Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 49

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
เยเรมีย์ 50

เรื่องย่อ

เยเรมีย์บทที่ 49-50 กล่าวถึงคำพยากรณ์ของพระเจ้าต่อหลายชนชาติที่อยู่รอบๆ อิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงโทษฟื้นฟูและวิบัติที่พระเจ้าทรงประทานเพื่อเตือนและพิพากษาชนชาติต่างๆ เช่น ชาวอามอน เอโดม ดามัสกัส และอิยิปต์ ในบทที่ 50 เป็นคำพยากรณ์ต่อต้านบาบิโลน ซึ่งเป็นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ในขณะนั้น โดยพระเจ้าทรงประกาศว่าบาบิโลนจะถูกพิพากษาและล่มสลาย เพื่อปลดปล่อยประชากรของพระองค์จากการถูกข่มเหงและนำกลับมายังดินแดนของตนเองอย่างเสรี อีกทั้งเป็นการเตือนให้ผู้ที่ทำชั่วรู้จักกลับใจและเป็นแบบอย่างแห่งความยุติธรรมของพระเจ้า.

 

บทที่ 49 นำเสนอการพิพากษาของพระเจ้าต่อชาติต่างๆ รวมถึงอัมโมน เอโดม ดามัสกัส เคดาร์และฮาโซร์ เอลาม และบาบิโลน แม้ว่าพระเจ้าทรงสัญญาว่าจะขับไล่ชาวอัมโมนออกจากดินแดนของพวกเขา พระองค์ก็ทรงให้ความเมตตาด้วยการสัญญาว่าจะฟื้นฟูพวกเขาในภายหลัง เช่นเดียวกับที่ทรงกระทำกับโมอับก่อนหน้านี้ พระเจ้าทรงสำแดงความกรุณาอันน่าทึ่งต่อศัตรูของพระองค์ สำหรับเอโดมซึ่งเป็นทายาทของเอซาว พระเจ้าทรงให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงโทษและทำลายล้าง แต่ทรงให้ข้อแม้ว่าจะทรงดูแลเด็กกำพร้าและหญิงม่ายของพวกเขา

บทนี้เน้นย้ำถึงผลกระทบที่กว้างไกลของบาป โดยกล่าวว่าแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้สมควรที่จะต้องทนทุกข์ก็ยังต้องดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธของพระเจ้า ซึ่งสะท้อนถึงความทุกข์ทรมานของชาวอิสราเอลที่ซื่อสัตย์จากการเนรเทศอันเป็นผลมาจากบาปของคนอื่น ๆ การพิพากษานี้อาจเป็นลางบอกเหตุถึงการเสียสละของพระคริสต์ผู้ทรงดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธของพระบิดาในนามของผู้คนของพระองค์ พระองค์ทรงชดใช้บาปของพวกเขา ในขณะที่ผู้ที่ปฏิเสธพระองค์จะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาของการกระทำของพวกเขาเอง นอกจากนี้บทนี้ยังเปรียบเทียบการสถิตของพระเจ้ากับผู้คนของพระองค์ซึ่งนำมาซึ่งพระพรกับการสถิตของพระองค์กับศัตรูของพระองค์ซึ่งนำมาซึ่งการพิพากษา

สุดท้ายบทที่ 49 เน้นย้ำถึงพระคุณทั่วไปของพระเจ้า เช่นเดียวกับที่ฝนตกลงมาบนคนชอบธรรมและคนอธรรม ชนชาติอย่างเอลามและอัมโมนก็ได้รับความเมตตาของพระองค์ แม้ว่าพระเจ้าจะทรงใช้บาบิโลนเพื่อนำอิสราเอลและยูดาห์ให้กลับใจ พระองค์ก็ทรงพิพากษาและทำให้มันรกร้างว่างเปล่า ท้ายที่สุดแล้ว การทำลายบาบิโลนจะนำไปสู่การสิ้นสุดการเป็นเชลยของประชากรของพระองค์ ทำให้ผู้ที่เหลืออยู่สามารถกลับไปยังศิโยนด้วยใจที่เต็มไปด้วยความรักและความขอบคุณต่อพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์ของพระเจ้า

 

ข้อคิด: เยเรมีย์ 49-50

เยเรมีย์ 50:20 เน้นย้ำถึงความเมตตาของพระเจ้าและการอภัยโทษอันยิ่งใหญ่ โดยสัญญาว่าแม้จะมีความชั่วช้าและบาปในอิสราเอลและยูดาห์ สิ่งเหล่านี้จะไม่ถูกจดจำต่อพวกเขาอีกต่อไป เพราะพระองค์จะทรงอภัยโทษให้ผู้ที่พระองค์ทรงเก็บรักษาไว้ให้เป็นผู้เหลืออยู่ ข้อนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงการปราศจากบาป แต่บ่งบอกถึงการอภัยโทษที่บาปของพวกเขาได้รับ การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนไม้กางเขนเป็นการลบล้างบาปของเรา และเพราะพระองค์ทรงชำระโทษ เราจึงได้รับการอภัย

 

คำถาม

1.   เยเรมีย์พยากรณ์ถึงการกลับสู่สภาพเดิมของบางประชาชาติหลังจากที่พวกเขาได้รับการพิพากษา ในชีวิตของเรา เราเห็นการฟื้นฟูและความหวังในสถานการณ์ที่ดูเหมือนสิ้นหวังได้อย่างไร และเรามีบทบาทอย่างไรในการนำการฟื้นฟูมาสู่ชีวิตของผู้คนและชุมชนของเรา?

2.   ในเยเรมีย์ 50:5 ผู้คนเรียกร้องให้เข้าร่วมกับพระเจ้าในพันธสัญญานิรันดร์ ในโลกปัจจุบัน เราจะแสดงความมุ่งมั่นของเราต่อพระเจ้าได้อย่างไร และเราจะรักษาสัญญาที่เราให้ไว้กับพระองค์ได้อย่างไร?

 

 

เยเรมีย์ บทที่ 50 เป็นคำพยากรณ์ที่หนักแน่นและสำคัญมากเกี่ยวกับชะตากรรมของบาบิโลน ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องล่มสลายลงตามพระประสงค์ของพระเจ้า บทนี้ให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งและเป็นสากลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความยุติธรรมของพระเจ้า ความว่างเปล่าของอำนาจมนุษย์ และความหวังที่แท้จริง

1. อำนาจของมนุษย์เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว

บาบิโลนถูกมองว่าเป็นอาณาจักรที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ กำแพงที่แข็งแกร่งและอำนาจทางการทหารที่น่าเกรงขามทำให้ผู้คนในยุคนั้นเชื่อว่าอาณาจักรนี้จะอยู่ไปตลอดกาล อย่างไรก็ตาม เยเรมีย์ 50:23 บอกว่า "บาบิโลนเป็นค้อนของโลก" แต่สุดท้ายแล้วค้อนอันนี้ก็ถูกทุบให้แตกละเอียด ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า อำนาจ, ความมั่งคั่ง, หรือความยิ่งใหญ่ใด ๆ ของมนุษย์ล้วนเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักร, บริษัท, หรือแม้แต่ความสำเร็จส่วนตัวของเราเอง ทุกอย่างสามารถล่มสลายได้ในที่สุด

2. พระเจ้าทรงใช้ชนชาติหนึ่งเพื่อลงโทษอีกชนชาติหนึ่ง

พระเจ้าทรงใช้บาบิโลนเป็นเครื่องมือในการลงโทษชนชาติอิสราเอลที่หันหลังให้พระองค์ แต่เมื่อภารกิจนั้นสำเร็จลง บาบิโลนซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดเองก็ต้องถูกลงโทษเช่นกัน (เยเรมีย์ 50:11-13) ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมประวัติศาสตร์และกำหนดชะตากรรมของชนชาติต่าง ๆ ไม่ว่าใครจะดูยิ่งใหญ่เพียงใดก็อยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์เสมอ

3. ความหวังที่แท้จริงอยู่กับพระเจ้า

แม้ว่าบาบิโลนจะถูกทำลาย แต่พระเจ้าก็ทรงสัญญาว่าจะฟื้นฟูชนชาติอิสราเอล (เยเรมีย์ 50:4-5, 19-20) พวกเขาจะกลับสู่ดินแดนของตนเองและหาพระเจ้าผู้เป็นความหวังที่แท้จริง ข้อนี้สอนให้เรารู้ว่า เมื่อโลกและสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ต้องล่มสลายลง ความหวังเดียวที่ไม่เคยสูญสิ้นไปก็คือความหวังในพระเจ้า ความสัมพันธ์กับพระเจ้าคือสิ่งเดียวที่มั่นคงและถาวร

4. ความยุติธรรมของพระเจ้าเป็นจริง

พระธรรมเยเรมีย์บทนี้เน้นย้ำถึงความยุติธรรมของพระเจ้าอย่างชัดเจน บาบิโลนถูกลงโทษเพราะความหยิ่งยโส การกดขี่ข่มเหงผู้อื่น และการบูชาเทวรูป (เยเรมีย์ 50:29, 38) พระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาตามสิ่งที่พวกเขาทำ (เยเรมีย์ 50:29) ข้อนี้เตือนใจเราว่า การกระทำของเรามีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าในวันนี้เราจะดูเหมือนประสบความสำเร็จจากการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ในที่สุดแล้วความยุติธรรมของพระเจ้าจะแสดงออกมาเสมอ

พระธรรมเยเรมีย์ บทที่ 50 เป็นภาพสะท้อนที่ทรงพลังของความจริงที่ว่า อำนาจของมนุษย์นั้นไร้ค่าในสายตาของพระเจ้า และสิ่งเดียวที่มั่นคงและถาวรคือพระองค์เอง บทนี้จึงเป็นคำเตือนสำหรับผู้ที่คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ และเป็นคำสัญญาแห่งความหวังสำหรับผู้ที่แสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง