Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 1

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 2

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 3

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 4

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 5

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 6

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มีคาห์ 7

เรื่องย่อ

ในมีคาห์ 1-7 เล่าเรื่องการตำหนิอย่างแรงของพระเจ้าต่อความบาปและความเสื่อมโทรมของอิสราเอล ทั้งในด้านความอยุติธรรม การล่อลวง และความหยิ่งทะนง พระเจ้าทรงประกาศการลงโทษที่รุนแรง แต่ก็ยังแสดงความเมตตาและความหวังในการฟื้นฟู เมื่อชาวเมืองกลับใจและดำเนินชีวิตตามธรรมชัย พระเจ้าจะอภัยและนำความสุข ความสงบสุขมาให้ พร้อมสัญญาว่าจะเป็นที่พึ่งพาของผู้ที่เชื่อและหวังพึ่งพระองค์ เรื่องราวนี้เป็นคำเตือนให้รักษาความสัตย์ซื่อและความเมตตาต่อกัน เพื่อความรอดพ้นและความสุขในพระเจ้า

 


งานเขียนของมีคาห์หมุนรอบช่วงเวลาสำคัญ คลุมเครือทั้งคำพยากรณ์และเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่คำพยากรณ์เหล่านั้นสำเร็จเป็นจริง มุ่งเน้นไปที่ประชากรทั่วไปของอิสราเอล เขาประกาศการแทรกแซงที่กำลังจะเกิดขึ้นของพระเจ้าต่อบาปของพวกเขา โดยเริ่มต้นด้วยการทำลายปูชนียสถาน มีคาห์ประณามบาปของอิสราเอลและยูดาห์ โดยแนะนำให้แสดงความโศกเศร้าเป็นการส่วนตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความยินดีของศัตรู การประณามนี้มาพร้อมกับความกังวลเกี่ยวกับการขโมยที่ดินจากคนยากจนและการกดขี่พวกเขา โดยเน้นย้ำว่าความโลภอาจนำไปสู่การกดขี่เมื่อไม่ได้รับการควบคุม

มีคาห์ประณามความชั่วร้ายของผู้ปกครอง ปุโรหิต และผู้เผยพระวจนะ ซึ่งเกลียดความยุติธรรมและบิดเบือนความเที่ยงตรง แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าพวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาได้เนื่องจากตำแหน่งที่สูงส่งของพวกเขา มีคาห์ได้ยืนยันถึงชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเยรูซาเล็มที่จะกลายเป็นซากปรักหักพังและการถูกขับไล่ของผู้คนไปยังบาบิโลน คำพยากรณ์เหล่านี้สำเร็จเป็นจริงในอีกประมาณสองร้อยปีต่อมาด้วยความแม่นยำที่น่าทึ่ง

ในขณะที่คำเตือนของมีคาห์นำหน้าการทำลายล้างและการถูกเนรเทศที่กำลังจะมาถึง เขาได้ย้ำเตือนว่ามันไม่ใช่จุดจบ พระเจ้าจะทรงฟื้นฟูผู้ที่เหลืออยู่ และสถาปนาราชอาณาจักรแห่งสันติสุขบนแผ่นดินโลก เขาสัญญาว่าจะรวบรวมและนำผู้ที่พระองค์ทรงทำให้บาดเจ็บและกระจัดกระจายไปอยู่ด้วยกัน โดยเน้นย้ำว่ากษัตริย์ที่จะปกครองอาณาจักรแห่งสันติสุขนี้จะประสูติในเบธเลเฮม พวกเขามองไปยังชาติอื่นๆ และเทพเจ้าของชาติอื่นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือมานานแล้ว แต่พระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเขา ผู้ที่ซื่อสัตย์ที่เหลืออยู่จะกระจัดกระจายไปท่ามกลางประชาชาติอีกครั้งหลังจากการทำลายกรุงเยรูซาเล็มโดยชาวโรมัน การแพร่กระจายนี้ได้เห็นผู้เชื่อชาวยิวและคนต่างชาติกระจายข่าวประเสริฐไปทั่วโลก แม้ว่าคำพยากรณ์เหล่านี้จะดูน่าเศร้า แต่พระเจ้าทรงใช้คำพยากรณ์เหล่านั้นเพื่อให้ข่าวประเสริฐมาถึงเราในวันนี้ มีคาห์กลับมาขอให้ผู้คนกลับใจใหม่ โดยเน้นย้ำว่าพระเจ้าทรงปรารถนาใจของพวกเขา เขาเป็นพยานถึงความพินาศของอิสราเอลและรับรู้ถึงความพินาศที่กำลังจะเกิดขึ้นของเยรูซาเล็ม โดยตระหนักว่าผู้พิพากษาผู้บริสุทธิ์ไม่สามารถปล่อยให้บาปไม่ถูกลงโทษได้ แต่เขายังคงร้องขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าและรอคอยการตอบสนองของพระเจ้าด้วยความคาดหวัง

 

ข้อคิด: มีคาห์ 1-7

มีคาห์ 5:4-5 เน้นย้ำถึงแหล่งที่มาของสันติสุขและความปลอดภัยที่แท้จริง โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาจากความสำเร็จหรือความยิ่งใหญ่ของเราเอง แต่มาจากความยิ่งใหญ่ที่ครอบคลุมของพระเจ้า ข้อความที่ว่า "เขาจะอยู่อย่างปลอดภัย เพราะบัดนี้พระองค์จะทรงยิ่งใหญ่ไปจนสุดแผ่นดินโลก และพระองค์จะทรงเป็นสันติสุขของพวกเขา" เน้นย้ำถึงความสำคัญของการยอมจำนนต่ออำนาจสูงสุดของพระองค์อย่างชัดเจน หลักการนี้บอกเราว่าเราจะพบสันติสุขและความปีติยินดีที่แท้จริงเมื่อเรายอมรับพระเจ้ามากขึ้นในชีวิตของเรา และความสำคัญของตัวเองลดน้อยลง การเปลี่ยนจากความพยายามด้วยตนเองไปสู่การวางใจในความยิ่งใหญ่ของพระองค์เพียงอย่างเดียวนำมาซึ่งสันติสุขที่ยั่งยืนและปีติยินดีเพราะพระองค์เป็นศูนย์กลางของทั้งหมด

 

คำถาม

1.   การแสวงหาและรักษาความยุติธรรมในสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืน แต่ปัญหาความเอาแต่ได้และความละเลยต่อความเป็นธรรมยังคงมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน มีแนวทางใดบ้างที่เราสามารถนำบทเรียนจากมีคาห์ 1-7 มาปรับใช้เพื่อส่งเสริมความยุติธรรมและความเมตตาในชีวิตประจำวัน?

2.   มีคาห์เตือนให้ระวังเรื่องการละทิ้งคุณธรรมและความผิดหวังต่อสังคมในช่วงเวลาที่เกิดความล้มเหลวหรือความทุกข์ การดำเนินชีวิตในปัจจุบันควรมีแนวคิดหรือคุณธรรมใดบ้างที่ช่วยให้เรายืนหยัดและมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้นตามคำสอนในมีคาห์?

 

 

 

มีคาห์ บทที่ 6 เป็นบทที่ทรงพลังและเต็มไปด้วยคำถามที่เจาะลึกถึงหัวใจของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า มีคาห์ไม่ได้เพียงแต่กล่าวโทษบาปของอิสราเอล แต่ยังนำพวกเขาไปสู่คำถามที่สำคัญที่สุด: พระเจ้าทรงประสงค์อะไรจากเราจริงๆ?

นี่คือข้อคิดที่สำคัญที่เราสามารถถอดได้จากบทนี้:

  • การฟ้องร้องของพระเจ้า (ข้อ 1-5): พระเจ้าทรงฟ้องร้องประชากรของพระองค์ที่หันเหจากทางของพระองค์ โดยทรงเตือนความจำถึงการกระทำอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงกระทำเพื่อพวกเขา เช่น การนำพวกเขาออกจากอียิปต์ การนำโดยโมเสส อาโรน และมิเรียม และการปกป้องพวกเขาจากบาลาค สิ่งนี้เน้นย้ำว่าการไม่เชื่อฟังของพวกเขาคือการทรยศต่อความรักและความสัตย์ซื่อของพระเจ้า
  • การถวายบูชาภายนอกไร้ความหมายหากปราศจากใจที่ถูกต้อง (ข้อ 6-7): ผู้คนพยายามถามว่าพวกเขาควรจะนำอะไรมาถวายแด่พระเจ้าเพื่อทำให้พระองค์พอพระทัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบูชาเผา สัตว์นับพัน หรือแม้แต่ลูกคนแรกของตนเอง มีคาห์ชี้ให้เห็นว่าการถวายบูชาภายนอกเหล่านี้ไม่มีความหมาย หากหัวใจไม่ได้อยู่กับพระเจ้าอย่างแท้จริง การกระทำทางศาสนาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถชดเชยการขาดความชอบธรรมในชีวิตได้
  • สิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์คือความยุติธรรม ความรักมั่นคง และการถ่อมใจ (ข้อ 8): นี่คือหัวใจสำคัญของบทนี้ และเป็นข้อที่ได้รับการจดจำมากที่สุด มีคาห์ประกาศอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงปรารถนาจากมนุษย์ นั่นคือ:
    • การประพฤติอย่างยุติธรรม: การกระทำที่ถูกต้อง เที่ยงตรง และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
    • การรักความเมตตา: การแสดงออกถึงความรัก ความกรุณา และความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น
    • การดำเนินชีวิตอย่างถ่อมใจไปกับพระเจ้าของท่าน: การรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า การพึ่งพาพระองค์ และการยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระองค์
  • ผลของการไม่เชื่อฟัง (ข้อ 9-16): มีคาห์เตือนถึงผลลัพธ์ของการไม่เชื่อฟังและความไม่ยุติธรรม พระเจ้าจะทรงนำการพิพากษามาสู่ผู้ที่ใช้เครื่องชั่งที่ไม่เที่ยงตรง ผู้ที่พูดโกหก และผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยความชั่วร้าย การกระทำของพวกเขาจะนำมาซึ่งความว่างเปล่า ความอดอยาก และความพินาศ นี่เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าผู้ทรงความบริสุทธิ์ไม่สามารถทนต่อความบาปได้

ข้อคิดโดยรวมจากมีคาห์ บทที่ 6 คือการเรียกร้องให้เราทบทวนความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า ไม่ใช่แค่การทำตามพิธีกรรมทางศาสนาหรือการถวายสิ่งของ แต่เป็นการดำเนินชีวิตที่สะท้อนถึงพระลักษณะของพระเจ้าในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความยุติธรรม ความเมตตา และการถ่อมใจเดินไปกับพระองค์ การมีหัวใจที่ถูกต้องและดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระเจ้า คือสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนามากที่สุด