Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 8

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 9

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 10

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 11

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 12

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 13

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
โฮเชยา 14

เรื่องย่อ

ความหายนะที่อิสราเอลจะได้รับนั้นชัดเจนยิ่งขึ้นเนื่องจากการกบฏและการพึ่งพาพันธมิตรทางโลกมากกว่าพระเจ้า คำทำนายที่หนักแน่นเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงการล่มสลายทางศีลธรรมและสังคมของพวกเขา ซึ่งนำไปสู่การถูกเนรเทศและความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางคำเตือนที่รุนแรงเหล่านี้ ยังมีความหวังในการฟื้นฟูและการรักษา พระเจ้าทรงเชื้อเชิญอิสราเอลให้กลับใจและหันกลับมาหาพระองค์ โดยทรงสัญญาว่าจะทรงอภัยโทษ รักษาบาดแผล และประทานพรแก่พวกเขาอย่างมากมายหากพวกเขากลับมาสู่พระองค์ด้วยใจจริง บทสรุปของโฮเชยาเป็นข้อพิสูจน์ถึงความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงและความเมตตาของพระเจ้า ที่ยังคงเปิดโอกาสให้ผู้ที่หันหลังให้กับพระองค์ได้กลับมาสู่พระองค์เสมอ

 

โฮเชยาเตือนประชากรของพระเจ้าว่าบาปย่อมมีผลตามมา โดยเน้นย้ำว่าการหลงทางไปจากพระเจ้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องศาสนาเท่านั้น แต่ยังแทรกซึมไปถึงทุกแง่มุมของชีวิต การเลือกผู้นำโดยไม่ปรึกษาพระเจ้า การแสวงหาความช่วยเหลือจากชาติอื่นๆ และการถวายส่วยแก่คนต่างชาติ แทนที่จะวางใจในพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความห่างเหินจากพระเจ้า การพยายามแก้ไขปัญหาด้วยพิธีกรรมภายนอก โดยการเพิ่มเทพเจ้าและแท่นบูชาของคนต่างชาติเข้าไปเท่านั้น กลับยิ่งทำให้พวกเขาห่างเหินจากพระยาห์เวห์มากขึ้น

โฮเชยาเปรียบเทียบการกระทำของพวกเขาเป็นการกระทำที่น่าตกใจซึ่งเล่าไว้ในผู้วินิจฉัย บทที่ 19 โดยเน้นย้ำว่าอิสราเอลทั้งชาติได้กลายเป็นตัวแทนของความรุนแรงและความไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี เนื่องจากการใช้พระพรของพระเจ้าในทางที่ผิดและการลืมพระองค์ พระองค์จึงประกาศว่าจะกลับสถานการณ์ โดยทำให้พวกเขากลับไปยังอียิปต์และอัสซีเรียในฐานะเชลย การเนรเทศนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบทเรียน ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะวางใจในพระองค์ หลังจากที่ได้ละเลยที่จะทำเช่นนั้นมานาน แม้ว่าในบทที่ 11 พระเจ้าจะเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของพระองค์กับอิสราเอลว่าเป็นความรักของบิดาต่อบุตรชาย โดยย้อนกลับไปยังตอนที่พระองค์ทรงเรียกอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ โฮเชยาเน้นว่าความรักและความอดทนของพระเจ้ามีมากกว่าความพิโรธของพระองค์ โดยแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงพร้อมที่จะบรรเทาความพิโรธของพระองค์

สุดท้าย โฮเชยาได้เล่าเรื่องราวของยาโคบ บรรพบุรุษของอิสราเอล และกระตุ้นให้พวกเขาฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่พระเจ้าทรงเริ่มต้นไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น โดยกระตุ้นให้พวกเขากลับมาโดยได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า โดยยึดมั่นในความรักและความยุติธรรม และรอคอยพระเจ้าเสมอไป โฮเชยาเรียกร้องให้พวกเขาหันหลังให้พันธมิตรของพวกเขา ปฏิเสธการบูชารูปเคารพ และรับทราบความพร้อมของพระเจ้าที่จะยอมรับพวกเขากลับสู่ความรักของพระองค์ ความรักของพระเจ้าที่แสดงออกในเรื่องราวของโฮเชยาและโกเมอร์ และความสัมพันธ์ของพระเจ้ากับอิสราเอล เน้นย้ำว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าบาปของเรา และทรงพร้อมที่จะรักษาประชากรที่พลัดพราก พระองค์ทรงเชื้อเชิญเราทุกคนให้รับรู้การสะท้อนของตนเองในอิสราเอล และยอมรับพระหัตถ์ที่เปิดกว้างของการไถ่ของพระองค์

 

ข้อคิด: โฮเชยา 8-14

แม้พระเจ้าทรงตั้งใจที่จะตัดขาดอิสราเอลในโฮเชยา 11:7 เนื่องจากความมุ่งมั่นของพวกเขาที่จะหันเหจากพระองค์ ความเมตตาและความสงสารของพระองค์กลับเข้าครอบงำในข้อ 8 เมื่อพระองค์ทรงไตร่ตรองถึงการกระทำดังกล่าว โดยถามว่า "เอฟราอิมเอ๋ย เราจะละทิ้งเจ้าได้อย่างไร? อิสราเอลเอ๋ย เราจะมอบเจ้าไปได้อย่างไร?" การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการที่พระคริสต์ได้รองรับความพิโรธของพระเจ้าไว้แล้ว ดังนั้น เราจึงได้รับการปลดปล่อยจากการรับมัน และกลับได้รับความสัมพันธ์อันสมบูรณ์และประโยชน์มากมายที่มาพร้อมกับมัน การจัดเตรียม ความหวัง การตีสอน ความเมตตา พระคุณ และความชื่นชมยินดีอันยิ่งใหญ่ เพราะพระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!

 

คำถาม

1.   โฮเชยาเตือนถึงผลของการตัดสินใจที่ผิดพลาดและการพึ่งพาแหล่งความช่วยเหลือที่ไม่ถูกต้อง อิสราเอลหันไปหาพันธมิตรทางโลกแทนที่จะพึ่งพาพระเจ้า ในชีวิตครอบครัวของเรา เราหันไปพึ่งอะไรที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าเมื่อเผชิญกับความท้าทาย? (เช่น เงิน ความคิดเห็นของคนอื่น การควบคุม) บทเรียนที่ได้จากโฮเชียช่วยให้เราปรับทิศทางกลับมาหาหลักการและแหล่งพลังที่แท้จริงได้อย่างไร?

2.   แม้เผชิญกับความไม่ซื่อสัตย์และการกบฏ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงฟื้นฟูและรักษาอิสราเอล ความหวังในการฟื้นฟูและการเริ่มต้นใหม่นี้มีความสำคัญอย่างไรในชีวิตครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับความขัดแย้ง ความผิดพลาด หรือการแตกหัก? เราจะสร้างบรรยากาศแห่งการให้อภัย การเติบโต และการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวของเราได้อย่างไร?

 

 

โฮเชยา บทที่ 11 เป็นบทที่แสดงให้เห็นถึงความรักอันลึกซึ้งและเจ็บปวดของพระเจ้าที่มีต่อชนชาติอิสราเอล บทนี้เปรียบเสมือนบทกวีที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ที่หันเหไปจากพระองค์ แม้กระนั้นพระเจ้าก็ยังคงรักและปรารถนาที่จะไถ่พวกเขาคืนมา เราสามารถดึงข้อคิดสำคัญๆ ได้ดังนี้:

1. ความรักของพระเจ้าดุจความรักของพ่อแม่: บทนี้เริ่มต้นด้วยการย้อนรำลึกถึงเมื่ออิสราเอลยังเป็นเด็ก (โฮเชยา 11:1-4) พระเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเป็นเหมือนพ่อที่สอนลูกเดิน อุ้มชู ดูแล และเลี้ยงดูด้วยความรัก พระเจ้าทรงดึงพวกเขามาด้วยสายใยแห่งความรัก ทรงเป็นผู้รักษาบาดแผลและประทานอาหารให้พวกเขา นี่แสดงให้เห็นถึง ความรักที่อ่อนโยน ลึกซึ้ง และเสียสละ ของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ ซึ่งเป็นความรักที่เกินกว่าความเข้าใจของมนุษย์

2. ความเจ็บปวดของพระเจ้าจากความไม่ซื่อสัตย์ของมนุษย์: แม้พระเจ้าจะทรงรักและดูแลอิสราเอลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่อิสราเอลกลับหันหลังให้พระองค์ ไปนมัสการพระบาอัลและรูปเคารพอื่น ๆ (โฮเชยา 11:2, 7) สิ่งนี้ทำให้พระเจ้าทรงเจ็บปวดอย่างยิ่ง พระองค์ทรงรู้สึกเหมือนถูกหักหลังและถูกปฏิเสธจากลูกที่พระองค์รักและดูแลมาตลอด ข้อคิดนี้เน้นย้ำว่า ความบาปของเราไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวเราเอง แต่ยังทำให้พระเจ้าทรงเสียพระทัย และเจ็บปวดด้วย

3. การพิพากษาที่มาพร้อมกับความเมตตา: เนื่องจากความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอล พระเจ้าจึงต้องอนุญาตให้การพิพากษามาถึงพวกเขา (โฮเชยา 11:5-7) พวกเขาจะต้องกลับไปเป็นทาสในอียิปต์อีกครั้ง (แม้จะหมายถึงอัสซีเรียในบริบทนี้) และต้องเผชิญกับสงครามและความหิวโหย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการพิพากษา แต่พระเจ้าก็ยังทรงคร่ำครวญและลังเลที่จะลงโทษอย่างเต็มที่ (โฮเชยา 11:8-9) พระองค์ทรงถามว่า "เราจะทอดทิ้งเจ้าได้อย่างไร?" นี่แสดงให้เห็นถึง ความขัดแย้งภายในใจของพระเจ้า ระหว่างความยุติธรรมที่ต้องลงโทษความบาป กับความรักและความเมตตาที่ปรารถนาจะให้อภัยและฟื้นฟู

4. พระเมตตาของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่าพระพิโรธ: จุดสูงสุดของบทนี้คือการประกาศถึงพระเมตตาของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่าพระพิโรธของพระองค์ (โฮเชยา 11:8-9) พระเจ้าทรงตัดสินใจที่จะไม่ทำลายอิสราเอลอย่างสิ้นเชิง เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ และพระองค์ทรงเป็น "ผู้บริสุทธิ์ท่ามกลางเจ้า" ซึ่งหมายถึงการที่พระองค์ทรงสามารถควบคุมอารมณ์และตัดสินใจด้วยความรักที่เหนือกว่าความโกรธ นี่เป็นข้อคิดที่ให้ ความหวังอันยิ่งใหญ่ ว่าแม้เราจะล้มเหลวและสมควรได้รับการพิพากษา แต่พระเมตตาของพระเจ้าก็ยังคงมีอยู่และพร้อมที่จะไถ่เรากลับคืนมา

5. การกลับคืนสู่พระเจ้าด้วยความกลัวและความสั่นสะเทือน: บทนี้จบลงด้วยภาพของการที่ประชากรของพระเจ้าจะกลับมาหาพระองค์อีกครั้ง (โฮเชยา 11:10-11) พวกเขาจะติดตามพระเจ้าเหมือนสิงโตคำราม และจะกลับมาจากทิศตะวันตกและอียิปต์ด้วยความสั่นสะเทือน นี่แสดงให้เห็นถึง การกลับใจและการฟื้นฟู ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากความรักและความเมตตาของพระเจ้า

โฮเชยา บทที่ 11 เป็นบทที่ทรงพลังที่เปิดเผยหัวใจของพระเจ้าให้เราเห็น พระองค์ทรงเป็นพระบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรักที่เจ็บปวดเมื่อลูกหันเหไป แต่ในที่สุดความรักและพระเมตตาของพระองค์ก็มีชัยเหนือพระพิโรธเสมอ บทนี้เตือนใจเราถึงความลึกซึ้งของความรักของพระเจ้าและให้ความหวังในการกลับใจและการฟื้นฟูสำหรับทุกคนที่หันกลับมาหาพระองค์