Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 4

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 5

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 6

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เพลงซาโลมอน 8

เรื่องย่อ

เพลงของซาโลมอน 1-8 เป็นบทกวีที่แสดงความรักและความปรารถนาของคู่รักที่มีความสุขและหวานชื่นในความสัมพันธ์ซึ่งเต็มไปด้วยความอ่อนหวานและความงาม เนื้อหาบรรยายถึงความร้อนแรงของความรัก ความใกล้ชิด และความหวังในอนาคต โดยมีการเปรียบเทียบความรักกับพฤกษาและดอกไม้ ซึ่งสะท้อนถึงความบริสุทธิ์และความงามของความสัมพันธ์ สาระสำคัญเน้นไปที่ความซาบซึ้งในความรักและความปรารถนาให้ความรักนี้คงอยู่อย่างยั่งยืนและเต็มเปี่ยมด้วยความสุขใจ

 


หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โดยเราไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้เขียนหรือเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับใครกันแน่ อาจเป็นเรื่องราวของซาโลมอนเองหรือเป็นเรื่องราวที่เขาเขียนขึ้นในช่วงรัชสมัยของเขา หากเป็นเรื่องของเขา จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับภรรยา ซึ่งในที่สุดเขาก็มีฮาเร็มที่มีผู้หญิงเป็นพันคน เรื่องราวนี้ชี้ให้เห็นว่าการสะสมทรัพย์สมบัติและม้าสุราจำนวนมากอาจเป็นภัยต่อเขาและอาณาจักรของเขา วิทยาการหลายแขนงมีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับว่า หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวความรักของมนุษย์ เรื่องเปรียบเทียบความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชาชน หรือเป็นคำผสมผสานของทั้งสองอย่างก็ตาม แต่ทั้งหมดก็เป็นบทเรียนเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และความเป็นธรรมในวรรณกรรมของพระคัมภีร์ ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างให้เราใช้สอนหรือเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน

หากเลือกจะมองว่าหนังสือนี้เป็นแบบโรแมนติก ก็จะเห็นว่ามันบอกเล่าเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ของชาวยิวในยุคโบราณ ตั้งแต่การเกี้ยวพาราสี การแต่งงาน ไปจนถึงชีวิตคู่ในครอบครัว หนังสือเล่มนี้เป็นบทสนทนาที่มีผู้พูดหลักหลายคน รวมถึงหญิงเลี้ยงแกะที่เป็นตัวละครหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและความคิดของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งในวัฒนธรรมของเขา เธอพูดถึงความรักในแง่ความเป็นตัวเอง แม้จะไม่ได้มีเสน่ห์ตามแบบฉบับ แต่ก็รู้สึกดีและสนใจในคนที่เธอชื่นชอบ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าความรักและเสน่หาก็เกิดจากความรู้สึกและความเข้าใจซึ่งกันและกัน

เนื้อหาของหนังสือยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความเข้าใจในระดับลึก คำพูดของหญิงเลี้ยงแกะและเพื่อนของเธอแสดงให้เห็นถึงความหวังและความเชื่อที่ว่าความสัมพันธ์ที่ดีควรสร้างบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์และความเข้าใจในธรรมชาติของความรัก พระเจ้าซึ่งเป็นศูนย์กลางของพระคัมภีร์ก็เป็นตัวแทนของความรักแท้ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และคำสอนในเรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าเราควรให้ความสำคัญกับความจริงใจและความเชื่อมั่นในพระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นำพาความสุขและความสมดุลในชีวิต พระองค์สงวนสิทธิ์ที่จะให้สิ่งดีๆ กับเราเมื่อเรามีใจที่บริสุทธิ์และเต็มใจที่จะรักและเชื่อฟังเท่านั้น

 

ข้อคิด: เพลงซาโลมอน 1-8

พระเจ้าทรงยืนยันว่าการแต่งงานและความสัมพันธ์ทางเพศเป็นสิ่งดีและมีพระประสงค์ในพระทัย พระองค์ไม่ได้มองว่าเรื่องเพศเป็นสิ่งสกปรกหรือสิ่งที่พระองค์รังเกียจ แต่ในทางตรงกันข้าม พระองค์ทรงคิดค้นและวางแผนเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้เพื่อให้มนุษย์ได้รับความสุขและความชื่นชมยินดีอย่างถูกต้อง พระองค์ไม่ต้องการขโมยความสุขของเรา แต่ทรงประดิษฐ์สิ่งเหล่านี้ขึ้นเพื่อให้เรารู้วิธีใช้อย่างมีสติและเมตตา เพื่อป้องกันไม่ให้เราทำลายตัวเองและผู้อื่น พระเจ้าเชิญชวนให้เรารู้ว่าความสุขแท้และความรุ่งโรจน์ของพระองค์มาจากการใช้สิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นให้ถูกต้องและเต็มที่ พระองค์เป็นที่ที่เติมเต็มความชื่นชมยินดีและความสุขใจของเราอย่างแท้จริง

 

คำถาม

1.   เราจะสามารถนำบทกลอนรักในบทเพลงซาโลมอน 1-8 มาประยุกต์ใช้ในแนวทางสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวอย่างไร เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความสุขร่วมกัน?

2.   บทเพลงนี้เน้นความรักที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานและความจริงใจ มีแนวทางใดบ้างที่คริสตจักรสามารถสอนหรือปลูกฝังความรักที่บริสุทธิ์และยั่งยืนในชีวิตประจำวันได้?

 

 

เพลงซาโลมอน (Song of Solomon) หรือบางครั้งเรียกว่า เพลงคร่ำครวญ หรือเพลงแห่งบทเพลง เป็นหนังสือที่แตกต่างจากเล่มอื่นๆ ในพระคัมภีร์อย่างมาก เพราะเป็นบทกวีเกี่ยวกับความรักโรแมนติกระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาว (หรือคนรักสองคน) ซึ่งเต็มไปด้วยถ้อยคำที่เปรียบเทียบเชิงอุปมาอุปไมยและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง หนังสือเล่มนี้ทั้ง 8 บทให้ข้อคิดที่สำคัญหลายประการเกี่ยวกับ ความรัก ความสัมพันธ์ และความงาม ดังนี้:

1. การเฉลิมฉลองความรักโรแมนติกและความสนิทสนม

เพลงซาโลมอนเป็นบทกวีที่เปิดเผยและชื่นชมยินดีกับความรักระหว่างชายและหญิงอย่างตรงไปตรงมา เน้นย้ำถึง:

  • ความปรารถนาและความหลงใหล: ทั้งชายและหญิงต่างแสดงความปรารถนาต่อกันอย่างเปิดเผยและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก (เช่น 1:2-4, 2:3-6, 7:1-9) แสดงให้เห็นว่าความปรารถนาทางกายภาพและการดึงดูดใจเป็นส่วนหนึ่งที่ธรรมชาติและสวยงามของความรักในบริบทที่เหมาะสม
  • ความงามที่หลากหลาย: ทั้งสองฝ่ายต่างพรรณนาถึงความงามของกันและกันด้วยภาษาที่เปรียบเปรยอย่างวิจิตรบรรจง (เช่น 4:1-7, 5:10-16, 7:1-5) ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังรวมถึงลักษณะนิสัยและความดึงดูดใจโดยรวม
  • การชื่นชมยินดีในกันและกัน: เป็นการเน้นย้ำถึงความสุขและความปีติที่ได้รับจากการได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก การสัมผัส และการได้ชื่นชมในตัวตนของอีกฝ่าย

2. ความรักที่แท้จริงคือความผูกพันที่มั่นคงและลึกซึ้ง

แม้จะเต็มไปด้วยความหลงใหล แต่เพลงซาโลมอนก็ยังสื่อถึงความลึกซึ้งและความมั่นคงของความรัก:

  • ความภักดีและความเป็นเอกลักษณ์: บทเพลงแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่พิเศษและไม่เหมือนใครระหว่างคนสองคน (เช่น 6:3 "ที่รักของฉันเป็นของฉัน และฉันเป็นของที่รักของฉัน") ซึ่งบ่งบอกถึงการมอบหัวใจให้แก่กันและกันอย่างสมบูรณ์
  • ความอดทนและความท้าทาย: มีการกล่าวถึงช่วงเวลาแห่งการค้นหาและความห่างเหินชั่วคราว (เช่น 3:1-4, 5:2-8) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในความสัมพันธ์ย่อมมีทั้งช่วงเวลาที่ง่ายและยาก แต่ความรักที่แท้จริงจะอดทนและเอาชนะอุปสรรคได้
  • ความรักที่ไม่อาจดับมอดได้: บทสรุปที่ทรงพลังใน 8:6-7 กล่าวว่า "ความรักเข้มแข็งดังความตาย ความหึงหวงรุนแรงดังแดนคนตาย ประกายของมันเป็นประกายไฟ เป็นเปลวไฟแห่งพระยาห์เวห์ น้ำมากหลายไม่อาจดับความรักได้ แม่น้ำไม่อาจพัดพามันไปได้" นี่คือข้อคิดสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงนั้นทรงพลัง มั่นคง และไม่อาจทำลายได้ด้วยสิ่งใดๆ เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และมาจากพระเจ้า

3. ความรักที่ต้องเติบโตและรักษา

  • การปกป้องความสัมพันธ์: บทเพลงนี้เตือนถึง "สุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆ ที่ทำลายสวนองุ่น" (2:15) ซึ่งอาจหมายถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจบ่อนทำลายความสัมพันธ์ได้หากไม่ระมัดระวัง เป็นการกระตุ้นให้คู่รักต้องดูแลและปกป้องความสัมพันธ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง
  • การรอคอยเวลาที่เหมาะสม: การกล่าวซ้ำๆ ว่า "อย่าปลุกเร้าหรือปลุกความรักจนกว่ามันจะพอใจ" (2:7, 3:5, 8:4) อาจหมายถึงการรอคอยความรักให้สุกงอมในเวลาที่เหมาะสม ไม่เร่งรัดหรือบีบบังคับความรู้สึก

4. สัญลักษณ์และตีความ

เพลงซาโลมอนยังได้รับการตีความในเชิงสัญลักษณ์หลายรูปแบบ:

  • ความรักระหว่างพระเจ้ากับอิสราเอล: นักวิชาการชาวยิวหลายคนตีความว่านี่คือภาพความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อชนชาติอิสราเอล ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แห่งพันธสัญญาและความผูกพันอันลึกซึ้ง
  • ความรักระหว่างพระคริสต์กับคริสตจักร: สำหรับคริสเตียน บทเพลงนี้มักถูกตีความว่าเป็นภาพสะท้อนความรักอันบริสุทธิ์และเสียสละระหว่างพระเยซูคริสต์กับคริสตจักร (ผู้เชื่อ) ซึ่งเป็นเจ้าสาวของพระองค์

โดยรวมแล้ว เพลงซาโลมอนเป็นบทกวีที่ เฉลิมฉลองความงาม ความปรารถนา และความผูกพันที่ลึกซึ้งของความรักโรแมนติก ในบริบทที่เหมาะสมและบริสุทธิ์ มันสอนให้เราเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่แท้จริง ความภักดี ความอดทน และพลังของความรักที่ไม่อาจทำลายได้ ซึ่งเป็นของประทานอันล้ำค่าจากพระเจ้า