Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 11

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 12

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 13

เรื่องย่อ

จากเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของผู้กล้าแห่งความเชื่อที่บันทึกไว้ในทำเนียบเกียรติยศ ฮีบรู 11-13 ได้จุดประกายให้เราก้าวเดินในเส้นทางแห่งความเชื่ออันมั่นคง โดยชี้ให้เห็นถึงเมฆหมอกของพยานผู้สัตย์ซื่อมากมายที่คอยหนุนใจให้เราทิ้งภาระและบาปที่ถ่วงอยู่ แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างอดทน โดยจับจ้องไปที่พระเยซูผู้ทรงเป็นผู้บุกเบิกและผู้ทำให้ความเชื่อสมบูรณ์แบบ จากนั้น ผู้เขียนได้เปลี่ยนไปสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเรียกร้องให้ดำเนินชีวิตด้วยความรักฉันพี่น้อง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อแขกแปลกหน้า ระลึกถึงผู้ที่ถูกจำจอง ให้เกียรติการสมรส และใช้ชีวิตด้วยความพอใจ ไม่โลภในทรัพย์สินเงินทอง สุดท้าย ท่านได้กำชับให้เชื่อฟังผู้นำฝ่ายวิญญาณและจงถวายเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญแด่พระเจ้าเสมอ รวมถึงการทำความดีและแบ่งปันแก่ผู้อื่น เป็นการสรุปว่าชีวิตแห่งความเชื่อที่แท้จริงนั้นต้องสำแดงออกในทางปฏิบัติอันเปี่ยมด้วยความรักและการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในทุกสิ่ง

 

บทที่ 11 ของจดหมายฮีบรู หรือ "หอแห่งความเชื่อ" เริ่มต้นด้วยการให้คำจำกัดความของความเชื่อว่าเป็นความแน่ใจในสิ่งที่หวังและมั่นใจในสิ่งที่ยังไม่เห็น ซึ่งเป็นความเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในพระคริสต์ ผู้คนในพันธสัญญาเดิมก็รอดโดยความเชื่อนี้เช่นกัน โดยได้รับการรับรองและเป็นที่ยกย่องเพราะความเชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้ แม้จะไม่รู้จักพระนามพระเยซู การเดินไปตามเรื่องราวของบุคคลสำคัญในพันธสัญญาเดิม แสดงให้เห็นว่าความเชื่อไม่ได้เป็นเพียงการเชื่อว่าพระเจ้าจะอวยพรตามที่เราต้องการ แต่ยังรวมถึงการอดทนต่อการทดลองและความยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อด้วย บางคนประสบชัยชนะอันยิ่งใหญ่ แต่บางคนก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานขั้นสูงสุด

แม้บุคคลแห่งความเชื่อเหล่านี้จะไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้ในชีวิตนี้ (คือการมาของพระเมสสิยาห์) แต่ชีวิตของพวกเขาก็เป็นพยานถึงความสัตย์ซื่อของพระเจ้าและคุณค่าของพระเยซู ปัจจุบันพวกเขาอยู่ในที่ประทับของพระองค์และตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยแบบอย่างของพวกเขา ผู้เขียนกระตุ้นให้เราละทิ้งภาระทั้งปวงและจดจ่ออยู่กับเส้นชัย ในฐานะบุตรของพระเจ้า เราต้องยอมรับการตีสอนของพระองค์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขและฝึกฝนเรา ไม่ใช่เพื่อลงโทษ

ผู้เขียนหนุนใจให้ดำเนินชีวิตด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความบริสุทธิ์ และต่อสู้กับความขมขื่นและความบาป โดยอ้างถึงเอซาวเป็นตัวอย่างเพื่อเตือนว่าบาปมีผลที่ตามมา แม้ว่าพระเจ้าจะทรงอภัยบาป แต่ผลลัพธ์บางอย่างของการกระทำของเราอาจส่งผลกระทบในระยะยาวในชีวิตนี้ ผู้เขียนยังระบุถึงสิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย ได้แก่ ความรักต่อกัน ความเมตตาต่อคนแปลกหน้า การดูแลผู้ขัดสน การให้เกียรติการแต่งงาน ความพอใจ การเคารพผู้นำ การทำความดี การแบ่งปัน และการยึดมั่นในหลักคำสอนที่มั่นคง และจบลงด้วยคำอวยพรอันงดงามในบทที่ 13:20-21 โดยย้ำว่าพระเจ้าแห่งสันติสุขจะทรงทำให้เราเพียบพร้อมและทำกิจในเราเพื่อให้สำเร็จตามพระประสงค์ของพระองค์

 

ข้อคิด: ฮีบรู 11-13

ดังที่ฮีบรู 11:6 กล่าวไว้ว่า "แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าเลย เพราะผู้ที่จะมาหาพระเจ้าได้นั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จให้แก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์" พระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จ และบำเหน็จอันประเสริฐที่สุดที่เราจะได้รับจากการแสวงหาพระองค์คือการได้รู้จักพระองค์มากขึ้น ไม่มีสิ่งใดดีกว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ได้นานกว่า และไม่มีสิ่งใดที่จะถูกพรากไปจากเราได้ เพราะพระองค์ไม่เพียงทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงเป็นบำเหน็จนั้นเอง และในพระองค์นั่นแหละคือแหล่งแห่งความชื่นชมยินดี

 

คำถาม

1.   ในบทที่ 11 เมื่อผู้เขียนระบุว่าฮีโร่แห่งความเชื่อหลายคน "ตายไปโดยที่ยังไม่ได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้" แต่พวกเขายังคงยืนหยัดเพราะมองเห็น "บำเหน็จ" และ "เมืองที่พระเจ้าทรงสร้าง" แต่ไกล ความจริงข้อนี้ท้าทายให้เราเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ จากการมุ่งหวังความสำเร็จหรือคำตอบในโลกนี้ ไปสู่เป้าหมายใด? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของความเชื่อที่แท้จริง ไม่ใช่เครื่องมือในการเสกสรรปั้นแต่งชีวิตปัจจุบันให้สุขสบายตามใจนึก แต่คือ "ความมั่นใจ" ที่ทำให้เรายอมรับสถานะ "คนแปลกถิ่น" ในโลกนี้ เพื่อแสวงหาและมุ่งหน้าไปสู่อาณาจักรถาวรในสวรรค์ ซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่โลกมอบให้)

2.   ในบทที่ 12 เมื่อความทุกข์ยากถูกเปรียบเทียบว่าเป็น "การตีสอน" จากบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก เพื่อให้เรา "มีส่วนในความบริสุทธิ์ของพระองค์" การเปลี่ยนมุมมองจาก "ผู้ถูกกระทำ" มาเป็น "ผู้ถูกฝึกฝน" ช่วยตอบคำถามเรื่องวัตถุประสงค์ของความเจ็บปวดในชีวิตเราอย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของวิกฤตหรือความยากลำบากที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้น ไม่ใช่การลงโทษเพื่อทำลาย แต่เป็นกระบวนการ "ขัดเกลา" และ "สร้างกล้ามเนื้อฝ่ายวิญญาณ" เพื่อให้เราเกิดผลเป็นความชอบธรรม และมีความเข้มแข็งพอที่จะรับมรดกในอาณาจักรที่ไม่มีวันสั่นสะเทือนได้)

 

 

ฮีบรู บทที่ 13 เป็นบทสรุปที่เต็มไปด้วยคำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับการดำเนินชีวิตคริสเตียน โดยเน้นไปที่การสำแดงความเชื่อออกมาเป็น "การกระทำ" และการรักษาความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า นี่คือข้อคิดสำคัญที่สรุปได้จากบทนี้ครับ:

1. ความรักในชุมชนและความเมตตา (ข้อ 1-3)

  • รักพี่น้องต่อไป: การเป็นคริสเตียนไม่ได้มีแค่เรื่องส่วนตัวกับพระเจ้า แต่คือการรักษาความสัมพันธ์กับพี่น้องความเชื่อให้เหนียวแน่น
  • การต้อนรับแขก: เราควรมีใจกว้างขวาง เพราะบางครั้งเราอาจกำลังต้อนรับ "ทูตสวรรค์" โดยไม่รู้ตัว (สื่อถึงการปรนนิบัติผู้อื่นด้วยใจยินดี)
  • ความเห็นอกเห็นใจ: ให้ระลึกถึงผู้ที่ถูกจองจำหรือถูกทารุณ เหมือนกับว่าเราเผชิญเหตุการณ์นั้นร่วมกับเขา

2. ความบริสุทธิ์และการพอใจในสิ่งที่ตนมี (ข้อ 4-6)

  • ให้เกียรติการสมรส: เน้นย้ำความซื่อสัตย์ในชีวิตคู่และความบริสุทธิ์ทางเพศ
  • อย่ารักเงิน: ให้พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ เพราะพระเจ้าทรงสัญญาว่า "เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย" นี่คือรากฐานของความมั่นคงทางใจที่ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งของ

3. ความเชื่อที่มั่นคงและการเชื่อฟัง (ข้อ 7-9, 17)

  • เลียนแบบแบบอย่างที่ดี: ให้ระลึกถึงผู้นำที่สอนพระวจนะและดูแบบอย่างชีวิตของเขา
  • พระเยซูไม่เปลี่ยนแปลง: "พระเยซูคริสต์ทรงเหมือนเดิมทั้งเมื่อวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็นนิตย์" ข้อนี้เตือนสติว่าแม้โลกจะเปลี่ยนไป หรือมีคำสอนแปลกๆ เข้ามา แต่ความจริงของพระเจ้ายังคงเดิม
  • การเชื่อฟังผู้นำ: การให้ความร่วมมือกับผู้นำฝ่ายวิญญาณด้วยความยินดี เพื่อให้เขาทำงานดูแลจิตวิญญาณเราได้โดยไม่หนักใจ

4. การถวายเครื่องบูชาด้วยชีวิต (ข้อ 15-16)

  • คำสรรเสริญคือเครื่องบูชา: ไม่ใช่แค่สัตว์หรือสิ่งของ แต่คือ "คำสรรเสริญ" จากปากที่ยอมรับพระนามของพระองค์
  • การทำดีและการแบ่งปัน: พระเจ้าทรงพอพระทัยในเครื่องบูชาที่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่นและการแบ่งปันสิ่งที่มีให้แก่กัน

5. เป้าหมายสูงสุด: การทำตามพระทัยพระเจ้า (ข้อ 20-21)

  • พระเจ้าผู้ทรงเป็นแหล่งแห่งสันติสุข จะทรงให้เรา "สมบูรณ์ในความดีทุกอย่าง" เพื่อให้เราสามารถทำตามพระทัยของพระองค์ได้ โดยผ่านทางพระเยซูคริสต์

"ชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง ไม่ได้วัดกันที่ความรู้ในหัว แต่ใจที่พอเพียง มือที่ยื่นออกไปช่วยผู้อื่น และความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง"