เรื่องย่อ

ใน 2 พงศาวดาร 27 และอิสยาห์ 9-12 เล่าเรื่องราวของกษัตริย์เยโอรามแห่งยูดาห์ที่ดำเนินชีวิตอย่างเที่ยงธรรมและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่แผ่นดิน ขณะเดียวกัน อิสยาห์พยากรณ์ถึงการมาของพระเมสสิยาห์ ผู้เป็นแสงสว่างในความมืด หวังให้ชนชาติอิสราเอลกลับใจและรับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด การประกาศนี้เต็มไปด้วยความหวังของการฟื้นฟู ความสุข และความสงบสุขที่มาจากการยอมรับพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง เรื่องราวนี้เป็นการเตือนใจว่าความเชื่อและความศรัทธาในพระเมสสิยาห์จะนำความหวังและความสุขที่แท้จริงมาสู่ทุกคนที่เปิดใจยอมรับพระองค์

หลังจากที่อิสราเอลเหนือล่มสลาย ยูดาห์ใต้ก็ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์อุสสิยาห์ และต่อมาคือโยธามผู้ทรงธรรม ซึ่งการเชื่อฟังพระยาห์เวห์ของพระองค์นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ยูดาห์ การปกครองของโยธามเป็นไปตามพระสัญญาแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อเชื้อสายของดาวิด ซึ่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะเจริญรุ่งเรืองเพื่อความเชื่อฟังและความหายนะเพื่อการไม่เชื่อฟัง แต่รัชสมัยของอาหัสผู้ไม่ซื่อสัตย์ได้เปลี่ยนแปลงไป

ในสมัยของอิสยาห์ ประชาชนผู้คุ้นเคยกับสงคราม การกดขี่ และภัยคุกคามจากอัสซีเรีย จะตีความคำพยากรณ์ของเขาเกี่ยวกับการประสูติของกษัตริย์ที่จะนำมาซึ่งแสงสว่างและการปลดปล่อยในลักษณะการเมือง พวกเขาคาดหวังให้กษัตริย์พิชิตสงคราม ซึ่งเป็นการมองการณ์ไกลที่สั้นกว่าความสำคัญที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ข้อความนั้นมีข้อบ่งชี้ถึงความสำคัญที่ลึกซึ้งยิ่งกว่า เช่น การอ้างอิงถึงกษัตริย์ว่าเป็น "พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์"

พระพิโรธของพระเจ้ากำลังมาถึงคนชั่วร้าย โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติหรือชาติกำเนิด และรวมถึงผู้ที่เกิดในเชื้อสายของอับราฮัมด้วย พระเจ้าจะทรงใช้อัสซีเรียเป็นเครื่องมือในการลงโทษ แต่อัสซีเรียเองก็จะไม่รอดพ้นจากการพิพากษา แม้ว่าการทำลายล้างจะเกิดขึ้นจริง แต่พระเจ้าก็ทรงสัญญาว่าจะสงวนผู้ที่เหลือไว้ โดยทรงคัดเลือกอย่างพิถีพิถันตามพระทัยของพวกเขาและทรงรับประกันการปลดปล่อยจากศัตรูของพวกเขา อิสยาห์ยังทำนายถึงการมาถึงของพระเยซู ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่จะนำมาซึ่งสันติสุข ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในความคาดหวังทางโลกของประชาชนในสมัยของเขา คำพยากรณ์เหล่านี้จบลงด้วยความหวังในการรวบรวมประชากรของพระเจ้าจากทุกประเทศ และการสรรเสริญสำหรับการปลอบโยนและช่วยให้รอด

ข้อคิด: 2 พงศาวดาร 27; อิสยาห์ 9-12

ในครึ่งหลังของอิสยาห์ 9 พระพิโรธของพระเจ้าถูกอธิบายไว้ว่าเข้มข้นและหนักอึ้ง ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความเป็นจริงของการพิพากษาของพระเจ้าต่อบาป อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความรักเผยให้เห็นพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นผู้บริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียว ทรงก้าวเข้ามาเพื่อชดเชยความผิดของเรา ทรงแบกรับพระพิโรธทั้งหมดของพระบิดาไว้บนไม้กางเขน เพื่อให้เราได้รับการช่วยให้พ้นจากการลงโทษนั้น การกระทำนี้เป็นตัวอย่างของความรักที่ลึกซึ้งที่สุด เพราะโดยผ่านทางพระองค์ เราพบกับความรักและความสุขนิรันดร์

คำถาม

1.   การดำเนินชีวิตที่มุ่งเน้นความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ละบุคคลและสังคมควรใส่ใจความยุติธรรมและความเมตตาอย่างไร เพื่อให้เกิดความสมดุลและความสุขอย่างยั่งยืน?

2.   อิสยาห์ 9-12 เน้นให้เห็นถึงความหวังและการฟื้นฟูของประชาชนหลังจากความทุกข์ยาก สังคมในปัจจุบันควรนำหลักคำสอนเรื่องความหวังและการกลับใจมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่สงบสุขและเมตตาอย่างไร?

บทเรียนสำคัญจาก 2 พงศาวดาร บทที่ 27 ที่เกี่ยวกับกษัตริย์โยธามแห่งยูดาห์ คือ ความรุ่งเรืองและความสำเร็จที่แท้จริงมาจากการยำเกรงและดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อ

เราสามารถถอดข้อคิดที่น่าสนใจได้ดังนี้:

• การยำเกรงพระเจ้าคือกุญแจสู่ความสำเร็จ: ข้อ 6 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "โยธามเป็นผู้เข้มแข็งขึ้น เพราะท่านทำให้ทางของท่านมั่นคงอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน" สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าความเข้มแข็งและอำนาจของโยธามไม่ได้มาจากกำลังของตนเอง แต่มาจากการที่เขายำเกรงพระเจ้าและพยายามทำตามพระประสงค์ของพระองค์
• การไม่เข้าสู่ธรรมศาลาแต่แรกเริ่ม (ข้อ 2): แม้โยธามจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปในพระวิหารตั้งแต่แรกเริ่มเหมือนอย่างโอเซียห์ผู้เป็นบิดา ข้อนี้อาจสื่อถึงการที่เขาได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของบิดาที่กระทำบาปต่อพระเจ้าในพระวิหาร แต่ก็ยังคงมีความยำเกรงและระมัดระวังในการดำเนินชีวิต
• การเอาชนะศัตรูด้วยพระคุณของพระเจ้า (ข้อ 5): โยธามเอาชนะคนอัมโมนได้และบังคับให้พวกเขาถวายบรรณาการ แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงอวยพรและอยู่เคียงข้างผู้ที่ยำเกรงพระองค์ ทำให้พวกเขามีชัยชนะเหนือศัตรู
• การเตรียมพร้อมและสร้างความเข้มแข็ง (ข้อ 3-4): โยธามได้สร้างประตูด้านบนของพระวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นใหม่ และสร้างกำแพงบนเนินเขาโอเฟล ท่านยังสร้างเมืองต่าง ๆ ในแดนเทือกเขาของยูดาห์และสร้างป้อมปราการกับหอคอยในป่า สิ่งเหล่านี้แสดงถึงการเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ เตรียมพร้อม และสร้างความมั่นคงให้กับอาณาจักร ซึ่งได้รับพระพรจากพระเจ้า

2 พงศาวดาร 27 สอนเราว่าการยำเกรงพระเจ้า การดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อต่อพระองค์ และการเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต จะนำมาซึ่งความเข้มแข็ง ความรุ่งเรือง และชัยชนะในชีวิต