Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 111

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 112

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 113

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 114

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 115

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 116

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 117

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สดุดี 118

เรื่องย่อ

ในพระธรรมสดุดี 111-118 เราได้เห็นความยิ่งใหญ่และพระเมตตาของพระเจ้าที่สะท้อนในพระราชกิจและความดีของพระองค์ ขอพระองค์ทรงเป็นแสงสว่าง ความสัตย์จริง และความชอบธรรมที่นำทางชีวิตของเรา จากการสรรเสริญและการอธิษฐานของดาวิด เรารู้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและความหวังที่ไม่เคยล้มเหลว ความเชื่อมั่นในพระเจ้าและความศรัทธาที่แท้จริงเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาชีวิตให้พบความสุขและความสงบสุขในพระองค์ ซึ่งทุกบทกล่าวถึงความดีและความยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นเครื่องเตือนใจให้เรายึดมั่นในความเชื่อและดำเนินชีวิตด้วยความจริงใจและความไว้วางใจในพระองค์อย่างไม่หวั่นไหวTop of Form

 

 

สดุดี 111:2 กล่าวว่า “งานของพระเจ้ายิ่งใหญ่ เป็นที่ศึกษาของทุกคนที่ชื่นชมยินดีในผลงานเหล่านั้น” ซึ่งหมายความว่าเราเองก็สามารถเรียนรู้และชื่นชมในสิ่งที่พระเจ้าทรงทำได้เช่นกัน การชื่นชมยินดีในพระองค์ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่การดูงานของพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นการใช้ชีวิตที่สะท้อนความรักและความเชื่อมั่นในพระองค์ เช่น การนมัสการ การอ่านพระคัมภีร์ หรือการรวมกลุ่มเพื่อสรรเสริญพระเจ้า สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราใกล้ชิดกับพระองค์และเข้าใจพระคุณของพระองค์มากขึ้น

ความยำเกรงพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญา ตามสดุดี 111:10 ซึ่งหมายความว่าการเคารพและรักพระเจ้าจนกลายเป็นความรู้และความเข้าใจที่ดีในชีวิต หลายคนพบว่าความสุขเกิดขึ้นจากการแสวงหาพระเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ คนที่รักพระบัญญัติของพระเจ้าจะทำตามอย่างแน่วแน่ และความชอบธรรมจะเติมเต็มชีวิตของเขา เช่นเดียวกับคำว่า “ความชอบธรรมเป็นแสงนำทางในความมืด” ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าจะเสริมแสงสว่างในเวลาที่เรารู้สึกสับสนและไม่แน่นอน

นอกจากนี้ สดุดี 113 แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงอยู่สูงสุดเหนือแผ่นดินโลก แต่ในขณะเดียวกันพระองค์ก็สนใจและก้มลงดูแลเราทุกคน พระองค์ทรงยกคนยากจนและผู้ขัดสนขึ้นมาร่วมกับพระราชา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พระเจ้ามีอำนาจสูงสุด แต่ก็ยังทรงใส่ใจและสนับสนุนพวกเราอย่างลึกซึ้ง พระองค์เป็นพระเจ้าเดียวและทรงรอบรู้ เต็มไปด้วยความเมตตาและพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรามีความหวังและวางใจในพระองค์อย่างมั่นคง ส่วนสดุดี 117 ก็แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงรักและซื่อสัตย์ต่อทุกประชาชาติ ไม่ใช่แค่เพียงชาวอิสราเอลเท่านั้น

 

ข้อคิด: สดุดี 111-118

สดุดี 118 ของวันนี้ได้บอกคำพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูไว้บ้าง พระเยซูทรงเรียกพระองค์เองว่า “ประตู” และตรัสว่า “ผู้ใดเข้ามาโดยทางเรา ผู้นั้นจะรอด” (ยอห์น 10:9) เมื่อผู้แต่งสดุดีพูดถึงประตูแห่งความชอบธรรม เขาหมายถึงประตูในเยรูซาเล็มอย่างแน่นอน แต่ที่นี่ยังมีคำพยากรณ์อีกชั้นหนึ่งด้วย ข้อ 20 กล่าวว่า “นี่คือประตูของพระเจ้า ผู้ชอบธรรมจะเข้าทางนี้” พระเยซูทรงเป็นทางเข้า พระองค์เป็นประตูสู่พระบิดา ข้อ 22 ยังพยากรณ์ถึงพระเยซูด้วยว่า “ศิลาที่บรรดาผู้ก่อสร้างทิ้งไปนั้นกลับกลายเป็นศิลามุมเอก” พระองค์ถูกผู้นำศาสนาในสมัยของพระองค์ปฏิเสธ แต่พระองค์เป็นรากฐานของความเชื่อของเรา ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นบนพระองค์และงานของพระองค์ และพระองค์คือรากฐานที่มั่นคงเพียงหนึ่งเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างจะพังทลาย แต่พระองค์จะมั่นคงตลอดไป เพราะพระองค์คือที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   สดุดี 111 เน้นความยิ่งใหญ่ ความสัตย์ซื่อ และพระคุณของพระเจ้า เราจะนำบทเรียนนี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตครอบครัวและชุมชนคริสตจักรอย่างไร เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในพระเจ้าและความสุขในชีวิตประจำวัน?

2.   สดุดี 112-118 เน้นความสุขและความเจริญในความเชื่อ พระคุณของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุข ความหวัง และความสุขใจในชีวิตครอบครัวและชุมชน คำสอนเหล่านี้สามารถชี้แนะแนวทางให้เราเป็นพยานในแง่ใดบ้างในยุคที่มีความท้าทายและความวุ่นวายในปัจจุบัน?

 

 

สดุดี 118 เป็นบทเพลงสรรเสริญที่เต็มไปด้วยความขอบพระคุณและความวางใจในพระเจ้า เป็นบทที่ชาวอิสราเอลใช้ร้องในเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะเทศกาลปัสกา สะท้อนถึงการช่วยกู้ของพระเจ้าจากศัตรูและความทุกข์ยาก บทเพลงนี้ยังมีการพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ด้วย


ข้อคิดสำคัญจากสดุดี 118

1.   ขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระเมตตาของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์: บทเพลงเริ่มต้นและจบลงด้วยการประกาศซ้ำๆ ว่า "จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์" (สดุดี 118:1, 29) นี่คือแก่นสำคัญของบทเพลง และเป็นเครื่องเตือนใจถึง พระลักษณะของพระเจ้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือร้าย พระเมตตาและความรักของพระองค์ก็ยังคงอยู่เสมอ

2.   การวางใจในพระเจ้าดีกว่าการพึ่งพามนุษย์: ดาวิด (หรือผู้ประพันธ์) ยืนยันว่า "พึ่งในพระยาห์เวห์ก็ดีกว่าวางใจในมนุษย์ พึ่งในพระยาห์เวห์ก็ดีกว่าวางใจในเจ้านาย" (สดุดี 118:8-9) นี่คือบทเรียนที่สำคัญอย่างยิ่ง ความช่วยเหลือจากมนุษย์มีจำกัด แต่การพึ่งพาพระเจ้าคือความมั่นคงที่แท้จริง

3.   พระเจ้าทรงเป็นกำลังและบทเพลงแห่งชัยชนะ: ผู้ประพันธ์ประกาศว่า "พระยาห์เวห์ทรงเป็นกำลังและเป็นบทเพลงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า" (สดุดี 118:14) เมื่อเผชิญกับความยากลำบากหรือการถูกโจมตีจากศัตรู การวางใจในพระเจ้าทำให้เกิด ความมั่นใจในชัยชนะและสันติสุข ที่มาจากพระองค์

4.   หินที่ช่างก่อสร้างทิ้งเสียกลับกลายเป็นศิลามุมเอก: "ศิลาซึ่งช่างก่อสร้างทิ้งเสีย ได้กลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว" (สดุดี 118:22) ข้อนี้เป็นการพยากรณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ผู้ถูกปฏิเสธโดยผู้นำศาสนาในสมัยนั้น แต่กลับกลายเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของคริสตจักร แสดงให้เห็นถึง แผนการอันอัศจรรย์ของพระเจ้า ที่สามารถนำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มาทำให้เป็นจริงและมีความสำคัญสูงสุด

5.   ความยินดีในวันแห่งพระยาห์เวห์: "วันนี้เป็นวันที่พระยาห์เวห์ทรงสร้างขึ้น ให้เราเปรมปรีดิ์และยินดีในวันนี้เถิด" (สดุดี 118:24) นี่คือข้อที่ทรงพลังที่เชิญชวนให้เรา ชื่นชมยินดีในทุกวัน เพราะทุกวันเป็นของขวัญจากพระเจ้า และเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นพระราชกิจของพระองค์

6.   การเข้าสู่พระวิหารด้วยการขอบพระคุณ: "จงเปิดประตูแห่งความชอบธรรมให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเข้าไปในประตูเหล่านั้นเพื่อขอบพระคุณพระยาห์เวห์" (สดุดี 118:19) แสดงถึง ท่าทีแห่งการนมัสการที่ถูกต้อง คือการเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยใจที่ขอบพระคุณและสำนึกในพระคุณของพระองค์

หลักการนำมาใช้ดำเนินชีวิต

  • ฝึกฝนการขอบพระคุณอย่างสม่ำเสมอ: ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จงเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเมตตาที่ดำรงเป็นนิตย์ การขอบพระคุณจะเปลี่ยนมุมมองของเรา
  • วางใจในพระเจ้ามากกว่ามนุษย์: เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำ จงแสวงหาพระเจ้าเป็นอันดับแรก แม้ว่ามนุษย์จะให้ความช่วยเหลือได้ แต่ความวางใจสูงสุดควรมีต่อพระเจ้าผู้ทรงไม่เปลี่ยนแปลงและสามารถทำสิ่งใดๆ ได้
  • ให้พระเจ้าเป็นแหล่งกำลังของคุณ: เมื่อคุณรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้ หรือถูกโจมตี จงระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นกำลังที่แท้จริงของคุณ พลังและสันติสุขที่แท้จริงมาจากพระองค์
  • อย่าดูถูกสิ่งที่เล็กน้อยหรือไม่สำคัญ: จงมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่ดูเหมือนถูกปฏิเสธหรือไม่สำคัญในสายตาของมนุษย์ เพราะพระเจ้าอาจมีแผนการที่ยิ่งใหญ่สำหรับสิ่งเหล่านั้น (ดังเช่นพระเยซูผู้เป็น "ศิลาหัวมุม")
  • ชื่นชมยินดีในทุกวัน: จงเลือกที่จะมีความสุขและเปรมปรีดิ์ในทุกวัน เพราะแต่ละวันเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่เต็มไปด้วยโอกาสและพระพร ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ก็ตาม
  • เข้าหาพระเจ้าด้วยใจขอบพระคุณ: ในการนมัสการหรืออธิษฐาน จงเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยใจที่สำนึกในพระคุณ ไม่ใช่แค่มาขอสิ่งต่างๆ การขอบพระคุณเป็นการเปิดประตูสู่การทรงสถิตของพระองค์

สดุดี 118 เป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจอย่างมาก สอนให้เรามองผ่านความท้าทายและมุ่งไปที่พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อ ทรงฤทธิ์ และทรงเป็นแหล่งแห่งความรอดและชัยชนะที่แท้จริง