Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มัทธิว 19

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
มาระโก 10

เรื่องย่อ

ในมัทธิว บทที่ 19 และ มาระโก บทที่ 10 พระเยซูทรงสอนเรื่องความสำคัญของการแต่งงานและความผูกพันระหว่างสามีภรรยา พระองค์ทรงยืนยันว่าการหย่าร้างนั้นไม่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าเว้นแต่ในกรณีของการผิดประเวณี นอกจากนี้ พระองค์ทรงต้อนรับและอวยพรเด็กเล็ก ๆ โดยเน้นว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของผู้ที่มีใจเหมือนเด็ก พระเยซูยังทรงสนทนากับเศรษฐีหนุ่มผู้มั่งคั่งที่ถามถึงวิธีการที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์ พระองค์ทรงบอกเขาให้รักษากฎบัญญัติ และเมื่อเศรษฐีหนุ่มบอกว่าเขาได้ทำตามทุกสิ่งแล้ว พระเยซูทรงท้าทายเขาให้ขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดและติดตามพระองค์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าความมั่งคั่งทางโลกอาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ พระองค์ทรงสอนว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ด้วยพระเจ้า และผู้ที่ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระองค์จะได้รับผลตอบแทนมากมายในชีวิตนี้และในชีวิตที่จะมาถึง

 

ชีวิตของมนุษย์ไม่มีส่วนใดที่พระเจ้าไม่ได้ทรงแตะต้องหรือมีแผนการไว้ พระองค์ทรงอำนาจอธิปไตยเหนือทุกสิ่ง ดังนั้นเมื่อพระเยซูทรงสอนเรื่องการหย่าร้าง เราสามารถวางใจในพระปัญญาของพระองค์ได้ แม้เราจะมีพลาดพลั้ง พระองค์ก็ยังคงยกโทษและชำระความบาปของเรา คำกล่าวในพระธรรมว่า “ไม่มีการลงโทษแก่คนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์” เป็นสัญลักษณ์ของการให้อภัยและความรักที่พระองค์มีต่อผู้ติดตามของพระองค์ โดยแม้เราจะอ่อนแอ แต่ความกรุณาของพระเจ้าจะนำเราไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

พวกฟาริสีถามพระเยซูเกี่ยวกับความถูกต้องของการหย่าร้าง ซึ่งพระองค์ได้ชี้ให้เห็นว่าต้นเหตุคือความแข็งกระด้างของใจ เฉกเช่นกฎหมายของโมเสสที่ให้ผู้ชายหย่าภรรยาที่ไม่ซื่อสัตย์ได้ ความจริงแล้วพระเจ้าต้องการให้มีใจอ่อนโยน การหย่าร้างจึงไม่ควรเกิดขึ้นหากใจเต็มไปด้วยความรักและการอภัย พระเยซูทรงทำลายหรือปรับเปลี่ยนธรรมเนียมที่ไม่เข้ากับจิตใจของกฎหมายพระเจ้า สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานของพระเจ้าที่สูงส่งมากกว่าที่มนุษย์บ่อยครั้งแสวงหาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

ในยุคของพระเยซู การหย่าร้างมีความหมายมากกว่าที่เห็น เนื่องจากผู้หญิงไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ หากหย่าร้างพวกเธอมักต้องแต่งงานใหม่เพื่อความอยู่รอด พระธรรมในมาระโกและจดหมายของเปาโลกล่าวถึงมาตรฐานทางศาสนาเกี่ยวกับการหย่าร้างและการแต่งงานใหม่ แสดงถึงการแยกแยะระหว่างสิ่งที่พระเจ้าสั่งกับสิ่งที่เปาโลกล่าว โดยเปาโลชี้แนะว่าผู้ที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้าสามารถไปจากกันได้ แต่ไม่ควรผูกมัดในการแต่งงานที่ไม่มีความรัก คำสอนเช่นนี้ชี้ชัดถึงความยุ่งยากและความซับซ้อนของชีวิตแต่งงานแต่ยังคงแนวทางของการมีชีวิตอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรมตามหลักศาสนา

Top of Form

 

ข้อคิด: มัทธิว 19; มาระโก 10

พระเยซูสอนว่าความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงมาจากการรับใช้ผู้อื่น และการเป็นเลิศหมายถึงการเป็นผู้รับใช้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เหมือนที่พระเยซูเสด็จมาไม่ใช่เพื่อให้ผู้คนปรนนิบัติพระองค์ แต่เพื่อปรนนิบัติและมอบชีวิตเป็นค่าไถ่ของคนจำนวนมาก การที่พระองค์ปฏิเสธคำขอของยากอบและยอห์นไม่ได้หมายความว่าพระองค์ไม่ได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่พวกเขา ตรงกันข้าม พระองค์เสนอสิ่งที่ยิ่งใหญ่และนิรันดร์ยิ่งกว่าที่พวกเขาเข้าใจในตอนนั้น เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้าและเห็นพระเยซูประทับอยู่ข้างขวาของพระบิดา พวกเขาจะเข้าใจว่าการปฏิเสธนั้นเป็นการตอบสนองที่ดีที่สุดที่พระเจ้าประทานให้ เพราะในแผนการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับยอห์นก็ดีที่สุดสำหรับยากอบ และย่อมดีที่สุดสำหรับทุกคนด้วย พระองค์ทรงปรนนิบัติเราตลอดเวลาและมอบของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์คือแหล่งแห่งความชื่นชมยินดีเสมอ!

 

คำถาม

1.   พระเยซูทรงเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของการแต่งงานและการผูกพันระหว่างสามีภรรยา ในสังคมปัจจุบันที่การหย่าร้างเป็นเรื่องธรรมดา เราจะสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันการแต่งงานตามหลักพระคัมภีร์ได้อย่างไร? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงบทบาทของคริสเตียนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยั่งยืน)

2.   พระเยซูทรงท้าทายชายหนุ่มผู้มั่งคั่งให้ขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดและติดตามพระองค์ เราจะประเมินความสัมพันธ์ของเรากับความมั่งคั่งและวัตถุนิยมอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มากกว่าการติดตามพระคริสต์และรับใช้ผู้อื่น? (คำถามนี้กระตุ้นให้พิจารณาถึงการใช้ทรัพย์สินเพื่อพระสิริของพระเจ้า และการมีชีวิตที่เรียบง่ายและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่)

 

 

มาระโกบทที่ 10 มีข้อคิดที่สำคัญหลายประการที่ครอบคลุมเรื่องความสัมพันธ์ การเป็นสาวก และอาณาจักรของพระเจ้า โดยมีข้อคิดหลักๆ ดังนี้:

1.      ความสำคัญของการแต่งงาน:

o    พระเยซูทรงเน้นย้ำถึงจุดประสงค์เดิมของการแต่งงานที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ตั้งแต่แรก คือให้ชายหญิงเป็น "เนื้อเดียวกัน" และไม่ควรให้มนุษย์มาแยกสิ่งที่พระเจ้าทรงรวมกันไว้ (มาระโก 10:6-9)

o    ทรงสอนว่าการหย่าร้างและการแต่งงานใหม่โดยไม่มีข้อยกเว้นที่ถูกต้องตามหลักการของพระเจ้าอาจเป็นการผิดประเวณี (มาระโก 10:11-12) ซึ่งเน้นความผูกพันและพันธสัญญาที่ยั่งยืน

2.      การต้อนรับอาณาจักรของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็ก:

o    พระเยซูทรงสอนถึงความสำคัญของการมีคุณสมบัติเหมือนเด็กเล็กๆ ในการเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้า (มาระโก 10:14-15)

o    หมายถึงการมีความถ่อมใจ ความไว้วางใจ ความซื่อตรง และความบริสุทธิ์ใจอย่างเด็กๆ

3.      อุปสรรคของความมั่งคั่งในการติดตามพระเจ้า:

o    เรื่องของเศรษฐีหนุ่มที่ร่ำรวยแสดงให้เห็นว่าความรักในทรัพย์สมบัติและความมั่งคั่งอาจเป็นอุปสรรคใหญ่ในการติดตามพระเยซูอย่างแท้จริง (มาระโก 10:17-27)

o    พระเยซูตรัสว่า "คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงๆ" และใช้คำอุปมาว่า "อูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า" (มาระโก 10:23, 25)

o    ข้อคิดคือ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ แต่ เป็นไปได้สำหรับพระเจ้า (มาระโก 10:27) โดยการวางใจในพระองค์

4.      การรับใช้และความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง:

o    เมื่อสาวกแก่งแย่งตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ พระเยซูทรงสอนว่าความยิ่งใหญ่ในอาณาจักรของพระเจ้ามาจากการ รับใช้ผู้อื่น (มาระโก 10:43-45)

o    พระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง คือ "บุตรมนุษย์มา ไม่ได้มาเพื่อให้คนอื่นปรนนิบัติ แต่มาเพื่อจะปรนนิบัติคนอื่น และประทานชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนจำนวนมาก" (มาระโก 10:45)

5.      ความเชื่อที่ไม่ย่อท้อและการตอบรับของพระเจ้า:

o    เรื่องราวของบารทิเมอัสคนตาบอดแสดงถึง ความเชื่อที่ไม่ย่อท้อ แม้จะถูกห้ามปราม เขาก็ยังร้องเรียกขอความเมตตาจากพระเยซูอย่างดังขึ้น (มาระโก 10:46-52)

o    ความเชื่อของเขาทำให้เขาได้รับการรักษา และเขาก็เลือกที่จะติดตามพระเยซูไปตามทาง (มาระโก 10:52)

โดยรวมแล้ว บทที่ 10 เน้นย้ำเรื่อง การเป็นสาวกอย่างแท้จริง ซึ่งต้องแลกมาด้วยการสละ การถ่อมใจ การรับใช้ และการมีชีวิตที่มุ่งเน้นอาณาจักรของพระเจ้ามากกว่าความมั่งคั่งทางโลก