Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 โครินธ์ 9

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 โครินธ์ 10

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
1 โครินธ์ 11

เรื่องย่อ

อัครทูตเปาโลได้นำชาวโครินธ์ไปสู่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง โดยเริ่มจากการวางแบบอย่างการไม่เรียกร้องสิทธิของตนเอง เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการรับใช้พระเจ้าและนำวิญญาณมาถึงความรอด พร้อมทั้งเตือนให้ระมัดระวังบทเรียนจากความล้มเหลวของอิสราเอลในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงการนมัสการรูปเคารพและการทดลองพระเจ้า ไม่ให้การกระทำใดๆ ของตนเป็นเหตุให้ผู้อื่นสะดุดหรือล้มลงในความเชื่อ ท้ายที่สุด เปาโลได้เน้นย้ำถึงระเบียบและความเหมาะสมในการนมัสการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตนในพิธีมหาสนิท ซึ่งไม่ใช่แค่การกินอาหาร แต่เป็นการระลึกถึงพระกายและพระโลหิตของพระคริสต์ที่ถูกประทานเพื่อพวกเขา อันเรียกร้องการสำรวจตนเองและการรับประทานด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้ทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการกิน ดื่ม หรือสิ่งใดก็ตาม ล้วนกระทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าและเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

 

เปาโลแสดงให้เห็นถึงการอุทิศตนอย่างแท้จริงโดยการปฏิเสธการสนับสนุนทางการเงินจากชาวโครินธ์ เพื่อป้องกันข้อสงสัยในแรงจูงใจของท่าน และเน้นย้ำว่าการเป็นอัครทูตของท่านมาจากการแต่งตั้งจากพระเจ้าโดยตรง ไม่ใช่จากมนุษย์ การเสียสละส่วนตัวนี้ช่วยให้ท่านสามารถประกาศข่าวประเสริฐได้อย่างเสรี แม้ว่าบางคนอาจมองข้ามคุณค่าของท่านไปก็ตาม ท่านยังเตือนให้ระมัดระวังการบูชารูปเคารพและบาปทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในประวัติศาสตร์ของประชากรของพระเจ้า โดยเน้นย้ำว่าบาปทุกรูปแบบคือการแสดงออกถึงการบูชาตนเอง การตระหนักถึงความอ่อนแอของเราและถ่อมใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความเย่อหยิ่งคือรากเหง้าของบาปทั้งมวล และแม้ว่าการล่อลวงจะมาถึง แต่พระเจ้าก็ทรงประทานอำนาจในการต่อต้านให้เสมอ

ท่านกล่าวถึงปัญหาเรื่องอาหารที่บูชาแก่รูปเคารพอีกครั้ง โดยแยกแยะระหว่างการกินในวิหารของคนต่างชาติ ซึ่งถือเป็นการมีส่วนร่วมกับการบูชาที่เกี่ยวข้องกับปีศาจ และการกินในบ้านส่วนตัว ในบริบทหลังนี้ อาหารนั้นไม่ใช่ปัญหาในตัวมันเอง เว้นแต่การกระทำนั้นจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่ายอมรับการบูชารูปเคารพ หรือทำให้จิตสำนึกที่อ่อนแอกว่าต้องสะดุด ด้วยเหตุนี้ เปาโลจึงสนับสนุนให้ระมัดระวังในเรื่องดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นว่าความเข้าใจผิดของอีกฝ่ายหนึ่งมีความสำคัญมากกว่าเสรีภาพส่วนบุคคลในเรื่องที่ไม่มีหลักการเฉพาะเจาะจง

สุดท้ายนี้ เปาโลได้กล่าวถึงหัวข้อที่ละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม โดยเปรียบเทียบความสัมพันธ์ในการสมรสกับความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระเจ้าและคริสตจักร ท่านได้อธิบายโครงสร้างอำนาจภายในชีวิตสมรส ซึ่งสะท้อนถึงพระตรีเอกภาพ โดยเน้นย้ำว่าชายและหญิงมีความเท่าเทียมกันในคุณค่า แต่มีบทบาทที่แตกต่างกัน และต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ท่านยังตำหนิชาวโครินธ์ที่จัดการงานเลี้ยงพระกระยาหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดความรักและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างคนร่ำรวยกับคนยากจน ท่านเรียกร้องให้มีการตรวจสอบตนเองอย่างจริงจัง เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของการระลึกถึงพระคริสต์และการเป็นหนึ่งเดียวของพระกายของพระองค์อย่างแท้จริง

 

ข้อคิด: 1 โครินธ์ 9-11

พระเจ้าจะไม่ทรงปล่อยให้เราถูกล่อลวงเกินกว่าที่เราจะทนได้ โดยพระองค์จะประทานกำลังให้เราปฏิเสธการล่อลวงของซาตานได้เสมอ ตามที่กล่าวไว้ใน 1 โครินธ์ 10:12–13 ดังนั้น เราควรมอบความไว้วางใจในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ แทนที่จะพึ่งพากำลังของตนเอง เพราะพระองค์คือแหล่งกำเนิดของกำลังทั้งหมดที่เราต้องการเพื่อเชื่อฟังและเอาชนะการล่อลวงทุกรูปแบบ อีกทั้งพระองค์ยังเป็นบ่อเกิดแห่งความชื่นชมยินดีที่แท้จริงของเราด้วย

 

คำถาม

1.   การที่เปาโลเปรียบเทียบชีวิตคริสเตียนเหมือน "นักวิ่งในสนาม" ที่ต้องควบคุมตนเองและยอมสละสิทธิส่วนบุคคลเพื่อจะได้รับ "รางวัล" (บทที่ 9) ชวนให้เราตั้งคำถามว่า สิ่งที่เรากำลังทุ่มเททำอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง หรือมีเป้าหมายเพื่อขจัดอุปสรรคขวางกั้นข่าวประเสริฐอย่างแท้จริง? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของการมีเสรีภาพไม่ใช่การทำตามใจชอบ แต่คือการ "รู้จักบังคับตนเอง" ในทุกสิ่ง เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นที่สะดุดแก่ผู้อื่น และเพื่อให้การกระทำทุกอย่าง—แม้แต่เรื่องกินดื่ม—มีปลายทางคือการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ตาม 1 โครินธ์ 10:31)

2.   เมื่อพิธีมหาสนิทถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อ "ระลึกถึง" การวายพระชนม์ของพระคริสต์ (บทที่ 11) เหตุใดเปาโลจึงเตือนอย่างรุนแรงว่าการกินดื่มโดยไม่ "พิจารณาพระกาย" (ซึ่งหมายรวมถึงการไม่ใส่ใจพี่น้องที่ยากจนในคริสตจักร) ถือเป็นการดื่มการพิพากษามาสู่ตนเอง? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของพิธีนี้ไม่ใช่เพียงศาสนพิธีส่วนตัวเพื่อรับพระพร แต่คือการประกาศความเป็นหนึ่งเดียวกันของ "ชุมชนผู้เชื่อ" ซึ่งเรียกร้องให้เราขจัดความเห็นแก่ตัวและการแบ่งชนชั้น เพื่อให้ชีวิตร่วมกันของเราสะท้อนถึงความรักเสียสละแบบที่พระเยซูทรงกระทำบนไม้กางเขน)

 

 

1 โครินธ์ บทที่ 9 มุ่งเน้นไปที่หลักการสำคัญ 3 ประการคือ สิทธิอำนาจ การสละสิทธิ์ และ วินัยในการดำเนินชีวิตคริสเตียน โดยมีอัครทูตเปาโลเป็นแบบอย่าง

1. การสละสิทธิ์เพื่อเห็นแก่ข่าวประเสริฐ (ข้อ 1-18)

เปาโลยืนยันว่าผู้รับใช้พระเจ้ามีสิทธิที่จะได้รับการเลี้ยงดูและการสนับสนุนทางการเงินจากผู้ที่ได้รับใช้ (เปรียบเทียบกับหลักการในสังคม เช่น ทหาร, ชาวสวนองุ่น และธรรมบัญญัติของโมเสส)

  • สิทธิของเปาโล: ท่านมีสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับงานประกาศ
  • การเลือกสละสิทธิ์: ท่านเลือกที่จะไม่ใช้สิทธินั้นในการรับการสนับสนุนจากคริสตจักรโครินธ์ เพื่อที่ข่าวประเสริฐจะได้ไม่ถูกขัดขวางหรือมีภาระติดขัดใด ๆ
  • ข้อคิดหลัก: ความรักต่อข่าวประเสริฐและการเห็นแก่ประโยชน์ฝ่ายวิญญาณของผู้อื่น ควรอยู่เหนือสิทธิและความสะดวกสบายส่วนตัวของเรา เราต้องเต็มใจที่จะเสียสละผลประโยชน์ที่ชอบธรรม เพื่อให้พันธกิจของพระเจ้าดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์และมีประสิทธิภาพ

2. การปรับตัวเพื่อเข้าถึงคนให้ได้มากที่สุด (ข้อ 19-23)

เปาโลทำตัวเหมือนเป็นทาสของทุกคน โดยการปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม เพื่อนำพวกเขามาถึงความรอด

  • ต่อคนยิว: ท่านปฏิบัติตัวเหมือนอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ
  • ต่อคนต่างชาติ: ท่านดำเนินชีวิตเหมือนคนนอกธรรมบัญญัติ
  • เป้าหมาย: ท่านทำทุกอย่างเพื่อที่จะ "ชนะคนให้ได้มากที่สุด" และมีส่วนร่วมในพระพรของข่าวประเสริฐ
  • ข้อคิดหลัก: ในการทำพันธกิจ เราต้องมีความยืดหยุ่นทางวิธีการ เพื่อเข้าถึงคนต่างพื้นเพได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงรักษาความจริงของพระกิตติคุณไว้

3. ชีวิตคริสเตียนคือการแข่งขันที่มีวินัย (ข้อ 24-27)

เปาโลเปรียบเทียบชีวิตแห่งความเชื่อเหมือนนักกีฬาที่วิ่งแข่งและชกมวย ซึ่งต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักและมีวินัย

  • รางวัลที่ยั่งยืน: นักกีฬาในโลกฝึกฝนเพื่อมงกุฎที่ร่วงโรย แต่คริสเตียนวิ่งเพื่อมงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรย (บำเหน็จนิรันดร์)
  • การควบคุมตนเอง: ท่านเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการฝึกฝนควบคุมร่างกายและจิตใจอย่างเคร่งครัด
  • คำเตือน: ท่านทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้ตัวท่านเองถูก "ตัดสิทธิ์" หรือใช้การไม่ได้ หลังจากที่ได้ประกาศและสอนคนอื่นแล้ว
  • ข้อคิดหลัก: ชีวิตคริสเตียนต้องอาศัยวินัย ความมุ่งมั่น และการบังคับตนเองอย่างต่อเนื่อง เราต้องดำเนินชีวิตอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน เพื่อให้สมควรได้รับรางวัลที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้

หลักการสำคัญจาก 1 โครินธ์ บทที่ 9 คือการสละสิทธิ์ส่วนตัวและการฝึกฝนวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัดเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการประกาศข่าวประเสริฐและรับรางวัลนิรันดร์