เรื่องย่อ
เอเสเคียล 21-22 เต็มไปด้วยคำพยากรณ์แห่งการพิพากษาที่กำลังจะมาถึงเยรูซาเลมและแผ่นดินอิสราเอล ดาบแห่งพระพิโรธของพระเจ้าถูกชักออกมาเพื่อลงโทษความชั่วร้ายที่ฝังรากลึก เอเสเคียลพยากรณ์ถึงการล่มสลายของเยรูซาเลมซึ่งเต็มไปด้วยการนองเลือด การกดขี่ และการบูชารูปเคารพ ผู้นำและประชากรทุกชนชั้นล้วนเสื่อมทรามและละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้า ความอยุติธรรมและความรุนแรงท่วมท้นไปทั่วเมือง ทำให้เยรูซาเลมสมควรได้รับความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้าอย่างเต็มที่ พระเจ้าทรงแสวงหาผู้ที่จะยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม แต่ไม่พบใครเลย ดังนั้นพระองค์จึงเทพระพิโรธของพระองค์ลงมา เพื่อชำระแผ่นดินให้บริสุทธิ์และแสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์และความยุติธรรมของพระองค์
พระวจนะของพระเจ้าที่มาถึงเอเสเคียลในวันนี้เป็นพระวจนะที่รุนแรงและไม่เคลือบน้ำตาลเกี่ยวกับแผ่นดินอิสราเอล พระเจ้าทรงประกาศว่าจะชักดาบต่อแผ่นดินอิสราเอล ตัดทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม เอเสเคียลได้รับคำสั่งให้โศกเศร้าและเสียใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และประกาศข่าวสารแก่ทุกคนที่ถาม เขาควรสาธิตการกระทำของพระเจ้าโดยใช้ดาบจริงและแสดงทางหลวงที่มีทางแยกที่นำไปสู่เมืองหลวงของอัมโมนและเยรูซาเล็ม พระเจ้าทรงเปิดเผยว่ากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จะทรงใช้การทำนายเพื่อกำหนดว่าเส้นทางใดที่ควรเลือกก่อน ซึ่งนำไปสู่การเลือกเยรูซาเล็มเพื่อการทำลาย
พระเจ้าทรงประกาศว่า "ความพินาศ ความพินาศ ความพินาศ" จะมาถึงเยรูซาเล็มเมื่อกษัตริย์เศเดคียาห์ทรงปกครอง และพระองค์จะไม่ทรงยับยั้งการพิพากษาของพระองค์ แม้ว่าอัมโมนจะได้รับการสัญญาและการพยากรณ์เท็จ พวกเขาก็จะเป็นรายต่อไปที่จะถูกโค่นล้ม พระเจ้าทรงเรียกเยรูซาเล็มว่า "เมืองกระหายเลือด" เพราะการฆาตกรรมมากมายที่กระทำในนั้น รายการบาปของพวกเขายาวเหยียด รวมถึงการฆาตกรรม การบูชารูปเคารพ การดูหมิ่นพ่อแม่ การขูดรีดคนต่างชาติ การละเลยผู้ที่อ่อนแอที่สุดในสังคม การละเมิดวันสะบาโต การโกหก และการกระทำความไม่บริสุทธิ์ทางเพศทุกชนิด พวกเขาได้ทำให้ตนเองเป็นมลทิน และพระเจ้าจะทรงทำลายพวกเขาเพื่อตอบสนองต่อการกระทำของพวกเขาเอง
แม้ว่าพระเจ้าจะทรงประกาศว่าจะตัดทั้งคนชอบธรรมและคนอธรรม แต่พระองค์ก็ทรงให้โอกาสอิสราเอลที่จะได้รับการละเว้นโดยการพบคนชอบธรรมเพียงคนเดียวในเยรูซาเล็ม อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนชอบธรรมคนเดียวที่พบ ดังนั้นพระเจ้าจึงไม่ได้ทรงอยุติธรรม เพราะไม่มีคนชอบธรรมอยู่ในเส้นทางแห่งความพินาศ การตัดสินใจที่จะทำลายเยรูซาเล็มจึงสมเหตุสมผล และพระเจ้าทรงกระทำอย่างชอบธรรมในการลงโทษความชั่วร้ายของอิสราเอล
ข้อคิด: เอเสเคียล 21-22
พระเจ้าทรงเกลียดบาปอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งต่างจากความรู้สึกรักๆ เกลียดๆ ของมนุษย์ พระเจ้าทรงเกลียดบาปเพราะทำลายพระสิริของพระองค์และความรักที่พระองค์มีต่อบุตรของพระองค์ แม้ว่าพระเจ้าจะทรงเห็นและเกลียดบาปของเรา พระองค์ก็ยังทรงมองทะลุไปยังความชอบธรรมที่พระคริสต์ทรงประทานให้ได้ บาปส่งผลกระทบต่อความสนิทสนมในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานะที่เราเป็นบุตรของพระองค์ ความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้าต่อบาปของบุตรของพระองค์ถูกแบกรับโดยพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ ซึ่งเป็นที่มาของความชื่นชมยินดี
คำถาม
1. เอเสเคียล 21 พยากรณ์ถึงการพิพากษาด้วยดาบที่จะมาถึงเยรูซาเลม เนื่องจากความชั่วร้ายที่สะสมไว้ เราจะระบุ "ดาบ" ที่อาจกำลังคุกคามสังคมของเราได้อย่างไร? "ดาบ" เหล่านี้อาจเป็นความอยุติธรรม, การทุจริต, ความแตกแยก หรือปัญหาอื่น ๆ ที่กัดกร่อนสังคมจากภายใน เราจะตอบสนองต่อภัยคุกคามเหล่านี้อย่างไร?
2. เอเสเคียล 22 กล่าวถึงบาปต่างๆ ของเยรูซาเลม เช่น การนองเลือด, การข่มเหงคนอ่อนแอ, และการละเมิดกฎหมาย เราจะต่อสู้กับความอยุติธรรมและความชั่วร้ายที่คล้ายคลึงกันได้อย่างไร? เราจะสร้างสังคมที่ส่งเสริมความยุติธรรม, และเคารพกฎหมายได้อย่างไร?
เอเสเคียล บทที่ 21 เป็นบทที่เต็มไปด้วยคำพยากรณ์ที่น่าสะพรึงกลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพยากรณ์เรื่อง ดาบของพระเจ้า ที่จะลงโทษชาวยิวและชนชาติต่าง ๆ คำพยากรณ์นี้เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และความรุนแรง แต่ก็แฝงไว้ซึ่งข้อคิดและบทเรียนที่สำคัญหลายประการ
1. การลงโทษจากบาปและความชั่วร้าย
เอเสเคียล 21 เน้นย้ำว่า บาปและความชั่วร้ายต้องได้รับการลงโทษ ดาบของพระเจ้าไม่ใช่ดาบธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะเข้ามาชำระความไม่ชอบธรรมทั้งปวง พระเจ้าทรงใช้ดาบนี้เพื่อทำลายเยรูซาเล็มและลงโทษชาวยิวที่หันหลังให้พระองค์ รวมถึงลงโทษชนชาติรอบข้างที่โหดร้ายและกระทำความชั่วร้าย ข้อคิดจากตรงนี้คือ การกระทำของเรามีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือส่วนรวม ความยุติธรรมของพระเจ้าจะมาถึงในที่สุด และบาปจะไม่ถูกปล่อยผ่านไปโดยไม่ได้รับการแก้ไข
2. การเลือกทางเดินของเรา
ในบทที่ 21 นี้ พระองค์ทรงกล่าวถึงกษัตริย์บาบิโลนที่ต้องเลือกว่าจะเดินทัพไปทางไหน โดยมีการเสี่ยงทายและคำทำนายต่าง ๆ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์มีอิสระในการตัดสินใจ แต่ผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นถูกกำหนดไว้แล้วโดยพระประสงค์ของพระเจ้า แม้ว่ากษัตริย์จะตัดสินใจอย่างไร ดาบของพระเจ้าก็จะยังคงดำเนินไปตามทางของมันเพื่อทำลายผู้ที่สมควรถูกทำลายอยู่ดี ข้อคิดคือ พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง และแผนการของพระองค์จะสำเร็จไม่ว่ามนุษย์จะเลือกเดินเส้นทางใด
3. การพิพากษาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
เอเสเคียล 21 เน้นย้ำว่าการพิพากษาของพระเจ้า กำลังจะเกิดขึ้นและไม่มีใครสามารถหลีกหนีได้ คำว่า "ดาบ" ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเน้นย้ำความรุนแรงและความเด็ดขาดของการพิพากษาในครั้งนี้ มันเป็นคำเตือนสำหรับทุกคนว่าเวลาแห่งการสำนึกผิดและการกลับใจมีจำกัด และเมื่อถึงเวลาแล้ว การตัดสินก็จะเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ปรานี ข้อคิดคือ เราควรเตรียมพร้อมอยู่เสมอ และตระหนักว่าทุกสิ่งที่เราทำกำลังถูกบันทึกไว้ และวันแห่งการพิพากษาจะมาถึง
4. ความจำเป็นของการกลับใจ
แม้ว่าบทนี้จะเต็มไปด้วยความน่ากลัว แต่ก็แฝงไว้ซึ่งโอกาสแห่งการกลับใจและรอดพ้น การที่พระเจ้าทรงเตือนและบอกกล่าวล่วงหน้าก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนกลับใจจากความชั่วร้ายของตนเอง แม้ว่าการพิพากษาจะดูเหมือนหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การหันหลังให้กับความบาปและกลับไปหาพระเจ้าเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้รอดพ้นได้ในที่สุด
เอเสเคียล 21 สอนให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุดและทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และการกระทำของมนุษย์มีความสำคัญและมีผลตามมาเสมอ บทนี้เป็นคำเตือนที่ชัดเจนถึงการพิพากษาที่จะมาถึง และเป็นแรงกระตุ้นให้เราหันมาสำรวจชีวิตของตนเองและกลับใจจากบาปเพื่อเดินในทางที่ถูกต้อง