Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 27

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 28

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
สุภาษิต 29

เรื่องย่อ

สุภาษิตบทที่ 27 ถึง 29 นำเสนอคำแนะนำที่ชาญฉลาดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การบริหาร และการใช้ชีวิตอย่างมีคุณธรรม สุภาษิตเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของมิตรภาพที่แท้จริง การให้คำปรึกษาที่จริงใจ และการตักเตือนที่สร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังเน้นถึงความสำคัญของการบริหารที่ยุติธรรม การดูแลคนยากจน และผลกระทบของการกระทำของผู้นำต่อสังคม สุภาษิตเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการควบคุมอารมณ์ การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และการพึ่งพาปัญญาของพระเจ้าเพื่อนำทางชีวิต

 


วันนี้เราจะพูดถึงคำเตือนในสุภาษิตบทที่ 27 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรู้จักถ่อมตนและไม่โอ้อวดในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ โดยซาโลมอนเตือนว่าห้ามอวดดีในอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอะไร และอีกอย่างหนึ่งคืออย่าอวดดีในความสามารถหรือความสำคัญของตัวเอง เพราะความถ่อมใจจะนำพาให้เราเข้าสู่ความสุขและความสงบสุข

ในเรื่องความสัมพันธ์ ซาโลมอนเน้นว่าความจริงใจและคำแนะนำจากเพื่อนเป็นสิ่งมีค่าเปรียบเสมือนแผลที่ซื่อสัตย์ เมื่อเพื่อนรักหรือหวังดีให้คำตักเตือนและคำแนะนำที่ดี จะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเองได้ดี เช่นเดียวกับเหล็กที่ลับกันได้ หรือคำพูดที่จริงใจจากเพื่อนที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น ข้อความนี้ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดีควรเป็นแบบนี้ ยกเว้นก็แต่ศัตรูที่อาจใช้คำพูดหลอกลวงหรือทำร้ายเราได้

สุดท้าย ซาโลมอนเตือนให้เข้าใจเรื่องความสุขและความพอใจในชีวิตด้วย ข้อความเปรียบเทียบว่า คนที่เต็มใจและมีความรักจะไม่สนใจสิ่งล่อใจภายนอก เช่น น้ำผึ้งที่หวานสำหรับคนหิว แต่สำหรับคนที่มีความสุขและพอใจในสิ่งที่มีอยู่จะไม่หลงไปกับสิ่งล่อใจเหล่านั้น นอกจากนี้ยังเตือนว่า คนที่มีจิตใจหยิ่งยโสและขาดวินัยในการควบคุมตนเองมักจะไม่มีความสุขและไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ จึงสอนให้เราต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตนและฝึกฝนความอดทนเพื่อชีวิตที่มีความสุขและความเจริญงอกงาม

 

ข้อคิด: สุภาษิต 27-29

ความกลัวมนุษย์เป็นกับดักที่ทำให้เราต้องการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งชั่วคราวและไม่แน่นอน หากเราพึ่งพาการยอมรับจากคนอื่น เราจะถูกจองจำด้วยความต้องการและความหวังที่ไม่สิ้นสุด แต่ในทางตรงกันข้าม พระเจ้าทรงให้การยอมรับเราโดยไม่มีเงื่อนไข ผ่านความเชื่อในพระคริสต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงและมั่นคงมากที่สุด การรับรู้ว่าพระเจ้ารู้และเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับเรา ทั้งความผิดพลาดและบาปของเรา แต่ก็ยังคงรักและตั้งใจไว้เสมอ แสดงให้เห็นว่าพระองค์ไม่เคยจากเราไปไหนและอยู่เคียงข้างเราเสมอในทุกช่วงเวลา พระองค์ไม่โลเลและรู้ล่วงหน้าในแผนการของพระองค์ ซึ่งจะสำเร็จแน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องวางใจในพระองค์และเชื่อในความมั่นคงของความรักและพระคุณของพระองค์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

คำถาม

1.   จากสุภาษิต 27:2 ที่กล่าวว่า "อย่ายกย่องตัวเองด้วยปากของเจ้าเอง ให้คนอื่นเป็นผู้ยกย่อง ไม่ใช่ด้วยริมฝีปากของเจ้าเอง" ในยุคโซเชียลมีเดียปัจจุบัน เราจะสามารถประยุกต์ใช้คำสอนนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อการโปรโมทตัวเองกลายเป็นเรื่องปกติ?

2.   สุภาษิต 29:11 กล่าวว่า "คนโง่เขลาระบายความโกรธเต็มที่ แต่คนฉลาดจะสงบนิ่งได้ในที่สุด" ในโลกออนไลน์ที่การแสดงความเห็นและอารมณ์สามารถทำได้อย่างฉับพลัน เราจะสามารถฝึกฝนการควบคุมอารมณ์และการตอบสนองอย่างมีสติได้อย่างไร?

 

 

สุภาษิต บทที่ 27 เป็นบทที่เต็มไปด้วยข้อคิดและคำแนะนำอันลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้ชีวิต การสร้างความสัมพันธ์ และการพัฒนาตนเอง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์ ความถ่อมใจ และการพึ่งพาอาศัยกัน นี่คือข้อคิดสำคัญที่เราสามารถถอดได้จากบทนี้:

  • ความจริงใจสำคัญกว่าคำเยินยอ: "บาดแผลที่มิตรทำก็สัตย์ซื่อ แต่การจุบของศัตรูนั้นก็มากเหลือ" (สุภาษิต 27:6) ข้อนี้สอนว่า คำวิจารณ์ที่มาจากเพื่อนแท้ แม้จะเจ็บปวด แต่ก็มีค่าและเป็นจริงกว่าคำยกยอที่มาจากการประจบประแจง หรือจากผู้ที่หวังผลประโยชน์จากเรา คำวิจารณ์จากเพื่อนที่จริงใจช่วยให้เราได้เห็นข้อบกพร่องและปรับปรุงตนเองได้
  • ความรักที่แท้จริงคือความภักดี: "น้ำที่รินใส่ไม่ได้รินออกไปจากบ้านของเจ้า และน้ำที่รินใส่ไม่ได้รินออกไปจากบ้านของเพื่อนเจ้า" (สุภาษิต 27:10) สุภาษิตบทนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความภักดีและความผูกพันที่มั่นคงกับเพื่อนและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามยากลำบาก การมีเพื่อนแท้ที่อยู่เคียงข้างยามคับขันมีค่ากว่าทรัพย์สมบัติใดๆ
  • การถ่อมใจและยอมรับคำแนะนำ: "เหล็กลับเหล็กฉันใด คนก็ลับคนฉันนั้น" (สุภาษิต 27:17) นี่เป็นสุภาษิตที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดี หมายความว่า การที่เราได้สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และได้รับการติชมจากผู้อื่น จะช่วยขัดเกลาความคิด สติปัญญา และบุคลิกภาพของเราให้เฉียบคมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การยอมรับคำแนะนำจากผู้อื่นแสดงให้เห็นถึงความถ่อมใจและความปรารถนาที่จะพัฒนาตนเอง
  • ความรับผิดชอบและความพากเพียร: "จงรู้จักสภาพฝูงสัตว์ของเจ้า และจงเอาใจใส่ฝูงแพะแกะของเจ้า" (สุภาษิต 27:23) ข้อนี้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลจัดการทรัพย์สินและการงานอย่างใส่ใจและสม่ำเสมอ เป็นการย้ำเตือนให้เรามีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่อยู่ในการดูแลของเรา และทำงานด้วยความพากเพียร เพื่อให้เกิดผลผลิตที่ดีและยั่งยืน
  • อย่าโอ้อวดในวันพรุ่งนี้: "อย่าโอ้อวดถึงวันพรุ่งนี้ เพราะเจ้าไม่รู้ว่าวันหนึ่งจะนำอะไรมาให้" (สุภาษิต 27:1) สุภาษิตข้อนี้สอนให้เราไม่ประมาทและไม่โอ้อวดในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ทั้งหมด ดังนั้นควรใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีสติและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน

โดยรวมแล้ว สุภาษิต บทที่ 27 เน้นย้ำถึงหลักการสำคัญในการดำเนินชีวิตอย่างชาญฉลาด การสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ และการพึ่งพาพระเจ้าในทุกสถานการณ์ เป็นบทที่เตือนใจให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ รอบคอบ และมีความถ่อมใจอยู่เสมอ