Thai Mission Reading Plan 2025

อ่านพระคัมภีร์ให้สนุกและเกิดผลในหนึ่งปี มีข้อคิดที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ทุกตอน


Started on: Jan. 1, 2025

ร่วมกลุ่มอ่านพระคัมภีร์ในแผนนี้

อ่านพระคัมภีร์ | READ SCRIPTURES

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 7

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 8

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 9

THSV11 NIV AMP TNCV NASB NKJV NLT ESV
ฮีบรู 10

เรื่องย่อ

ฮีบรู 7-10 ได้เปิดเผยความเหนือกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นมหาปุโรหิตสูงสุดตามแบบเมลคีเซเดค ซึ่งถวายเครื่องบูชาเพียงครั้งเดียวเป็นนิตย์ นั่นคือพระกายของพระองค์เอง เพื่อไถ่บาปให้แก่มนุษย์ทุกคน ผู้เขียนเน้นย้ำว่าธรรมบัญญัติเพียงเป็นเงาของสิ่งดีที่จะมาถึง และเครื่องถวายบูชาสัตว์เป็นเพียงการเตือนความทรงจำถึงบาป ไม่ใช่การชำระบาปให้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง แต่พระเยซูทรงเป็นผู้ที่สิ้นสุดระบบเครื่องบูชานี้ด้วยการถวายพระองค์เองอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้เราผู้เชื่อมีโอกาสเข้าใกล้พระเจ้าด้วยใจที่แน่ใจในความเชื่อและมโนธรรมที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องถวายบูชาอีกต่อไป ท้ายที่สุด ท่านได้เรียกร้องให้ผู้เชื่อยึดมั่นในความหวังที่ได้ประกาศไว้ อย่าทอดทิ้งการประชุม และจงหนุนใจกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นวันแห่งการเสด็จมาของพระคริสต์ใกล้เข้ามา เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตอย่างสมกับความรอดอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงประทานให้

 

ผู้เขียนจดหมายฮีบรูได้เปรียบเทียบพระเยซูกับเมลคีเซเดค ซึ่งเป็นปุโรหิตที่อยู่ก่อนสมัยเลวี แสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงเป็นมหาปุโรหิตที่เหนือกว่า เพราะการสถาปนาปุโรหิตของพระองค์ไม่ได้มาจากเชื้อสายเลวี แต่มาจากความนิรันดร์ของพระองค์ ระบบธรรมบัญญัติเดิมนั้นดี แต่ได้ถูกแทนที่ด้วยระบบใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งมีพระเยซูเป็นมหาปุโรหิตสูงสุด พระองค์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพียงครั้งเดียวตลอดกาล ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องบูชาใดๆ อีกต่อไป เพราะงานไถ่บาปสำเร็จบริบูรณ์แล้ว

หลังจากชำระบาปของเราเสร็จสิ้น พระเยซูทรงประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการทำงานที่สำเร็จลุล่วงแล้ว พันธสัญญาเดิมมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตใจมนุษย์ได้ แต่พันธสัญญาใหม่นั้นแตกต่างออกไป เพราะถูกจารึกไว้ในใจ ทำให้เราถูกขับเคลื่อนด้วยความรักไม่ใช่กฎหมาย สิ่งนี้ทำให้พันธสัญญาเดิมล้าสมัย แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องยากสำหรับคริสเตียนชาวยิวที่ผูกพันกับธรรมบัญญัติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของพวกเขา

พันธสัญญาใหม่ยังคงต้องมีการหลั่งโลหิตเพื่อไถ่บาป แต่บัดนี้คือพระโลหิตอันสมบูรณ์แบบของพระคริสต์ที่หลั่งเพียง "ครั้งเดียวเป็นพอ" พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อรับเครื่องบูชา แต่เพื่อนำความรอดมาให้ผู้ที่รอคอยพระองค์อย่างใจจดใจจ่อ ผู้เขียนเน้นว่าระบบเครื่องบูชาเดิมเป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว แต่การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์ได้แก้ปัญหาบาปอย่างถาวร หากผู้ใดปฏิเสธความจริงเกี่ยวกับพระคริสต์ ก็เท่ากับกำลังสะสมการพิพากษาไว้ ผู้เขียนจึงเรียกร้องให้ผู้อ่านอดทน ยึดมั่นในความเชื่อ เข้าร่วมประชุมกัน และหนุนใจกันในความรักและการทำความดี โดยระลึกถึงการกลับมาของพระเยซู

 

ข้อคิด: ฮีบรู 7-10

การอ่านในวันนี้เผยให้เห็นสองแง่มุมที่เชื่อมโยงกันอย่างงดงาม โดยเริ่มจากการอธิบายถึงสถานที่ประทับเข้มข้นของพระเจ้าในสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระวิหาร ซึ่งกั้นไว้ด้วยม่าน แต่เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ ม่านนั้นก็ฉีกขาดจากบนลงล่าง (มัทธิว 27:51) เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่: สถานที่ประทับของพระเจ้าไม่จำกัดอยู่ในอาคารอีกต่อไป แต่พระวิญญาณของพระองค์เข้ามาสถิตในประชากรของพระองค์ การเปลี่ยนแปลงจิตใจของเราจึงเป็นไปได้โดยพระวิญญาณของพระองค์ที่สถิตอยู่ภายในเรา ฮีบรู 10:19–22 เน้นย้ำสิ่งนี้ โดยเชื้อเชิญเราให้เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ด้วยใจกล้า ผ่านทางพระโลหิตและพระกายของพระเยซูที่ถูกฉีกขาด เป็น "ทางใหม่และเป็นทางที่มีชีวิต" เพื่อให้เราได้เข้าใกล้พระบิดาโดยตรง เพราะพระองค์ทรงให้เราเข้ามาใกล้ พระองค์ทรงเป็นแหล่งแห่งความชื่นชมยินดีที่แท้จริง

 

คำถาม

1.   ทำไมผู้เขียนจึงย้ำอย่างหนักแน่นในบทที่ 9 และ 10 ว่า การถวายสัตวบูชาแบบเดิมทำได้เพียง "เตือนให้ระลึกถึงบาป" และชำระได้แค่ภายนอก แต่การถวายพระกาย "ครั้งเดียวเป็นพอ" ของพระเยซูนั้น สามารถชำระ "มโนธรรม" (Conscience) ของเราให้ขาวสะอาดได้? (เพื่อให้เราพิจารณาว่า วัตถุประสงค์ของการไถ่ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่การยกเลิกโทษทัณฑ์ทางกฎหมาย แต่ต้องการปลดปล่อยเราจาก "ความรู้สึกผิดฝังใจ" และ "การกระทำที่ตายแล้ว" เพื่อให้เราสามารถปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ได้อย่างมีเสรีภาพและเต็มหัวใจ โดยไม่ต้องพะวงกับความบกพร่องในอดีตอีก)

2.   ในบทที่ 10 เมื่อเราได้รับสิทธิพิเศษอันยิ่งใหญ่ให้ "มีใจกล้า" เข้าสู่สถานศักดิ์สิทธิ์ที่สุดผ่านทางพระโลหิตของพระเยซู ผู้เขียนกลับตามมาด้วยคำสั่งที่เน้นเรื่องชุมชนว่า "จงพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรจึงจะปลุกใจกันและกัน... อย่าขาดการประชุม" การเชื่อมโยงสิทธิส่วนบุคคลเข้ากับหน้าที่ต่อส่วนรวม สะท้อนวัตถุประสงค์ของการเข้าหาพระเจ้าอย่างไร? (เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักว่า วัตถุประสงค์ของการที่พระเจ้าเปิดทางให้เราเข้าถึงพระองค์ได้อย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพื่อให้เราปลีกวิเวกมีความสุขอยู่คนเดียว แต่เพื่อให้เรารับกำลังจากพระเจ้าแล้วนำมา "หนุนใจ" และ "ประคับประคอง" พี่น้องคนอื่นๆ ให้ยืนหยัดอยู่ได้ โดยเฉพาะเมื่อวันพิพากษากำลังใกล้เข้ามา)

 

 

ฮีบรู บทที่ 10 เป็นหนึ่งในบทที่มีความสำคัญในคัมภีร์ โดยเน้นเรื่องความสมบูรณ์แบบของการถวายบูชาของพระเยซูคริสต์ และการดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ นี่คือข้อคิดสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ครับ:

1. ความสมบูรณ์ที่มาเพียงครั้งเดียว

ผู้เขียนฮีบรูชี้ให้เห็นว่า ระบบการถวายเครื่องบูชาในพันธสัญญาเดิม (สัตว์) นั้นเป็นเพียง "เงา" ของสิ่งดีที่จะมาถึง และต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะไม่สามารถชำระบาปได้อย่างหมดจด

  • ข้อคิด: พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์แบบ ทรงยอมถวายพระองค์เองเพียง "ครั้งเดียวเป็นพอ" เพื่อยกบาปผิดของเราทั้งหมด เราไม่ต้องพยายามแสวงหาวิธีอื่นเพื่อลบล้างความผิดบาปด้วยตัวเองอีกต่อไป

2. มั่นใจในการเข้าหาพระเจ้า

ในสมัยก่อน มีเพียงปุโรหิตหลวงเท่านั้นที่เข้าสู่สถานบริสุทธิ์ที่สุดได้ แต่ผ่านทางพระโลหิตของพระเยซู "ม่าน" นั้นได้ถูกเปิดออกแล้ว

  • ข้อคิด: เรามีสิทธิพิเศษในการ "เข้าไปใกล้พระเจ้าด้วยใจจริงและด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ" (ข้อ 22) ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือเคยทำอะไรมา เราสามารถอธิษฐานและเข้าหาพระองค์ได้โดยตรงด้วยความมั่นใจ

3. พลังของการสามัคคีธรรม (ข้อ 24-25)

ข้อนี้เป็นข้อเตือนใจที่สำคัญมากสำหรับคริสตจักร: "อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น"

  • ข้อคิด: ความเชื่อไม่ใช่เรื่องของตัวใครตัวมัน เราต้องการพี่น้องคริสเตียนเพื่อ "กระตุ้นเตือนกันและกันให้มีความรักและทำความดี" การรวมตัวกันช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้นในวันที่ท้อใจ

4. คำเตือนเรื่องการจงใจทำบาป

บทนี้มีคำเตือนที่เคร่งครัดเรื่องการละทิ้งความเชื่อหรือการจงใจทำบาปต่อไปหลังจากได้รับความจริงแล้ว

  • ข้อคิด: ความรอดไม่ใช่ใบเบิกทางให้เราใช้ชีวิตตามใจชอบ แต่เป็นการเรียกให้เราดำเนินชีวิตอย่างบริสุทธิ์และยำเกรงพระเจ้าด้วยความซาบซึ้งในพระคุณ

5. ความอดทนคือคีย์สำคัญ (ข้อ 35-36)

"เพราะฉะนั้นอย่าละทิ้งความมั่นใจของท่าน... ท่านทั้งหลายจำเป็นต้องมีความทรหดอดทน เพื่อว่าเมื่อท่านได้ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าแล้ว ท่านจะได้รับสิ่งที่ทรงสัญญาไว้นั้น"

  • ข้อคิด: ชีวิตคริสเตียนอาจเจออุปสรรคและการเบียดเบียน แต่ความหวังของเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้ เราต้องอดทนและรักษาความเชื่อไว้ เพราะผลลัพธ์ที่พระเจ้าสัญญานั้นยิ่งใหญ่กว่าความทุกข์ยากในปัจจุบัน

ฮีบรู 10 หนุนใจให้เราเกาะติดพระเยซูผู้ทรงเป็นเครื่องบูชาที่สมบูรณ์ เข้าหาพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ หนุนใจพี่น้องในคริสตจักร และอดทนรอคอยพระสัญญาของพระองค์ด้วยความเชื่อ