Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มัทธิว 15

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มาระโก 7

เรื่องย่อ

มัทธิว 15 และ มาระโก 7 เน้นถึงความขัดแย้งระหว่างพระเยซูกับผู้นำทางศาสนา โดยเน้นถึงความสำคัญของการกลับใจภายในมากกว่าการปฏิบัติตามธรรมเนียมภายนอก พระเยซูทรงตำหนิพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ที่ยึดติดกับธรรมเนียมของมนุษย์ในขณะที่ละเลยพระบัญญัติของพระเจ้า พระองค์ทรงสอนว่าสิ่งที่ทำให้คนเป็นมลทินไม่ใช่สิ่งที่เข้าไปในปาก แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากใจ การรักษาบุตรสาวของหญิงชาวฟีนิเซียเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเมตตาของพระเยซูต่อคนต่างชาติ และความเชื่อของพระองค์สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ การรักษาคนหูหนวกพูดติดอ่างแสดงให้เห็นถึงอำนาจของพระเยซูในการตอบสนองความต้องการทั้งทางกายและทางวิญญาณของผู้ที่มาหาพระองค์ เรื่องราวเหล่านี้เน้นถึงความสำคัญของการนมัสการด้วยใจจริง และธรรมชาติสากลของพระคุณของพระเจ้า ซึ่งมีให้แก่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์

 

วันนี้เราเริ่มต้นด้วยเรื่องที่พระเยซูทรงจัดการกับคำวิจารณ์ของพวกฟาริสี พวกเขาไม่พอใจที่เหล่าสาวกของพระองค์ไม่ได้ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร พระองค์ทรงตอบว่ากฎของพระเจ้ามีความสำคัญมากกว่าขนบธรรมเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้น และเน้นให้เห็นว่าพวกเขาเน้นความถูกต้องภายนอกแต่ลืมรักและสัมพันธ์ที่แท้จริงกับพระเจ้า พระองค์ทรงอ้างอิงอิสยาห์เพื่อชี้ให้เห็นว่าพวกเขาแสดงความศักดิ์สิทธิ์ในทางภายนอก แต่ในใจกลับไม่รักพระเจ้าอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า

เมื่อพระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกในส่วนลึกของใจ พระองค์เตือนว่าความบริสุทธิ์ไม่ได้มาจากการล้างมือแต่จากสิ่งที่ออกมาจากปากและใจของเรา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญคือความชอบธรรมจากความสัมพันธ์กับพระเจ้า พระองค์อธิบายว่าของกินและอาหารไม่เป็นไร ตามพระคัมภีร์ในมาระโก 7:19 พระองค์ประกาศว่าพระองค์ได้ทำความสะอาดสิ่งที่เคยถือว่าบาปของอาหารแล้ว และพวกเขาก็ไม่ควรปล่อยให้ความคิดผิดๆ เกี่ยวกับกฎหมายของชาวยิวกลายเป็นอุปสรรคต่อความเชื่อและความสัมพันธ์กับพระองค์

ต่อมาเมื่อพระองค์เดินทางไปยังดินแดนของคนต่างชาติ พระหญิงต่างชาติคนหนึ่งมาขอร้องให้พระองค์ช่วยลูกสาวที่ถูกผีสิง พระองค์ทรงรู้ดีว่าการสอบถามนี้เป็นการทดสอบความเชื่อของเธอ เธอเรียกพระองค์ว่าบุตรดาวิด เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจพระองค์ดีเพียงใด แม้จะดูเหมือนว่าพระองค์จะพูดในเชิงรุนแรงและให้เธอรอ พระองค์ก็ทรงชมเชยความเชื่อของเธอและรักษาลูกสาวให้หายดี การกระทำของพระองค์แสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงมีความรักและเมตตาแม้ต่อผู้ที่อยู่นอกพันธกิจแรกของพระองค์ และการแสดงความเมตตานี้เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งสำคัญในพระองค์คือความเชื่อและใจที่จริงใจของผู้ที่เข้าหาอย่างศรัทธาและเชื่อมั่นในพระองค์อย่างแท้จริง

 

ข้อคิด: มัทธิว 15; มาระโก 7

ประชาชน​จำนวน​มาก​พา​คน​ง่อย คน​ตา​บอด คน​พิการ คน​ใบ้ และ​คน​ป่วย​อื่นๆ มา​หา​พระองค์ แล้ว​วาง​พวก​เขา​ลง​แทบ​พระบาท​ของ​พระองค์ และ​พระองค์​ทรง​รักษา​พวก​เขา​ให้​หาย” (มัทธิว 15:30) ใน​วิวรณ์ 4:10–11 พระ​เยซู​ทรง​ประทับ​บน​พระ​ที่นั่ง​ของ​พระองค์​ใน​อาณาจักร​นิรันดร์ ที่​ซึ่ง​พวก​ผู้​อาวุโส​จะ “ถอด​มงกุฎ​ของ​ตน​วาง​ลง​ต่อ​หน้า​พระ​ที่นั่ง แล้ว​ทูล​ว่า ‘พระ​องค์​เจ้า​ของ​พวก​ข้า​พระ​องค์​ผู้​เป็น​พระ​เจ้า ทรง​สม​ควร​ที่​จะ​ได้​รับ​พระ​สิริ พระ​เกียรติ และ​ฤทธิ์​อำนาจ’ ” ช่าง​เป็น​ความ​แตกต่าง​อย่าง​มาก​ใน​สิ่ง​ที่​วาง​ไว้​แทบ​พระบาท​ของ​พระองค์ บน​โลก​นี้คือ​คน​พิการ และ​ใน​อาณาจักรคือ​มงกุฎ และ​พระ​เยซู​ทรง​ต้อนรับ​ทุก​สิ่ง พระองค์​ไม่​เพียง​แต่​รับ​มงกุฎ​และ​พระ​สิริ​เท่า​นั้น พระองค์​ทรง​อยู่​ต่อ​ไป​อีก​สาม​วัน​เพื่อ​รักษา​ทุก​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระองค์ ช่าง​เป็น​พระ​ผู้​ช่วย​ให้​รอด​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​เมตตา พระองค์​ทรง​เป็น​ที่​ซึ่ง​ความ​ยินดี​อยู่!

 

คำถาม

1.   ในมัทธิว 15:1-20 และมาระโก 7:1-23 พระเยซูทรงเผชิญหน้ากับพวกฟาริสีและธรรมาจารย์เกี่ยวกับความสำคัญของประเพณีและความสะอาดภายนอก พระองค์ทรงสอนว่าสิ่งที่ทำให้คนเป็นมลทินนั้นไม่ได้มาจากภายนอก แต่มาจากภายในหัวใจของพวกเขา คริสเตียนในปัจจุบันสามารถนำคำสอนนี้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของตนเองได้อย่างไร และเราจะตรวจสอบให้แน่ใจได้อย่างไรว่าหัวใจของเราบริสุทธิ์ต่อพระเจ้ามากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่กฎเกณฑ์ภายนอก?

2.   ในมัทธิว 15:21-28 และมาระโก 7:24-30 พระเยซูทรงรักษาลูกสาวของหญิงชาวคานาอัน หลังจากที่หญิงคนนั้นอ้อนวอนพระองค์อย่างไม่ลดละและความเชื่อของนางก็ปรากฏชัด เรื่องราวนี้สอนอะไรแก่เราเกี่ยวกับความสำคัญของความอุตสาหะในการอธิษฐานและความเชื่อ แม้ในยามที่เราเผชิญกับความท้าทายและความล่าช้า และเราจะพัฒนาความเชื่อที่เข้มแข็งพอที่จะเอาชนะอุปสรรคได้อย่างไร?

 

 

มาระโก บทที่ 7 เป็นบทที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะพระเยซูทรงปฏิวัติความคิดเรื่องความบริสุทธิ์และมลทิน โดยเน้นไปที่สภาพภายในของมนุษย์มากกว่ากฎเกณฑ์ภายนอก นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเมตตาของพระองค์ต่อคนต่างชาติ

ข้อคิดสำคัญจากมาระโกบทที่ 7 มีดังนี้:

1. การทำลายอำนาจของธรรมเนียมมนุษย์ (มก 7:1-13)

  • ธรรมเนียมไม่ใช่บัญญัติของพระเจ้า: พวกฟาริสีและธรรมาจารย์ตำหนิสาวกของพระเยซูที่ไม่ได้ล้างมือตาม "ธรรมเนียมของบรรพบุรุษ" ก่อนกินอาหาร ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น พระเยซูทรงเปิดโปงการหน้าซื่อใจคดของพวกเขาโดยอ้างถึงอิสยาห์ (มก 7:6-7)
  • การละเลยคำสั่งของพระเจ้า: พระองค์ทรงกล่าวหาพวกเขาว่า "ท่านทั้งหลายละเลยพระบัญญัติของพระเจ้าแต่กลับไปถือธรรมเนียมของมนุษย์" (มก 7:8) และยกตัวอย่างการใช้คำว่า "โกระบาน" (ของถวายแด่พระเจ้า) เพื่อหลีกเลี่ยงการดูแลบิดามารดาซึ่งเป็นการละเมิดบัญญัติข้อที่ 5 (จงให้เกียรติบิดามารดา)
  • ข้อคิด: เราต้องระวังไม่ให้กฎเกณฑ์ พิธีกรรม หรือธรรมเนียมที่เรายึดถือ (แม้จะเกิดจากความตั้งใจดี) มามีอำนาจเหนือพระวจนะและพระบัญญัติที่แท้จริงของพระเจ้า การกระทำภายนอกไม่มีความหมายหากมันขัดแย้งกับเจตนาแห่งความรักที่พระเจ้าประสงค์

2. สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นมลทินมาจากภายใน (มก 7:14-23)

  • ความบริสุทธิ์จากใจ: พระเยซูทรงสอนหลักการที่ปฏิวัติวงการศาสนาว่า "ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกที่เข้าไปในมนุษย์แล้วจะทำให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในมนุษย์นั้นแหละที่ทำให้เขามีมลทิน" (มก 7:15)
  • แหล่งที่มาของบาป: พระองค์ทรงอธิบายว่า ความคิดชั่วร้ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการผิดศีลธรรมทางเพศ, การขโมย, การฆาตกรรม, ความโลภ, ความชั่วช้า, ความหยิ่งยโส, หรือความโง่เขลา ล้วนออกมาจาก "ภายใน คือจากใจมนุษย์" (มก 7:21-23)
  • ข้อคิด: ปัญหาหลักของมนุษย์คือ สภาพใจ ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายนอกร่างกาย การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องเริ่มจากการชำระและฟื้นฟูจิตใจโดยพระเจ้า ไม่ใช่แค่การทำตามกฎระเบียบภายนอกที่เคร่งครัด

3. ศรัทธาที่ถ่อมใจและความเมตตาที่แผ่ขยาย (มก 7:24-37)

  • ศรัทธาของผู้หญิงต่างชาติ: พระเยซูทรงเดินทางไปยังเขตแดนของคนต่างชาติ (ไทระและไซดอน) และได้พบกับหญิงชาวซีโรฟีนีเซีย (คนต่างชาติ) ที่มาทูลขอให้รักษาลูกสาวของเธอ แม้พระเยซูจะเปรียบเทียบคนต่างชาติเหมือน "สุนัข" (ในบริบทที่หมายถึงคนนอกบ้าน) แต่เธอแสดง ความถ่อมใจ และ ศรัทธาที่ไม่ยอมแพ้ โดยกล่าวว่า "สุนัขก็จะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของลูก ๆ" (มก 7:28)
  • การอัศจรรย์สำหรับทุกคน: ด้วยความเชื่อของเธอ พระเยซูจึงทรงรักษาลูกสาวของเธอให้หายจากผีเข้า เป็นการแสดงให้เห็นว่าพระพรของพระเจ้าไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะชนชาติยิวเท่านั้น แต่แผ่ขยายไปยังผู้ที่มีความเชื่อด้วยความถ่อมตน
  • การฟื้นฟู: ในตอนท้าย พระเยซูทรงรักษาชายหูหนวกและพูดไม่ชัด (มก 7:31-37) ปาฏิหาริย์นี้ทำให้ผู้คนประหลาดใจและประกาศว่า "คนนี้ทำสิ่งใดก็ดีทั้งนั้น" (มก 7:37) เป็นการเน้นย้ำถึงภารกิจของพระเยซูในการฟื้นฟูโลกที่ถูกทำลายให้กลับสู่สภาพที่ "ดี" อีกครั้ง

มาระโก 7 สอนเราให้ความสำคัญกับหัวใจที่บริสุทธิ์มากกว่าการเคร่งครัดในกฎเกณฑ์ และตอกย้ำว่า ความเมตตาของพระเจ้ามีให้แก่ทุกคนที่มาหาพระองค์ด้วยความเชื่อและความถ่อมใจ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครหรือมาจากที่ใดก็ตาม