เรื่องย่อ
หลังน้ำท่วม โนอาห์บูชาพระเจ้า แสดงความขอบคุณ พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะไม่ทำลายโลกด้วยน้ำท่วมอีก โดยใช้รุ้งกินน้ำเป็นสัญลักษณ์
ต่อมา โนอาห์เมามาและถูกลูกชายคนหนึ่งเห็น ลูกชายอีกสองคนช่วยปกปิด โนอาห์สาปแช่งลูกชายที่เห็นความอัปยศ โนอาห์และลูกชายตั้งถิ่นฐานและขยายเผ่าพันธุ์
มนุษย์พยายามสร้างหอคอยบาเบล สูงถึงสวรรค์ เพื่อประกาศชื่อเสียงตนเอง พระเจ้าทรงทำให้ภาษาสับสน ทำให้การก่อสร้างล้มเหลว และทำให้มนุษย์กระจายไปทั่วโลก
เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะต่อต้านพระเจ้า และการลงโทษของพระเจ้า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเมตตาและความอดทนของพระองค์ และการขยายเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ไปทั่วโลก
ดีมากครับที่ท่านยังคงติดสนิทอ่านพระวจนะประจำวัน วันนี้เป็นวันที่สาม เนื้อเรื่องวันนี้เราจะเห็นว่า หลังน้ำท่วมใหญ่ โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โนอาห์และครอบครัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในโลกที่ถูกทำลาย และสูญเสียทุกคนที่รู้จัก พระเจ้าทรงทำตามสัญญา โดยทรงผูกพันกับโนอาห์และครอบครัว แม้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป และอายุขัยของมนุษย์สั้นลงเหลือประมาณ 120 ปี (บางคนตีความว่าเป็นช่วงเวลาระหว่างคำเตือนและน้ำท่วม)
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะไม่ทำลายโลกด้วยน้ำท่วมอีก แต่ทรงสัญญาว่าจะทำลายโลกด้วยไฟในอนาคต (ตามที่กล่าวไว้ใน 2 เปโตร 3) อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงสัญญาว่าจะมีฤดูกาลและการเก็บเกี่ยวต่อไป และทรงเรียกร้องให้มนุษย์ดูแลโลก
โนอาห์มีบทบาทสำคัญในการเริ่มต้นมนุษยชาติใหม่ พระเจ้าทรงบัญชาให้พวกเขามีลูกดก แต่พวกเขาไม่เชื่อฟัง และพยายามสร้างหอคอยบาเบล พระเจ้าจึงทำให้ภาษาสับสน และทำให้มนุษย์กระจายไปทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงอำนาจสูงสุดของพระเจ้า ที่ทรงดำเนินแผนการของพระองค์ แม้มนุษย์จะต่อต้าน
เรื่องราวของฮาม ที่กระทำการล่วงละเมิดต่อโนอาห์ นำไปสู่การสาปแช่งต่อลูกหลานของเขา คือชาวคานาอัน แต่พระเจ้าก็ทรงแสดงความเมตตา โดยทรงไถ่คนนอกกลุ่ม เช่น ราฮับ แสดงให้เห็นถึงความรักและการไถ่บาปของพระเจ้าต่อทุกคน แม้แต่ศัตรูของพระองค์
ข้อคิด: ปฐมกาล 4-7
พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความรักและพระเมตตา แต่พระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ ทั้งทรงอวยพรและทรงสาปแช่ง แม้กระทั่งต่อศัตรูของพระองค์ พระองค์ทรงติดตามมนุษย์ที่ตกอยู่ในความบาป ไม่ใช่เพื่อลงโทษ แต่เพื่อนำความรอด เช่นเดียวกับที่ทรงทำกับอาดัมและเอวา พระองค์ทรงสวมความชอบธรรมให้แก่เรา ทำให้เราเป็นครอบครัวของพระองค์ และพระองค์ทรงอยู่ ณ ที่ซึ่งมีความชื่นชมยินดี
คำถาม
- การทำงานร่วมกันและการร่วมมือ: การสร้างหอคอยบาเบลแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะทำงานร่วมกัน แต่กลับนำไปสู่ความล้มเหลว เราควรทำงานร่วมกันและร่วมมือกันอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน? เราจะสร้างความร่วมมือที่ดีในทีมได้อย่างไร? เราจะแก้ไขความขัดแย้งในทีมงานอย่างไร?
- ความสำคัญของการสื่อสาร: ความสับสนของภาษาที่เกิดขึ้นที่บาเบลแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารที่ดี เราควรปรับปรุงทักษะการสื่อสารของเราได้อย่างไร? เราจะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจกันได้อย่างไร?
หอคอยบาเบล: ตำนานแห่งความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม
หอคอยบาเบล เป็นตำนานที่ปรากฏในพระคัมภีร์เดิม (ปฐมกาล บทที่ 11) ซึ่งเล่าถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะสร้างหอคอยสูงเสียดฟ้าเพื่อจะได้ขึ้นไปถึงสวรรค์ แต่พระเจ้าไม่พอพระทัยจึงได้ทรงทำให้มนุษย์พูดภาษาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักและมนุษย์ต้องแยกย้ายกันไป
ความหมายและความสำคัญของตำนานหอคอยบาเบล
- ความแตกต่างทางภาษาและวัฒนธรรม: ตำนานนี้มักถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายว่าทำไมมนุษย์จึงมีภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
- ความทะเยอทะยานของมนุษย์: หอคอยบาเบลเป็นสัญลักษณ์ของความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่ต้องการจะเทียบเท่ากับพระเจ้า
- ความสำคัญของความสามัคคี: เมื่อมนุษย์ไม่สามัคคีกันก็จะเกิดความแตกแยกและล้มเหลวในการทำงานร่วมกัน
หอคอยบาเบลในปัจจุบัน
แม้ว่าหอคอยบาเบลจะเป็นเพียงตำนาน แต่ก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับสังคมปัจจุบันในหลายแง่มุม เช่น
- ความหลากหลายทางวัฒนธรรม: ตำนานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมของโลก
- ความท้าทายในการสื่อสาร: ในโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางภาษา การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- ความสำคัญของความสามัคคี: แม้จะมีความแตกต่าง แต่การร่วมมือกันก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น