เรื่องย่อ

ชาวอิสราเอลมาถึงภูเขาซีนาย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้พบกับพระเจ้าบนภูเขา พระเจ้าทรงแสดงพระองค์ด้วยพลังและความน่าเกรงขาม และได้ทรงทำพันธสัญญากับพวกเขา มอบพระบัญญัติสิบประการ และกฎหมายอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต นี่เป็นก้าวสำคัญในการก่อตั้งประชาชาติอิสราเอล เป็นการเปลี่ยนจากการเป็นกลุ่มคนเร่ร่อน ไปสู่ประชาชาติที่มีกฎหมายและหลักศีลธรรม แต่การยอมรับพระบัญญัติไม่ใช่เรื่องง่าย ชาวอิสราเอลทำผิดพันธสัญญา และต้องเผชิญกับผลที่ตามมา การกำหนดบทบัญญัติและการปฏิบัติตามก่อให้เกิดความขัดแย้งและความท้าทาย สร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเชื่อฟังและการดำเนินชีวิตตามหลักธรรม เป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับประวัติศาสตร์ของอิสราเอลในอนาคต

หลังจากการเดินทางอันยาวนาน ชาวอิสราเอลมาถึงภูเขาซีนาย สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าทรงเรียกพวกเขาให้เตรียมตัวพบพระองค์ การเตรียมตัวนี้ ไม่ใช่เพียงพิธีกรรมภายนอก แต่เป็นการแสดงถึงความเคารพ และความบริสุทธิ์ ภายในใจ การอาบน้ำ สวมเสื้อผ้าสะอาด และงดเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ แสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้าใกล้พระเจ้า ด้วยความเคารพ และความบริสุทธิ์ โดยปราศจากสิ่งที่อาจทำลายความสัมพันธ์นั้น ความจริงที่ว่าการไม่เชื่อฟังคำสั่งนี้ อาจนำไปสู่ความตาย แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ และอำนาจ ของพระเจ้า ที่ไม่อาจมองข้ามได้

การปรากฏตัวของพระเจ้าบนภูเขาซีนาย เป็นเหตุการณ์ที่น่าเกรงขาม พายุ ไฟ และแผ่นดินไหว แสดงให้เห็นถึงอำนาจ และความยิ่งใหญ่ ของพระองค์ พระบัญญัติสิบประการ ที่พระเจ้าประทานแก่โมเสส ไม่ใช่เพียงแค่กฎหมาย แต่เป็นหลักการสำคัญ ในการสร้างความสัมพันธ์ ที่ถูกต้อง ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า และระหว่างมนุษย์ด้วยกัน พระเจ้าทรงใช้พระนามส่วนตัวของพระองค์ เพื่อแสดงความสัมพันธ์ และความรัก ที่พระองค์มีต่อประชาชนของพระองค์ ก่อนที่จะประทานกฎหมาย เหล่านั้น

พระบัญญัติสิบประการ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการถวายเกียรติแด่พระเจ้า และการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ การห้ามการบูชารูปเคารพ และการใช้พระนามของพระเจ้าอย่างไม่เหมาะสม แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ และความสำคัญ ของพระเจ้า และการปกป้องชีวิต ความยุติธรรม และการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างดี เป็นหลักการสำคัญ ในการสร้างสังคม ที่ยั่งยืน และเป็นธรรม พระบัญญัติสิบประการ จึงเป็นรากฐานสำคัญ สำหรับการดำเนินชีวิต ตามพระประสงค์ของพระเจ้า และการสร้างสังคมที่เป็นธรรม

ข้อคิด: อพยพ 19-21

เมื่อผู้คนเห็นฤทธาของพระเจ้าและรู้สึกกลัว โมเสสพูดบางอย่างที่ดูขัดแย้งในตอนแรกว่า “อย่ากลัวเลย เพราะพระเจ้ามาเพื่อทดสอบพวกท่าน เพื่อให้พวกท่านมีความยำเกรงพระองค์ เพื่อพวกท่านจะได้ไม่ทำบาป” (20:20) ดังนั้นเราควรกลัวหรือไม่? มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการใช้คำว่ากลัวสองแบบ ความกลัวในคำว่า “อย่ากลัว” สื่อถึงความหวาดกลัว ความกลัวประเภทนี้ทำให้เราออกห่างจากพระเจ้า ซึ่งเป็นความบาปที่เกี่ยวข้อง แต่โมเสสใช้คำอื่นเมื่อเขาอ้างถึงความยำเกรงพระเจ้า ซึ่งสื่อถึงความนับถือและความเกรงขาม เป็นความยินดีที่เกี่ยวข้อง และมีผลในการดึงดูดเราเข้าหาพระเจ้า ความยำเกรงพระเจ้าประกอบด้วยความยินดีและความเกรงขามเป็นหลัก ซึ่งนำเราไปหาพระเจ้า เหมือนกับความรู้สึกเมื่อเรายืนอยู่ที่ขอบของภูผา Grand Canyon เราท่วมท้นไปด้วยการเห็นความสวยงาม แต่รู้ดีว่ายืนตรงขอบถ้าไม่ระวังอาจจะฆ่าชีวิตเราได้ โมเสสกล่าวว่าความกลัวแบบนี้ทำให้เราไม่ทำบาปต่อพระเจ้า ชื่นชมในขณะที่ต้องระวังไม่ให้ออกนอกทางของพระเจ้า ความยำเกรงเช่นนี้ที่ทำให้เราใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น เพราะพระองค์เป็นที่ที่ความชื่นชมยินดีอยู่!

คำถาม

1.   การสร้างและรักษาสัญญา: ในอพยพบทที่ 19 พระเจ้าทรงให้กฎเกณฑ์แก่ชาวอิสราเอล เพื่อให้พวกเขาเข้าใจถึงวิธีการดำเนินชีวิตในฐานะประชาชนของพระเจ้า ในสังคมปัจจุบัน กฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ มีบทบาทมากมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความยุติธรรม เราจะเปิดโอกาสให้ตัวเองและสังคมของเราเฝ้าสังเกตและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ได้อย่างไร? การสร้างสังคมที่เคารพต่อกฎเกณฑ์สามารถช่วยส่งเสริมสิ่งใดในชีวิตประจำวันของเรา?

2.   ความยุติธรรมและความเห็นอกเห็นใจ: ในอพยพบทที่ 21 มีการกำหนดข้อกฎหมายเกี่ยวกับความยุติธรรมและการปฏิบัติต่อผู้อื่น เช่น การป้องกันไม่ให้เกิดการค้าเครื่องบูชา ในปัจจุบัน เราจะนำหลักการเกี่ยวกับความยุติธรรมและความเห็นอกเห็นใจไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร? ในการทำงาน ร่วมกับผู้คนในชุมชนหรือในชีวิตส่วนตัว เราจะใส่ใจในการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างยุติธรรมและเห็นอกเห็นใจได้อย่างไร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสังคมที่เข้มแข็ง?

"พระบัญญัติสิบประการ" (The Ten Commandments) เป็นชุดคำสั่งทางศีลธรรมพระเจ้าได้ประทานให้กับโมเสสบนภูเขาซีนาย บัญญัติเหล่านี้เป็นพื้นฐานของกฎหมายและศีลธรรม ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน

บัญญัติสิบประการแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ:

1.  บัญญัติที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า (4 ข้อแรก)

o บัญญัติที่ 1: "จงอย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา" (อพยพ 20:3) หมายถึง การเคารพและนมัสการพระเจ้าองค์เดียว และไม่นับถือพระเจ้าอื่นใด

o  บัญญัติที่ 2: "อย่ากราบไหว้รูปเคารพ" (อพยพ 20:4) หมายถึง การไม่นับถือรูปเคารพใดๆ

o  บัญญัติที่ 3: "อย่าออกพระนามพระเจ้าอย่างไม่สมควร" (อพยพ 20:7) หมายถึง การใช้พระนามของพระเจ้าด้วยความเคารพและเหมาะสม

o  บัญญัติที่ 4: "จงระลึกถึงวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์" (อพยพ 20:8) หมายถึง การรักษาวันสะบาโต ซึ่งเป็นวันพักผ่อนและนมัสการพระเจ้า

2.  บัญญัติที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ (6 ข้อหลัง)

o  บัญญัติที่ 5: "จงนับถือบิดามารดาของเจ้า" (อพยพ 20:12) หมายถึง การเคารพและเชื่อฟังพ่อแม่ ซึ่งเป็นการแสดงความกตัญญู"

o  บัญญัติที่ 6: อย่าฆ่าคน" (อพยพ 20:13) หมายถึง การเคารพชีวิตของผู้อื่น และไม่ทำร้ายหรือฆ่าใคร

o  บัญญัติที่ 7: "อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา" (อพยพ 20:14) หมายถึง การซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของตน และไม่นอกใจ

o  บัญญัติที่ 8: "อย่าลักทรัพย์" (อพยพ 20:15) หมายถึง การไม่ขโมยสิ่งของของผู้อื่น"

o  บัญญัติที่ 9: อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน" (อพยพ 20:16) หมายถึง การพูดความจริง และไม่ใส่ร้ายหรือโกหกผู้อื่น

o  บัญญัติที่ 10: "อย่าโลภ" (อพยพ 20:17) หมายถึง การไม่โลภอยากได้สิ่งใดๆ ที่เป็นของผู้อื่น

ความหมายของบัญญัติสิบประการคือการเป็นแนวทางให้มนุษย์ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและชอบธรรม โดยมีหลักการสำคัญคือ:

• ความรักต่อพระเจ้า: บัญญัติสี่ข้อแรกเน้นถึงความสำคัญของการรักและเคารพพระเจ้า ซึ่งเป็นรากฐานของการดำเนินชีวิตที่ดี
• ความรักต่อเพื่อนมนุษย์: บัญญัติหกข้อหลังเน้นถึงความสำคัญของการรักและเคารพเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรักต่อพระเจ้า
• ความยุติธรรม: บัญญัติหลายข้อเน้นถึงความสำคัญของความยุติธรรม เช่น การไม่ฆ่าคน การไม่ลักทรัพย์ และการไม่เป็นพยานเท็จ
• ความบริสุทธิ์: บัญญัติบางข้อเน้นถึงความสำคัญของความบริสุทธิ์ทางใจและกาย เช่น การไม่ล่วงประเวณี

บัญญัติสิบประการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เพราะเป็นหลักการที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ในทุกยุคสมัย แม้ว่าสังคมและวัฒนธรรมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่หลักการพื้นฐานของความรัก ความยุติธรรม และความบริสุทธิ์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนควรยึดมั่น