เรื่องย่อ
โยบเป็นคนดีและร่ำรวย มีครอบครัวที่สุขสบาย แต่ซาตานท้าทายพระเจ้าว่าโยบจะยังคงซื่อสัตย์หรือไม่หากต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก พระเจ้าอนุญาตให้ซาตานทดสอบโยบ ส่งผลให้โยบสูญเสียทรัพย์สิน ครอบครัว และสุขภาพ แต่เขายังยึดมั่นในความเชื่อและไม่ด่าทอพระเจ้า
เพื่อนสามคนของโยบมาเยี่ยมและพยายามปลอบโยนเขา แต่การปลอบโยนกลับทำให้โยบทุกข์ใจมากขึ้น เพราะพวกเขาเชื่อว่าความทุกข์มาจากการทำบาป โยบมั่นใจว่าเขาเป็นคนดีและปฏิเสธข้อกล่าวหาของเพื่อน ๆ การโต้เถียงระหว่างโยบกับเพื่อนกินเวลานาน เขาตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของพระเจ้า ขณะที่เพื่อน ๆ พยายามอธิบายว่าสาเหตุของความทุกข์คือบาป
สุดท้าย พระเจ้าได้ปรากฏตัวและตำหนิเพื่อน ๆ ที่ตีความผิด จากนั้นทรงแสดงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ก่อนจะฟื้นฟูโยบให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิม ทั้งในด้านทรัพย์สิน ครอบครัว และสุขภาพ เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อ ความอดทน และคำถามของมนุษย์ต่อความทุกข์ยาก พร้อมทั้งการแสดงอำนาจและความยุติธรรมของพระเจ้า
วันนี้เป็นวันที่สี่ พี่น้องคงจะเริ่มชินกับการอ่านพระคัมภีร์ทุกวันแล้ว ขอพระเจ้าเสริมกำลังครับ เรื่องราวในโยบบทที่ 1-5 เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกประมาณสี่ร้อยปี และเราพบกับโยบ ชายที่มีคุณธรรมและยำเกรงพระเจ้า เรื่องราวของโยบคล้ายกับโนอาห์ คือเริ่มมีปัญหา แต่ลงเอยด้วยการได้รับการบรรเทาทุกข์
ในบทที่ 1:6 มีการกล่าวถึงทูตสวรรค์ในฐานะ "บุตรของพระเจ้า" รวมถึงซาตาน ซึ่งหมายถึง "ศัตรู" หรือ "ผู้กล่าวโทษ" ไม่จำเป็นว่าซาตานจะหมายถึงลูซิเฟอร์เสมอไป แต่หมายถึงทูตสวรรค์ที่กลายเป็นศัตรูกับพระเจ้า
เมื่อพระเจ้าเริ่มสนทนาเรื่องโยบกับซาตาน ซาตานก็คิดแผนทดสอบโยบ ซึ่งพระเจ้าอนุญาต แต่ได้จำกัดอำนาจของซาตานไว้ คือไม่ให้พรากชีวิตของโยบ ซาตานโจมตีโยบด้วยเหตุการณ์จากทั้งการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติ แต่โยบยังคงสัตย์ซื่อและไม่กล่าวโทษพระเจ้า
เพื่อนสามคนของโยบมาปลอบโยนเขา โดยนั่งอยู่กับเขาอย่างเงียบๆ ซึ่งให้อิทธิพลในทางที่ดี แต่เมื่อพวกเขาเริ่มพูด เช่น เอลีฟาซ ซึ่งอ้างว่ามีพระวจนะจากพระเจ้ามาบอกโยบว่าทำสิ่งผิด ปรากฏว่าเขาคิดผิด
เรื่องนี้สอนเราว่าการปลอบโยนกันด้วยความเงียบสามารถมีพลังมาก และคำแนะนำที่ไม่ดีอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง พรุ่งนี้เราจะได้เห็นว่าโยบตอบสนองเพื่อนๆ ของเขาอย่างไร
ข้อคิด: โยบ 1-5
อำนาจสูงสุดของพระเจ้าเหนือความชั่วร้ายเป็นแหล่งปลอบใจสำหรับลูกๆ ของพระองค์ พระเจ้าทรงจำกัดสิ่งที่ศัตรูสามารถทำได้ และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับโยบมีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าจากพระเจ้า เรื่องราวนี้อาจเต็มไปด้วยความเศร้า แต่ท้ายที่สุดก็มีความสุข จึงควรมองหาพระเจ้าในช่วงเวลาที่มืดมน เพราะพระองค์คือแหล่งความชื่นชมยินดี!
คำถาม
- การตอบสนองต่อความทุกข์: เพื่อนของโยบพยายามจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับความทุกข์ของโยบ แต่คำอธิบายของพวกเขาไม่ได้ช่วยปลอบโยนโยบ คำตอบที่เหมาะสมต่อความทุกข์คืออะไร? การยอมรับชะตา? การหาคำตอบทางจิตวิญญาณ? หรือการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม?
- ความเชื่อและความสงสัย: โยบแสดงความสงสัยและความโกรธต่อพระเจ้า นี่เป็นเรื่องปกติของผู้คนเมื่อเผชิญกับความทุกข์ การแสดงความสงสัยต่อพระเจ้าเป็นการแสดงความไม่เชื่อหรือไม่? หรือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางจิตวิญญาณ?
ลูซิเฟอร์ (Lucifer): จากทูตสวรรค์สู่จอมมาร
ลูซิเฟอร์ เป็นชื่อที่ปรากฏในพระคัมภีร์เก่า โดยมีความหมายดั้งเดิมว่า "ผู้นำแสง" หรือ "ดาวรุ่งอรุณ" ซึ่งสื่อถึงความสวยงามและความรุ่งโรจน์ แต่ในความเชื่อของศาสนาคริสต์ ลูซิเฟอร์ถูกพรรณนาให้เป็นทูตสวรรค์ชั้นสูงที่ก่อกบฏต่อพระเจ้า จนถูกขับไล่ออกจากสวรรค์และกลายเป็นซาตาน จอมมารแห่งนรก
ลูซิเฟอร์ในพระคัมภีร์
- ทูตสวรรค์ที่งดงาม: เดิมที ลูซิเฟอร์เป็นทูตสวรรค์ที่สวยงามและมีอำนาจมากที่สุดในสวรรค์
- ความทะเยอทะยาน: ลูซิเฟอร์มีความทะเยอทะยานอยากจะเทียบเท่ากับพระเจ้า จึงก่อกบฏชักชวนทูตสวรรค์ฝักใฝ่ตนให้ร่วมด้วย
- การลงโทษ: พระเจ้าทรงลงโทษลูซิเฟอร์และเหล่าทูตสวรรค์ที่ก่อกบฏ โดยขับไล่ออกจากสวรรค์ลงสู่นรก
- การเปลี่ยนแปลง: หลังจากตกนรก ลูซิเฟอร์กลายเป็นซาตาน จอมมารที่คอยล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป
ความแตกต่างระหว่างลูซิเฟอร์และซาตาน
- ลูซิเฟอร์: ชื่อเดิมของทูตสวรรค์ก่อนที่จะก่อกบฏ มักมีความหมายถึงความสวยงามและความรุ่งโรจน์
- ซาตาน: ชื่อที่ใช้เรียกลูซิเฟอร์หลังจากที่ตกนรก หมายถึงศัตรูของพระเจ้าและผู้ก่อความชั่วร้าย