได้ แต่ความวางใจสูงสุดควรมีต่อพระเจ้าผู้ทรงไม่เปลี่ยนแปลงและสามารถทำสิ่งใดๆ ได้
- ให้พระเจ้าเป็นแหล่งกำลังของคุณ: เมื่อคุณรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้ หรือถูกโจมตี จงระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นกำลังที่แท้จริงของคุณ พลังและสันติสุขที่แท้จริงมาจากพระองค์
- อย่าดูถูกสิ่งที่เล็กน้อยหรือไม่สำคัญ: จงมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่ดูเหมือนถูกปฏิเสธหรือไม่สำคัญในสายตาของมนุษย์ เพราะพระเจ้าอาจมีแผนการที่ยิ่งใหญ่สำหรับสิ่งเหล่านั้น (ดังเช่นพระเยซูผู้เป็น "ศิลาหัวมุม")
- ชื่นชมยินดีในทุกวัน: จงเลือกที่จะมีความสุขและเปรมปรีดิ์ในทุกวัน เพราะแต่ละวันเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่เต็มไปด้วยโอกาสและพระพร ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ก็ตาม
- เข้าหาพระเจ้าด้วยใจขอบพระคุณ: ในการนมัสการหรืออธิษฐาน จงเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยใจที่สำนึกในพระคุณ ไม่ใช่แค่มาขอสิ่งต่างๆ การขอบพระคุณเป็นการเปิดประตูสู่การทรงสถิตของพระองค์
สดุดี 118 เป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจอย่างมาก สอนให้เรามองผ่านความท้าทายและมุ่งไปที่พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ ทรงฤทธิ์ และทรงเป็นแหล่งแห่งความรอดและชัยชนะที่แท้จริง