เรื่องย่อ

กิจการบทที่ 17 บันทึกการเดินทางประกาศข่าวประเสริฐของเปาโลและสิลาสในเมืองต่างๆ เปาโลได้เทศนาในธรรมศาลาที่เมืองเธสะโลนิกา ทำให้บางคนเชื่อและเกิดการกลับใจ แต่ชาวยิวที่ไม่เชื่อกลับยุยงฝูงชนให้ก่อจลาจล จนต้องเดินทางต่อไปยังเมืองเบโรอา ที่ซึ่งชาวยิวที่นั่นมีจิตใจเปิดกว้างและตรวจสอบพระคัมภีร์ทุกวัน ทำให้มีผู้เชื่อจำนวนมาก หลังจากเกิดการต่อต้านอีกครั้ง เปาโลก็เดินทางไปยังกรุงเอเธนส์เพียงลำพัง ที่นั่นท่านได้เทศนาต่อหน้าปัญญาชนชาวกรีก ณ เนินเขาอาริโอปากัส โดยใช้รูปเคารพ "พระเจ้าที่ไม่รู้จัก" เป็นจุดเริ่มต้นในการประกาศเรื่องพระเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์แผ่นดินโลก และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู แม้บางคนจะเยาะเย้ย แต่ก็มีบางคนสนใจที่จะฟังอีก และบางคนก็เชื่อในที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของเปาโลในการเข้าถึงกลุ่มคนหลากหลายทางวัฒนธรรมด้วยข่าวประเสริฐ

เปาโลและสิลาสเดินทางไปยังเมืองเธสะโลนิกา ที่ซึ่งเปาโลใช้เวลาสามวันในการเทศนาในธรรมศาลา ท่านไม่ได้อาศัยเพียงคำพยานส่วนตัว แต่เน้นการนำเสนอหลักฐานจากพระคัมภีร์เพื่อแสดงว่าพระเยซูคือพระเมสสิยาห์ที่ผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ การกระทำของท่านก่อให้เกิดการแบ่งแยก ผู้ที่ไม่เชื่อรวมตัวกันก่อจลาจล และลากยาโสนกับคนอื่นๆ ไปหาเจ้าหน้าที่ โดยกล่าวหาว่าพวกเขากบฏต่อซีซาร์ ยาโสนต้องวางเงินประกันตัวทุกคน ซึ่งอาจเป็นข้อตกลงลับเพื่อให้เปาโลและสิลาสออกจากเมืองไปในที่สุด

เมื่อเดินทางออกจากเธสะโลนิกากลางดึก เปาโลและสิลาสก็มุ่งหน้าไปยังเมืองเบโรอา ที่นั่นเปาโลยังคงเทศนาในธรรมศาลา แต่ชาวเบโรอาแสดงความแตกต่าง พวกเขาไม่ได้เชื่อคำพูดของเปาโลในทันที แต่ตรวจสอบพระคัมภีร์ทุกวันเพื่อยืนยันคำสอนของท่านอย่างรอบคอบ ด้วยใจที่เปิดกว้างแต่ไม่ยอมรับทุกสิ่ง ซึ่งเป็นแบบอย่างของสติปัญญาและความถ่อมใจ ทำให้หลายคนเชื่อในพระเยซู อย่างไรก็ตาม ข่าวการเทศนาของเปาโลไปถึงเธสะโลนิกา ทำให้ผู้ที่ไม่เชื่อตามมาถึงเบโรอาเพื่อพยายามหยุดยั้งท่าน ทำให้เปาโลต้องออกเดินทางต่อไปในขณะที่สิลาสและทิโมธียังคงอยู่ที่นั่น

เปาโลเดินทางมาถึงเอเธนส์ เมืองที่เต็มไปด้วยรูปเคารพ ปรัชญา และแนวคิดใหม่ๆ ผู้คนในเอเธนส์เป็นนักแสวงหาแต่ไม่ใช่ผู้ค้นพบ เปาโลจึงปรับวิธีการสื่อสารให้เข้ากับภูมิปัญญาของพวกเขา โดยอ้างอิงจากนักปรัชญาและกวีที่พวกเขารู้จัก ท่านชี้ให้เห็นถึงแท่นบูชา "แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก" และอธิบายว่าพระเจ้าผู้สร้างมนุษย์คือผู้ที่พวกเขากำลังแสวงหา และพระองค์จะทรงพิพากษาโลกโดยพระเยซูผู้ซึ่งทรงให้เป็นขึ้นจากตาย การเทศนานี้ทำให้บางคนเยาะเย้ยแนวคิดเรื่องการฟื้นคืนพระชนม์ แต่ก็มีคนอื่นๆ ที่เชื่อรวมถึงดิโอนิซิอัสและดามาริส

ข้อคิด: กิจการ 17

เปาโลอ้างคำกล่าวจากกวีชาวกรีกว่า "เพราะว่าเรามีชีวิตและเคลื่อนไหวและเป็นอยู่ก็โดยพระองค์" (กิจการ 17:28) เพื่อเน้นย้ำความจริงอันเป็นสากลเกี่ยวกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้สร้าง เพราะความจริงทั้งปวงล้วนมาจากพระองค์และชี้กลับไปที่พระองค์เสมอ ในพระองค์เราจึงมีชีวิต ซึ่งพระองค์คือชีวิตของเรา เราเคลื่อนไหวในทางของพระองค์ และเราดำรงอยู่ในความจริงแท้แห่งการเป็นอยู่ของเรา พระองค์คือแก่นแท้ของทุกสิ่ง และเป็นแหล่งที่มาของความชื่นชมยินดีอย่างแท้จริง

คำถาม

1.   เมื่อคุณต้องสื่อสารวัตถุประสงค์ ความเชื่อ หรือคุณค่าหลักของคุณกับผู้คนที่มีพื้นฐานความคิด วัฒนธรรม หรือความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คุณจะทำอย่างไรเพื่อเชื่อมโยงกับพวกเขาและนำเสนอความจริงในแบบที่เข้าถึงได้โดยไม่ประนีประนอมกับแก่นแท้ของสิ่งที่คุณเชื่อ? (พิจารณาจากเปาโลที่อ้างอิงถึงแท่นบูชา "แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก" และบทกวีของนักปราชญ์ชาวกรีก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการประกาศพระเจ้าผู้ทรงสร้างจักรวาลบนเนินเขาอาเรโอปากัสในกรุงเอเธนส์ วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่กระตุ้นให้คุณแสวงหาวิธีการที่สร้างสรรค์ เข้าใจผู้ฟัง และเข้าถึงวัฒนธรรมเพื่อแบ่งปันสิ่งที่มีคุณค่าในใจคุณ?)

2.   ท่ามกลางผู้คนที่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์หรือสารที่คุณนำเสนอด้วยการเยาะเย้ย การปฏิเสธ หรือความสนใจอย่างผิวเผิน เทียบกับผู้ที่แสวงหาความจริงด้วยใจเปิดกว้าง คุณจะรักษาสติปัญญาในการแยกแยะและตอบสนองต่อแต่ละสถานการณ์อย่างไร เพื่อให้เวลาและพลังงานของคุณถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างแท้จริง? (ไตร่ตรองถึงปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของผู้คนในเธสะโลนิกา เบโรอา และเอเธนส์ บางคนเยาะเย้ย บางคนตรวจสอบพระคัมภีร์ด้วยความกระตือรือร้น และบางคนต้องการฟังเพิ่มเติมหรือเชื่อ วัตถุประสงค์ในชีวิตของคุณคืออะไรที่ทำให้คุณมีความอดทนต่อการปฏิเสธ และมีความเข้าใจที่จะมุ่งเน้นพลังงานของคุณไปที่ผู้ที่เปิดใจอย่างแท้จริง?)

กิจการ บทที่ 17 เป็นบทที่มีความสำคัญมาก เพราะแสดงให้เห็นการเดินทางของอาจารย์เปาโลไปยัง 3 เมืองที่มีบริบทต่างกัน คือ เธสะโลนิกา, เบโรอา และ เอเธนส์ ซึ่งแต่ละเมืองให้ข้อคิดที่นำมาปรับใช้กับชีวิตได้แตกต่างกันไป

นี่คือสรุปข้อคิดสำคัญจากบทนี้ครับ:

1. แบบอย่างของ "ชาวเบโรอา" (The Noble Bereans)

นี่คือหนึ่งในข้อคิดที่โด่งดังที่สุดจากบทนี้ ชาวเมืองเบโรอาได้รับคำชมว่าเป็นคน "จิตใจสูง" (Noble)

• เปิดใจแต่ไม่เชื่อง่าย: พวกเขารับฟังถ้อยคำของเปาโลด้วยความกระตือรือร้น แต่ไม่ได้เชื่อทันทีอย่างหลับหูหลับตา
• การตรวจสอบความจริง: พวกเขา "ค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน" เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่เปาโลสอนนั้นตรงกับความจริงหรือไม่
• ข้อคิด: เราควรมีท่าทีแบบชาวเบโรอา คือมีความกระหายที่จะเรียนรู้ แต่ต้องรู้จักไตร่ตรอง วิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ (เช่น พระคัมภีร์ หรือข้อเท็จจริง) ไม่ใช่เชื่อตามกระแสหรือตามตัวบุคคล

2. ศิลปะการสื่อสารและ "การสร้างสะพาน" (เปาโลที่เอเธนส์)

เมื่อเปาโลไปถึงกรุงเอเธนส์ ซึ่งเต็มไปด้วยรูปเคารพ ท่านไม่ได้เริ่มต้นด้วยการด่าทอหรือโจมตีความเชื่อของพวกเขา แต่ท่านใช้วิธีที่ชาญฉลาด:

• ช่างสังเกตและหาจุดร่วม: เปาโลเดินสำรวจและเห็นแท่นบูชาที่เขียนว่า "แด่พระเจ้าที่ไม่รู้จัก" ท่านใช้สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการแนะนำพระเยซู
• ใช้ภาษาวัฒนธรรมของผู้ฟัง: เมื่อพูดกับคนยิว ท่านใช้พระคัมภีร์ แต่เมื่อพูดกับชาวกรีกที่สภาอาเรโอปากัส ท่านอ้างอิงกวีของชาวกรีกและใช้ตรรกะปรัชญา เพื่อให้พวกเขาเข้าใจ
• ข้อคิด: การจะแบ่งปันความเชื่อหรือสื่อสารเรื่องสำคัญกับใคร เราต้องเข้าใจบริบทของเขา หา "จุดร่วม" ให้เจอ และพูดในภาษาที่เขาเข้าใจได้ แทนที่จะสร้างกำแพงใส่กัน

3. พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยสิ่งปลูกสร้าง

ในคำเทศนาของเปาโลที่เอเธนส์ ท่านย้ำความจริงทางศาสนศาสตร์ที่สำคัญมาก:

• พระเจ้าทรงสร้างโลก: พระองค์เป็นผู้ประทานชีวิต ลมหายใจ และทุกสิ่ง
• ไม่อยู่ในวิหารที่มนุษย์สร้าง: พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เกินกว่าจะถูกจำกัดอยู่ในรูปเคารพทองคำ เงิน หรือหิน และพระองค์ไม่ได้ต้องการการปรนนิบัติจากมือมนุษย์เหมือนว่าพระองค์ขาดแคลนอะไร
• ข้อคิด: พระเจ้าทรงอยู่ใกล้เรามากกว่าที่เราคิด และพระองค์ทรงยิ่งใหญ่เกินกว่าวัตถุใดๆ การนมัสการที่แท้จริงจึงเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ไม่ใช่แค่เรื่องของสถานที่หรือวัตถุมงคล

4. การตอบสนองที่หลากหลายเป็นเรื่องปกติ

เมื่อเปาโลประกาศเรื่องการ "เป็นขึ้นมาจากความตาย" ปฏิกิริยาของผู้ฟังแบ่งเป็น 3 กลุ่มชัดเจน:

1.      กลุ่มเยาะเย้ย: มองเป็นเรื่องไร้สาระ

2.      กลุ่มลังเล: บอกว่า "ไว้วันหลังจะฟังเรื่องนี้อีก" (สนใจแต่ยังไม่ตัดสินใจ)

3.      กลุ่มที่เชื่อ: ติดตามเปาโลและเชื่อถือ (เช่น ดิโอนิสิอัส และ ดามาริส)

• ข้อคิด: เมื่อเราทำสิ่งที่ถูกต้องหรือประกาศความจริง อย่าคาดหวังว่าทุกคนจะเห็นด้วยเสมอไป จะมีทั้งคนที่ต่อต้าน คนที่เฉยๆ และคนที่เห็นด้วย หน้าที่ของเราคือทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ส่วนผลลัพธ์อยู่ที่ใจของผู้ฟังและการทรงนำ

กิจการ 17 สอนให้เรามี สมองแบบชาวเบโรอา (คิดวิเคราะห์ ตรวจสอบ) และมี หัวใจแบบเปาโลที่เอเธนส์ (เข้าใจเพื่อนมนุษย์ สื่อสารด้วยปัญญา และกล้าหาญในความจริง)