เรื่องย่อ
เอเสเคียล 16-17 นำเสนอภาพเปรียบเทียบที่น่าสะเทือนใจของเยรูซาเลมในฐานะเด็กหญิงที่ถูกทอดทิ้งซึ่งพระเจ้าทรงช่วยกู้และเลี้ยงดูให้เป็นราชินี แต่กลับกลายเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์และเล่นชู้กับประชาชาติอื่น ๆ การทรยศหักหลังของเธอถูกเปรียบเทียบกับการละเมิดสัญญาการแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์ และเธอจะต้องเผชิญกับการลงโทษที่น่าอับอาย พระเจ้ายังเปิดเผยคำอุปมาเรื่องนกอินทรีสองตัวและต้นองุ่น ซึ่งแสดงถึงการเมืองที่ทรยศหักหลังของยูดาห์และผลที่ตามมาของการทำลายพันธสัญญากับบาบิโลน แม้จะมีการลงโทษอย่างรุนแรง แต่ก็มีความหวังถึงการฟื้นฟูในอนาคต เมื่อพระเจ้าจะทรงปลูกกิ่งไม้ใหม่บนภูเขาสูง ซึ่งจะกลายเป็นต้นสนสีดาร์อันสง่างาม สัญญาณแห่งความเมตตาและการสถาปนาอาณาจักรนิรันดร์ของพระเจ้า
พระเจ้าทรงใช้อุปมาเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ของพระองค์กับอิสราเอล โดยเปรียบอิสราเอลเหมือนเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง แต่ได้รับการช่วยเหลือและเลี้ยงดูจากพระองค์ พระองค์ทรงประทานพรมากมายแก่อิสราเอล แต่เธอรักของขวัญเหล่านั้นมากกว่าพระองค์ และใช้ของขวัญเหล่านั้นเพื่อล่อลวงคนรักคนอื่นๆ และบูชารูปเคารพ ในที่สุดเธอก็ลืมไปว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นเด็กที่ไร้ที่พึ่งและสังเวยลูกๆ ของตนเอง พระเจ้าทรงพิพากษาบาปของเธอ ซึ่งร้ายแรงกว่าเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ แต่พระองค์จะทรงฟื้นฟูความมั่งคั่งของเธอในภายหลัง
นอกจากนี้ พระเจ้ายังทรงเปิดเผยว่าบาปของเมืองโสโดมไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องเพศ แต่ยังรวมถึงความเย่อหยิ่งและความหยิ่งผยอง พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างหรูหราโดยไม่สนใจคนยากจนและขัดสน ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง และพระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่าเยรูซาเล็มร้ายแรงยิ่งกว่า
เอเสเคียล 17 นำเสนออุปมาเกี่ยวกับนกอินทรีสองตัวและต้นองุ่น โดยเปรียบกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนเป็นนกอินทรีที่เด็ดหน่ออ่อนและนำไปปลูกใหม่ และกษัตริย์เศเดคียาห์ที่หันไปพึ่งอียิปต์ ซึ่งนำไปสู่ความหายนะ พระเจ้าทรงเตือนบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ให้ยอมจำนนต่อบาบิโลน แต่มีเพียงกษัตริย์เยโฮยาคีนเท่านั้นที่ทำตามแผน พระเจ้าจะทรงปลูกกิ่งอ่อนในอิสราเอล ซึ่งจะเติบโตเป็นต้นสนซีดาร์และให้ที่พักพิงแก่นกทุกชนิด ซึ่งชี้ไปยังพระเมสสิยาห์และอาณาจักรที่จะมาถึงของพระองค์
ข้อคิด: เอเสเคียล 16-17
อิสราเอลได้ดูหมิ่นพระเจ้าและละเมิดพันธสัญญา แต่คุณรู้ไหมว่าการตอบสนองของพระองค์คืออะไร? พระองค์ทรงโน้มตัวเข้ามา พระองค์ทรงขยายและกระชับความสัมพันธ์ของพระองค์กับประชากรของพระองค์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยการขยายพันธสัญญา พวกเขาละเมิดพันธสัญญาที่มีเงื่อนไข ดังนั้นพระองค์จึงทรงทำพันธสัญญานิรันดร์ พวกเขาได้ลืมพันธสัญญา แต่พระองค์จะทรงจดจำ พวกเขาได้ละเมิดมัน และพระองค์จะทรงลบล้างบาปของพวกเขา พระองค์จะทรงชดใช้ค่าใช้จ่ายด้วยพระองค์เอง! คุณเห็นพระองค์ทรงบอกใบ้ถึงแผนการสำหรับการเสด็จมาของพระเยซูหรือไม่? นี่คือแผนการของพระองค์มาโดยตลอดที่จะนำประชากรของพระองค์กลับคืนดีกับพระองค์เอง ความรักที่มากมายเกินไปของพระเจ้าเป็นสิ่งที่น่าตกใจ ทำให้งงงวย และกระตุ้นให้เกิดการสรรเสริญ พระองค์ทรงเป็นที่ซึ่งความชื่นชมยินดีอยู่!
คำถาม
1. เอเสเคียล 16 บรรยายถึงเยรูซาเลมที่ครั้งหนึ่งเคยสวยงาม แต่กลับไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าและกลายเป็นคนนอกใจ เราจะเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างสังคมที่เคยมีคุณธรรมแต่เสื่อมโทรมลงได้อย่างไรบ้าง? และบทเรียนอะไรที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องนี้เพื่อป้องกันการล่มสลายทางศีลธรรมในสังคมของเรา?
2. เอเสเคียล 17 นำเสนอคำอุปมาเรื่องนกอินทรีสองตัวและต้นองุ่น ซึ่งแสดงถึงการผิดสัญญาและผลที่ตามมา เราจะรักษาสัญญาและความซื่อสัตย์ได้อย่างไร แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก? และผลกระทบของการผิดสัญญาต่อความสัมพันธ์และความไว้วางใจในสังคมคืออะไร?
เอเสเคียล 16 เป็นบทที่ใช้การเปรียบเทียบเชิงอุปมาอุปไมยที่ทรงพลังที่สุดบทหนึ่งในพระคัมภีร์ โดยเล่าเรื่องของกรุงเยรูซาเล็มในฐานะเด็กทารกที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนน และพระเจ้าทรงรับเลี้ยงดูจนเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงาม แต่กลับหันไปคบชู้และไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์
ข้อคิดจากเอเสเคียล 16
1. พระคุณของพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ (ความรอด): บทนี้เริ่มต้นด้วยภาพที่น่าสะเทือนใจของเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งอย่างน่าอนาถ ไม่มีใครเหลียวแล . พระเจ้าทรงผ่านมา ทรงสงสาร และทรงรับเลี้ยงดู ทรงชำระล้าง ทรงสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่สวยงามให้ ทำให้เด็กคนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงที่สง่างาม ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ถึง พระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ช่วยเราให้รอด จากสภาพที่ไร้ค่า ไร้ความหวัง และถูกทอดทิ้ง
2. ความไม่ซื่อสัตย์และบาปของมนุษย์: แม้จะได้รับพระคุณมากมายขนาดนั้น แต่หญิงสาว (กรุงเยรูซาเล็ม) กลับใช้พรที่ได้รับไปเพื่อการทำบาป เธอใช้เครื่องประดับทองคำและเงินที่พระเจ้าประทานให้ไปสร้างรูปเคารพเพื่อคบชู้กับ "คนรัก" หรือเทพเจ้าของประชาชาติอื่น ข้อคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความไม่ซื่อสัตย์และความอ่อนแอของจิตใจมนุษย์ ที่มักจะลืมพระคุณของพระเจ้าเมื่อได้สิ่งดีๆ และหันไปหาความสุขทางโลกแทน
3. ผลลัพธ์ของบาป: การคบชู้ทางวิญญาณของกรุงเยรูซาเล็มไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวเธอเอง แต่ยังรวมถึงการทำลายลูกๆ ของเธอด้วย พระเจ้าทรงเปรียบเทียบการบูชายัญบุตรหลานของพวกเขากับการที่หญิงคนนั้นมอบบุตรให้กับชู้รัก ข้อคิดนี้ชี้ให้เห็นว่า บาปนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่ากลัว และมันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตของเรา แต่ยังส่งผลกระทบถึงคนรอบข้างด้วย
4. พระเมตตาของพระเจ้าแม้ในการพิพากษา: แม้พระเจ้าจะทรงพิพากษาอย่างรุนแรงต่อความไม่ซื่อสัตย์ แต่บทนี้จบลงด้วยการให้ความหวัง พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงรื้อฟื้นพันธสัญญาของพระองค์ขึ้นมาใหม่ และแม้ว่าเธอจะละอายในความบาปของเธอ แต่พระองค์ก็จะทรงอภัยให้เสมอ ข้อคิดนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า พระเมตตาและพระคุณของพระเจ้ามีอยู่เหนือการพิพากษา และประตูแห่งการให้อภัยเปิดรับเสมอสำหรับผู้ที่กลับใจ
เอเสเคียล 16 เป็นการเปรียบเทียบที่ทรงพลังเพื่อเตือนใจผู้คนให้เห็นความจริงว่า มนุษย์อยู่ในสภาพที่สิ้นหวังและได้รับการช่วยเหลือจากพระคุณของพระเจ้า แต่กลับไม่ซื่อสัตย์ อย่างไรก็ตาม บทนี้ยังมอบความหวังว่า พระเจ้ายังคงเป็นพระเจ้าแห่งพระเมตตาและการอภัย เสมอ