เรื่องย่อ
เมื่อถูกโจมตีด้วยคำพูดที่คมคายและการดูถูกจากผู้ที่ไม่เห็นด้วย อัครทูตเปาโลกลับประกาศว่าอาวุธในการต่อสู้ของท่านไม่ใช่ของโลก แต่เป็นอาวุธฝ่ายวิญญาณที่มีฤทธิ์เดชของพระเจ้าในการทำลายป้อมปราการแห่งความภาคภูมิใจและแนวคิดผิดๆ เพื่อปกป้องอำนาจแห่งการเป็นอัครทูตของท่าน เปาโลถูกบีบให้ต้อง "โอ้อวด" แต่เป็นการโอ้อวดในความอ่อนแอของท่านเอง เพราะท่านเข้าใจว่าเมื่อใดที่ท่านอ่อนแอ เมื่อนั้นพระเจ้าจะทรงเข้มแข็งในตัวท่าน ดังที่พระองค์ตรัสว่า "พระคุณของเราก็พอสำหรับเจ้า เพราะความเข้มแข็งของเราจะบริบูรณ์เมื่อเจ้าอ่อนแอ" เปาโลยังได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสภาพฝ่ายวิญญาณของชาวโครินธ์ พร้อมทั้งเตือนให้พวกเขาสอบสวนตัวเองและกลับใจก่อนที่ท่านจะมาถึงในครั้งที่สาม เพื่อจะได้ไม่จำเป็นต้องจัดการกับผู้ที่ยังอยู่ในบาปอย่างเข้มงวด เป็นการจบจดหมายด้วยการเรียกร้องให้รักกัน ปรองดองกัน และรับพรจากพระเจ้าอย่างครบถ้วน
เปาโลวางแผนที่จะกลับไปเยี่ยมเมืองโครินธ์อีกครั้ง โดยคาดหวังให้พวกเขาจัดการกับบาปของตนเองก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่ยากลำบาก ท่ามกลางคำโกหกมากมายที่แพร่กระจายเกี่ยวกับเขา เปาโลยืนยันว่าจะไม่ตอบโต้ด้วยกำลังทางกายภาพ แต่จะทำสงครามฝ่ายวิญญาณผ่านการอธิษฐาน ความเชื่อ ความจริง และการเชื่อฟัง โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณ เขาจะนำความจริงมาเปิดเผย ลงโทษการไม่เชื่อฟัง และทำลายคำโกหกของศัตรูเกี่ยวกับพันธกิจของเขา เปาโลหวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่การเติบโตในความเชื่อของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลให้ข่าวประเสริฐแพร่หลายออกไปในวงกว้างยิ่งขึ้น
แม้คริสตจักรโครินธ์จะเต็มไปด้วยปัญหา เปาโลยังคงปรารถนาที่จะนำเสนอพวกเขาในฐานะ "หญิงพรหมจารีที่บริสุทธิ์แด่พระคริสต์" เพราะข่าวประเสริฐมีพลังชำระคนบาปให้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม เปาโลรู้สึกกังวลอย่างยิ่งที่มีผู้พยายามบิดเบือนข่าวประเสริฐ เขาเปรียบเทียบตนเองกับบรรดา "อัครทูตพิเศษ" ที่เป็นที่นิยม โดยกล่าวว่าแม้เขาอาจไม่ใช่ผู้พูดที่น่าประทับใจ แต่เขากำลังเทศนาความจริงอันประเสริฐ ส่วนบรรดาอัครทูตเทียมเท็จเหล่านั้นแท้จริงแล้วคือผู้รับใช้ของซาตาน เปาโลได้พิสูจน์ความจริงใจด้วยการรับใช้พวกเขาโดยไม่คิดค่าตอบแทน ซึ่งแตกต่างจากอัครทูตเทียมเท็จที่ฉวยโอกาส เอาเปรียบ และทำร้ายชาวโครินธ์ทางวิญญาณ ในขณะที่เปาโลยอมทนต่อความยากลำบากนานัปการเพื่อพระกิตติคุณ พวกศัตรูใช้สิ่งนี้โจมตีเขา แต่เปาโลยังคงยึดมั่นในความรักและความห่วงใยอย่างลึกซึ้งต่อผู้คนที่เขารับใช้
เปาโลได้แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับนิมิตที่เขาได้รับเมื่อสิบสี่ปีก่อน ซึ่งเขาถูกยกขึ้นสู่ "สวรรค์ชั้นที่สาม" และได้ยินสิ่งที่ไม่สามารถเอ่ยถึงได้ การเปิดเผยอันยิ่งใหญ่นี้มาพร้อมกับ "หนามในเนื้อหนัง" ซึ่งเป็นบททดสอบตลอดชีวิตที่พระเจ้าทรงอนุญาตเพื่อรักษาความถ่อมตนของเขา แม้เขาจะอธิษฐานขอให้สิ่งนี้ถูกนำออกไปถึงสามครั้ง พระเจ้าปฏิเสธ โดยยืนยันว่าพระคุณของพระองค์เพียงพอที่จะค้ำจุนเขาในความอ่อนแอ เพื่อให้ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าสำแดงออกผ่านชีวิตเขา ก่อนที่เขาจะมาเยี่ยมเยียน เปาโลได้เตือนให้ชาวโครินธ์ "จงสำรวจตัวเองว่าท่านอยู่ในความเชื่อหรือไม่ จงพิสูจน์ตัวเอง" (2 โครินธ์ 13:5) เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบความสัมพันธ์กับพระคริสต์ ซึ่งเป็นคำถามสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรพิจารณา
ข้อคิด: 2 โครินธ์ 10-13
เปาโลประกาศว่า "ข้าพเจ้าจะยินดีอวดความอ่อนแอของข้าพเจ้ามากยิ่งขึ้น เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะสถิตอยู่กับข้าพเจ้า" (2 โครินธ์ 12:9) วลี "เพื่อ" ในที่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเปาโลยินดีที่จะยอมรับและอวดความอ่อนแอของตน เพื่อที่เขาจะสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์ได้อย่างเต็มที่ การประกาศถึงความเพียงพอของพระคริสต์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่เสริมกำลังเราให้ทนต่อการทดลองต่างๆ ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของความชื่นชมยินดีและความเข้มแข็งอีกด้วย เพราะเมื่อเราสรรเสริญพระองค์ เราจะได้รับกำลังใจและพบความสุขแท้จริงในพระนามของพระเจ้า
คำถาม
1. คำตอบของพระเจ้าที่มีต่อ "หนามในเนื้อ" ของเปาโลที่ว่า "การที่มีกําลังน้อย ก็ทำให้ฤทธิ์เดชของเราปรากฏอย่างครบถ้วน" (บทที่ 12) ท้าทายแนวคิดที่เรามักเชื่อว่า "พระพรคือชีวิตที่ราบรื่นไร้ปัญหา" ให้เปลี่ยนไปอย่างไร? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของความอ่อนแอหรือข้อจำกัดที่ยังคงอยู่ในชีวิต อาจไม่ได้มีไว้เพื่อกลั่นแกล้ง แต่มีไว้เพื่อ "จำกัดความเย่อหยิ่ง" และเปิดทางให้เราหยุดพึ่งพาตนเอง เพื่อให้ฤทธิ์เดชของพระคริสต์เข้ามาครอบครองและทำงานผ่านชีวิตเราได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด)
2. ในขณะที่เปาโลต่อสู้เพื่อยืนยันสิทธิอำนาจของท่านต่อหน้าผู้ต่อต้าน ท่านกลับย้ำเสมอว่าอำนาจนี้พระเจ้าประทานให้ "เพื่อการก่อร่างสร้างขึ้น ไม่ใช่เพื่อการทำลายลง" (บทที่ 10 และ 13) หลักการนี้ควรใช้เป็นมาตรวัดเพื่อตรวจสอบ "การใช้อำนาจ" หรือ "ความเป็นผู้นำ" ของเราในปัจจุบันอย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของสิทธิอำนาจฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่เพื่อการควบคุม สั่งการ หรือปกป้องสถานะของตนเอง แต่มีเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ชีวิตของผู้ตาม "เข้มแข็ง" และ "เติบโต" ในความเชื่อ หากการใช้อำนาจนั้นทำให้เกิดการแตกหักโดยไม่จำเป็น ย่อมผิดไปจากพระประสงค์ของพระเจ้า)
2 โครินธ์ บทที่ 12 เป็นส่วนสำคัญที่เปาโลใช้ป้องกันความเป็นอัครทูตของท่าน และให้ข้อคิดที่ทรงพลังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ความอ่อนแอของมนุษย์ และ ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า
1. ความจำเป็นของ "หนามในเนื้อ" (ข้อ 1-7)
- ประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณอันสูงส่ง: เปาโลเล่าถึงประสบการณ์การถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม และได้ยินถ้อยคำที่มนุษย์ไม่สามารถกล่าวได้ (ข้อ 2-4)
- ข้อคิด: พระเจ้าสามารถประทานการเปิดเผยหรือประสบการณ์ทางวิญญาณอันยิ่งใหญ่แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ได้
- เครื่องมือป้องกันความเย่อหยิ่ง: เพื่อป้องกันไม่ให้เปาโลยกตัวเพราะการเปิดเผยนี้ พระเจ้าจึงทรงประทาน "หนามในเนื้อ" (ข้อ 7) ให้แก่ท่าน
- ข้อคิด: พระเจ้าอนุญาตให้มีความทุกข์ยาก ความอ่อนแอ หรือความบกพร่องบางอย่างในชีวิตเรา เพื่อเป็น "ยาถ่อมใจ" ไม่ให้เราพึ่งพาตัวเองหรือหยิ่งผยองในของประทาน
2. พระคุณเพียงพอในความอ่อนแอ (ข้อ 8-10)
- คำอธิษฐานที่ไม่ได้รับตามขอ: เปาโลอธิษฐานขอให้หนามนั้นถูกถอนออกไปถึงสามครั้ง แต่พระเจ้าไม่ได้ตอบตามที่ท่านขอ
- คำตอบอันศักดิ์สิทธิ์: พระเจ้าตรัสตอบว่า "พระคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีกำลังของความเข้มแข็งปรากฏเต็มที่" (ข้อ 9)
- ข้อคิดหลัก: พระคุณของพระเจ้าเพียงพอที่จะประคองเราผ่านความอ่อนแอทุกรูปแบบ ความอ่อนแอของเราไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นภาชนะที่ทำให้ฤทธิ์อำนาจ (หรือกำลัง) ของพระคริสต์สำแดงออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- การอวดอ้างที่ถูกต้อง: เปาโลจึงสรุปว่าท่านจึงพอใจในความอ่อนแอและความทุกข์ยากเหล่านั้น เพราะ "เมื่อข้าพเจ้าอ่อนแอ เมื่อนั้นแหละข้าพเจ้าจึงจะเข้มแข็ง" (ข้อ 10)
3. การรับใช้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ (ข้อ 11-18)
- เครื่องหมายของอัครทูตแท้: เปาโลแสดงให้เห็นว่าความเป็นอัครทูตของท่านได้รับการพิสูจน์ด้วย หมายสำคัญและการอัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นในหมู่ชาวโครินธ์ (ข้อ 12)
- การเสียสละเพื่อคนอื่น: เปาโลยืนยันว่าท่านไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ทางการเงินจากพวกเขา แต่พร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งเพื่อพวกเขา (ข้อ 14-15)
- ข้อคิด: การรับใช้ที่แท้จริงคือการให้ด้วยความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่การแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือทรัพย์สมบัติ
พี่น้องทั้งหลาย จงจดจำคำสัญญาอันยิ่งใหญ่นี้จาก 2 โครินธ์ 12: "พระคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว" อย่ามองความอ่อนแอ ความบกพร่อง หรือความทุกข์ยากในชีวิตของคุณว่าเป็นอุปสรรคต่อพระเจ้า แต่จงมองว่าเป็นโอกาส ความอ่อนแอคือช่องว่างที่เปิดโอกาสให้ฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์ เข้ามาทำงานในชีวิตของคุณอย่างเต็มที่ เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้ อ่อนล้า หรือไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ให้คุณวางใจในพระคุณที่เพียงพอของพระเจ้า และเมื่อนั้นคุณจะพบว่าเมื่อคุณอ่อนแอ พระองค์ทรงทำให้คุณเข้มแข็ง จงพอใจในพระคุณของพระองค์และดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจ!